ASTVผู้จัดการออนไลน์ - รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กัมพูชา ประกาศในวันศุกร์ (30 ก.ค.) ที่ผ่านมา อ้างว่าคณะกรรมการมรดกโลกได้รับแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหารของฝ่ายกัมพูชาแล้ว นอกจากนั้น ผู้แทนของไทยยังได้ร่วมกับกัมพูชาและรัฐมนตรีบราซิล ลงนามในเอกสารสนับสนุนแผนบริหารจัดการดังกล่าวด้วย ซึ่งนับเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของกัมพูชา หลังจากที่ไทยคัดค้านมาตลอด
“มันเป็นสิ่งที่ประเทศไทยไม่เคยยอมรับมาก่อน ตอนนี้เขายอมรับแล้ว” นายโสก อาน (Sok An) กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์สดผ่านดาวเทียมจากกรุงบราซิเลีย ทั้งยืนยันอีกว่าคณะกรรมการมรดกโลกไม่ได้เลื่อนการพิจารณาจะ “รับหรือไม่รับ” แผนออกไปอย่างที่ฝ่ายไทยประกาศ
รองนายกฯ กัมพูชาที่นำคณะไปร่วมการประชุมครั้งที่ 34 ของคณะกรรมการมรดกโลกระหว่างวันที่ 25 ก.ค.จนถึงวันที่ 3 ส.ค.ขณะนี้ ได้ระบุว่า นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทย ได้เซ็นรับร่างเอกสาร ที่จัดทำโดยคณะกรรมการมรดกโลกในวันที่ 30 ที่ผ่านมา ในการประชุมที่นายฆวาว ลูอิซ ซิลวา เฟอร์ไรรา (Joao Luiz Silva Ferreira) รัฐมนตรีบราซิลเป็นประธาน
“นี่เป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของกัมพูชา และเป็นการพ่ายแพ้ครั้งสำคัญของประเทศไทย” รองนายกฯ กัมพูชากล่าว
นายอานยืนยันว่า คณะกรรมการมรดกโลกได้ “ยอมรับ” เอกสารรายงานเกี่ยวกับแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหารที่กัมพูชาเสนอไปแล้ว การประชุมครั้งต่อไปในบาห์เรน จะเป็นการพิจารณาแผนการอนุรักษ์ปราสาทพระวิหารอย่างยั่งยืนต่างหาก
“คณะกรรมการมรดกโลกได้กล่าวแสดงความพึงพอใจในความคืบหน้าของแผนบริหาร และ ขอให้ฝ่ายอีกฝ่ายหนึ่ง (กัมพูชา) ปฏิบัติตามบทบัญญัติ โดยการมีส่วนร่วมของประชาคมระหว่างประเทศ” ศูนย์ข่าวดืมอัมปึลในกรุงพนมเปญ ที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลรายงานเรื่องนี้ในบ่ายวันเดียวกัน
คณะกรรมการมรดกโลกยังแสดงความยินที่กัมพูชาจะจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานระหว่างประเทศ (ICC- International Coordinating Committee) ขึ้นมา เพื่อให้มีการอนุรักษ์ปราสาทอย่างยั่งยืน (ซึ่งจะมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่งในการประชุมปีหน้า) นายอานกล่าว
.
“พวกเขา (ยูเนสโก) ไม่เพียงได้ได้ยอมรับแผนบริหารจัดการที่กัมพูชาเสนอไปเท่านั้น แต่ยังยกย่องว่าเป็นแผนที่ดีเยี่ยมอีกด้วย”
นายไพ สีพัน (Phay Siphan) โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวก่อนหน้านี้ ยอมรับว่า การเจรจาระหว่างนายอานกับนายสุวิทย์ในวันพฤหัสบดี ไม่ประสบความสำเร็จ ต่างฝ่ายต่างยืนยันในจุดยืนของตน ฝ่ายไทยได้เสนอแผนการร่วมบริการจัดปราสาทพระวิหาร แต่กัมพูชายืนยันคัดค้านเรื่องนี้ หลังจากที่ได้คัดค้านมาตลอด
อย่างไรก็ตาม คำประกาศของรองนายกฯ กัมพูชา ขัดแย้งโดยสิ้นเชิงกับรายงานของสำนักข่าวต่างๆ ที่ระบุว่า คณะกรรมการมรดกโลกได้ตัดสินใจ “เลื่อน” การพิจารณาแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหารออกไป เป็นการประนีประนอม หลังจากไทยได้ประกาศจะถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลก และ สมาชิกองค์การยูเนสโก หากคณะกรรมการฯ ยอมรับแผนดังกล่าว
หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์อ้างคำให้สัมภาษณ์ของซู วิลเลียมส์ (Sue Williams) โฆษกขององค์การยูเนสโกในวันเดียวกัน ซึ่งระบุว่าความขัดแย้งระหว่างกัมพูชากับไทยนั้นเป็น “ประเด็นทวิภาคีอย่างแท้จริง” ซึ่งคณะกรรมการมรดกโลกไม่มีอำนาจหน้าที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย และยืนยันด้วยว่า การที่ฝ่ายไทยพูดถึง “การรับรอง” แผนจัดการของกัมพูชานั้น เป็น “การเข้าใจผิด”
“คณะกรรมการมรดกโลกไม่ได้ยอมรับหรือรับรองแผนใดๆ สิ่งที่พวกเขาทำได้ก็เพียงแค่พูดว่า แผนการบริหารจัดการนั้นได้ยื่นแล้ว” โฆษกคนเดียวกันกล่าว.