นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะกลุ่มหัวหน้าสินค้า ดูแลสินค้า อาหาร และข้าว เปิดเผยว่า ประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย เป็นตลาดที่น่าสนใจในการขยายผลิตภัณฑ์การเกษตรกร โดยเฉพาะข้าว เพราะประเทศในแถบนี้ ไม่มีผู้ผลิตข้าว จึงต้องนำเข้าจากต่างประเทศเพื่อการบริโภคทั้งหมด โดยมีทั้งการนำเข้าจากประเทศผู้ผลิตและผู้ส่งออกโดยตรง เช่น ประเทศไทย ปากีสถาน อินเดีย สหรัฐอเมริกา จีน และเวียดนาม รวมทั้ง มีการนำเข้าผ่านประเทศอื่นๆ สหภาพยุโรป หรือประเทศใกล้เคียงอีกทอดหนึ่ง เช่น เบลเยียม เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักรสเปน และ ฝรั่งเศส
โดยข้าวที่นำเข้าไปจำหน่ายในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย ส่วนใหญ่จะใช้ในการบริโภคสำหรับประชาชน โดยเฉลี่ยประมาณ 141,000 ตันต่อปี มูลค่าประมาณ 187 ล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นการนำเข้าข้าวหอมมะลิจากประเทศไทย มูลค่าสูงถึง 29 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่า ตลาดในแถบนี้จะมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่เป็นตลาดที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง ประกอบกับ อาหารไทย เป็นที่นิยมอย่างมากเมื่อเทียบกับอาหารชาติอื่นๆ เช่น อาหาร จีน ญี่ปุ่น และ อาหารเวียดนาม
นอกจากนี้ ร้านอาหารจีนบ้างร้าน นิยมใช้ข้าวไทยในการประกอบอาหาร จึงเป็นโอกาสที่ดีในการขยายตัวส่งออกข้าวไทย
โดยข้าวที่นำเข้าไปจำหน่ายในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย ส่วนใหญ่จะใช้ในการบริโภคสำหรับประชาชน โดยเฉลี่ยประมาณ 141,000 ตันต่อปี มูลค่าประมาณ 187 ล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นการนำเข้าข้าวหอมมะลิจากประเทศไทย มูลค่าสูงถึง 29 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่า ตลาดในแถบนี้จะมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่เป็นตลาดที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง ประกอบกับ อาหารไทย เป็นที่นิยมอย่างมากเมื่อเทียบกับอาหารชาติอื่นๆ เช่น อาหาร จีน ญี่ปุ่น และ อาหารเวียดนาม
นอกจากนี้ ร้านอาหารจีนบ้างร้าน นิยมใช้ข้าวไทยในการประกอบอาหาร จึงเป็นโอกาสที่ดีในการขยายตัวส่งออกข้าวไทย