เอเอฟพี - สื่อต่างประเทศรายงานวันที่ 30 มี.ค.ว่า ทางการจีนได้ประหารชีวิตนักโทษชาวฟิลิปปินส์ 3 คน ฐานลักลอบขนยาเสพติดแล้ว โดยการประหารมีขึ้นหลังจากทางการจีนปฏิเสธคำร้องขอของรัฐบาลฟิลิปปินส์ ที่ให้ละเว้นโทษประหารชีวิตแก่นักโทษทั้งสามมาหลายครั้ง
โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ นายเอ็ดวิน ลาเซียร์ดา แถลงว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้พยายามทุกวิถีทาง เพื่อวอนขอความเมตตาจากรัฐบาลจีน เว้นโทษประหารชีวิตให้นักโทษทั้งสาม อันได้แก่ รามอน เครโด วัย 42 ปี, แซลลี วิลลานูเอว่า วัย 32 ปี และอลิซาเบธ บาทาอิน วัย 38 ปี แต่ไม่สำเร็จ
รายงานข่าวกล่าวว่า ครอบครัวของนักโทษทั้งสาม ได้รับการแจ้งข่าว และอนุญาตให้เข้าพบได้ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะประหารชีวิต โดยมิราซอล เดลฟินาโด น้องสาวของ แซลลี วิลลานูเอวา หนึ่งในนักโทษที่ถูกประหารชีวิตฯ กล่าวว่า พี่สาวของเธอไม่รู้เลยว่าวันนั้นจะเป็นวันประหารฯ เธอถามว่า ทำไมครอบครัวมาเยี่ยมกันหลายคน สักพักจึงคิดได้ว่า คงจะถึงเวลาแล้ว และปลอบโยนครอบครัวว่า เธอปลงแล้ว ขอให้ช่วยดูแลลูกสองคนของเธอด้วย ให้ตั้งใจเรียนหนังสือ และเธอจะเป็นนางฟ้าคอยดูแลพวกเขาตลอดไป
รายงานข่าวกล่าวว่า นักโทษทั้งสามคนนี้ ถูกจับกุมในจีนเมื่อปี 2551 ด้วยข้อหาพยายามลักลอบขนเฮโรอีน หนัก 4 กิโลกรัม เข้าประเทศ ถูกตัดสินประหารชีวิตในปี 2552 และรอการประหาร 2 ปี แต่รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ดำเนินการช่วยเหลือทุกวิถีทางตลอดมา ท่ามกลางความสนใจของประชาชนในประเทศ โดยยืนกรานว่า ทั้งสามคนเป็นผู้บริสุทธิ ไม่มีเจตนา เพราะโดนหลอกใช้ และเป็นเหยื่อของขบวนการค้ายาเสพติดเช่นกัน ถึงแม้ทางการจีนไม่ได้ประกาศชื่อนักโทษประหารเหล่านี้ก็ตาม แต่เป็นที่ทราบกันภายในแล้วว่า ทางการจีนได้ประหารชีวิตนักโทษทั้ง 3 คนแล้ว ด้วยการฉีดสารพิษเข้าสู่ร่างกายเมื่อเช้าวันพุธ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา ทำลายความหวังของสมาชิกในครอบครัวฯ และก่อกระแสประณามการประหารฯ ในหมู่ประชาชนฟิลิปปินส์ ที่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก และต่อต้านการประหารชีวิต
เช่นเดียวกับผู้นำคริสตจักรในฟิลิปปินส์ ที่แสดงความไม่พอใจและเรียกร้องให้รัฐบาลจีนล้มเลิกโทษประหารฯ ด้านองค์การนิรโทษกรรมสากล ก็ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลฟิลิปปินส์ ประธานาธิบดีเบนิกโน อาคีโน ว่ายังดำเนินการไม่พอในการเจรจา หรือให้ข้อมูลหลักฐานอันจำเป็นเพื่อพิสูจน์และปกป้องชีวิตทั้งสาม