ASTVผู้จัดการรายวัน-- บริษัทวินาฟูด 1 (Vinafood 1) บริษัทของรัฐบาลซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ชนะการประมูลขายข้าวผสมข้าวหัก 5% ซึ่งเป็นข้าวคุณภาพดีที่สุด จำนวน 90,000 ตันให้แก่ประเทศอิรัก ทำให้ข้าวที่บริษัทจะส่งให้แก่อิรัก ตั้งแต่เดือน มี.ค.-พ.ค. รวมเป็นจำนวนทั้งหมด 150,000 ตัน ขณะที่เพิ่งชนะการประกวดราคาขายข้าวให้ฟิลิปปินส์อีก 600,000 ตันหยกๆ
การรุกตลาดอิรักนับเป็นก้าวสำคัญของเวียดนาม ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นเจ้าตลาดในแถบเอเชีย โดยเฉพาะอย่ายิ่งคือข้าวผสมเมล็ดหัก 25% ซึ่งเป็นข้าวคุณภาพต่ำ
ในเดือน ต.ค. 2552 ปีที่แล้ว วินาฟูด 1 และ บริษัทร่วมทุนเวียดนาม-อิรัก แห่งหนึ่งชนะการประกวดราคาจำหน่ายข่าวคุณภาพสูงจำนวน 60,000 ตันไปยังอิรัก การประกวดราคาครั้งล่าสุดนี้จะช่วยให้บริษัทซื้อข้าวจากผลผลิตของฤดูหนาว-ใบไม้ผลิ จากเกษตรกรท้องถิ่นได้ในราคาสูงขึ้น
สมาชิกของสมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) หรือ "เวียดฟูด" มีกำหนดที่จะประชุมกันที่ จ.อานซยาง (An Giang) เพื่อหารือถึงแผนการส่งเสริมการส่งออกข้าวในปี 2553 นี้ด้วย หนังสือพิมพ์เวียดนามนิวส์กล่าว
ตามรายงานของ VietFood เดือน ก.พ. ที่ป่านมาเวียดนามส่งออกข้าวทั้งหมด 350,000 ตัน ซึ่งลดลง 45% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2552 สื่อของทางการกล่าวว่า สัญญาส่งออกข้าวได้ลดจำนวนลง เนื่องจากผู้นำเข้าต่างรอให้ข้าวราคาถูกลง
"อย่างไรก็ตาม ศักยภาพในการส่งออกข้าวของเรายังคงสดใสกว่าช่วงปลายปี 2552 ที่ผ่านมา" นายฝั่มวันเบย (Pham Van Bay) รองประธานสมาคมอาหารฯ กล่าว
ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วเวียดนามชนะการประกวดราคาหลายครั้ง เพื่อจำหน่ายข้าวลอตใหญ่ให้แก่องค์การอาหารแห่งฟิลิปปินส์ ประเทศผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นตลาดข้าวใหญ่ที่สุดของเวียดนามในช่วงหลายปีมานี้
"เวียดนามจะดำเนินการตามสัญญาค้าข้าวที่จะส่งข้าวจำนวน 1.85 ล้านตันไปยังประเทศฟิลิปปินส์ในช่วงไม่กี่เดือนนี้ โดยฟิลิปปินส์จะซื้อข้าว 600,000 ตัน ภายในสิ้นเดือน มี.ค. นี้ กับอีก 200,000 ตัน จะซื้อโดยบริษัทเอกชน" นายเบยกล่าว
เมื่อเร็วๆ นี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้สั่งการโดยตรงมายังกระทรวงการคลังให้ซื้อข้าวจำนวน 50,000 ตัน เพื่อสำรองปี 2553 เพื่อช่วยให้ราคาข้าวในตลาดมีเสถียรภาพ
ปลายสัปดาห์ที่แล้ว VFA ได้สอบถามไปยังสมาชิกของสมาคมทั้งหมด 30 บริษัท เพื่อซื้อข้าวจำนวน 1 ล้าน ตัน เข้าเก็บสตอก เพื่อให้ราคาข้าวในอู่ข้าวใหญ่ที่ราบปากแม่น้ำโขงมีเสถียรภาพ หลังจากราคารับซื้อจากชาวนาลดวูบลง อันเป็นผลโดยตรงจากการส่งออกที่ลดลง.