ASTVผู้จัดการออนไลน์--- นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน กล่าวเมื่อวันเสาร์ (6 ก.พ.) ว่า กัมพูชาต้องการให้สถานการณ์ชายแดนด้านปราสาทพระวิหาร กลับไปเหมือนเมื่อก่อนวันที่ 15 ก.ค.2551 และ พร้อมที่จะเปิดประตูขึ้นสู่ปราสาททางฝั่งไทยอีกครั้งหนึ่ง และ ว่ากัมพูชาต้องการพัฒนาความสัมพันธ์เพื่อร่วมพัฒนากับประเทศเพื่อนบ้าน
ฮุนเซนระบุดังกล่าวระหว่างสัมภาษณ์ หลังการเยือนที่ตั้งทหารแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างจากชายแดนไทยไปกว่า 10 กม. ในวันเดียวกัน
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ดืมอัมปึล นายกฯ กัมพูชาเดินทางถึงปราสาทพระวิหารในเวลาหลังเที่ยงวันเล็กน้อย ในชุดสนามของนายพล 5 ดาว และ ได้รับการต้อนรับจากขบวนฟ้อนรำอวยพรของเหล่านาฏศิลปิน ขณะที่พระสงฆ์สวดมนต์อวยพรแด่ผู้นำและคณะ
นายกอยเกือง (Koy Kuong) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ให้สัมภาษณ์ในคราวเดียวกันว่า ฮุนเซนจะไม่ไปเยี่ยมเยือนทหารและราษฎรที่อยู่ในพื้นที่รอบๆ ปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่า ผู้นำกัมพูชาจะไม่ลงไปยังบริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีเสาวรักษ์ ซึ่งอยู่ใน “เขตทับซ้อน” 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบๆ ปราสาท รวมทั้งราษฎรที่ตั้งบ้านเรือที่เชิงเขาทางฝั่งไทย
ทางการไทยประกาศก่อนหน้านี้ว่า หากผู้นำกัมพูชาจะลงไปที่นั่นจะต้องมีฝ่ายไทยไปให้การต้อนรับด้วย และจะต้องไม่มีการประกาศเป็นเจ้าของพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นเสมือนการ “ยื่นคำขาด” และเป็นการตั้งเงื่อนไขสำคัญในการเดินทางเข้าไปในพื้นที่พิพาทที่ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างความเป็นเจ้าของ
นับเป็นการเยือนปราสาทเก่าแก่ครั้งแรกของฮุนเซน นับตั้งแต่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในวันที่ 7 ก.ค.2551
ก่อนหน้านั้น โฆษกกัมพูชาได้ออกคำแถลงฉบับหนึ่งในวันศุกร์ที่ผ่านมายืนยันกำหนดการเยี่ยมเยือนพื้นที่ตลอดชายแดนติดกับไทย รวมทั้งบริเวณพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. ที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าศาลโลกได้ตัดสินให้เป็นของฝ่ายตนพร้อมๆ กับปราสาทพระวิหาร ตั้งแต่ปี 2505
แต้แล้วก็ได้ให้สัมภาษณ์ใหม่ว่า ฮุนเซนจะไม่ไปเยี่ยมทหารและราษฎรในพื้นที่ดังกล่าว
ก่อนหน้านั้นนายกฯ กัมพูชาพร้อมด้วยคณะ ที่ประกอบด้วยบุนรานีฮุนเซน ภรรยา นางแมนซัมอาน (Men Sam An) รองนายกฯ ฝ่ายกิจการสตรี นายสารเค็ง (Sar Kheng) รัฐมนตรีมหาดไทย และบรรดาผู้บัญชาการระดับสูงของกองทัพ ได้ไปเยือนที่ตั้งทหารแห่งหนึ่งห่างจากชายแดนไทยกว่า 10 กม.
ผู้นำกัมพูชาได้ยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า ฝ่ายตนต้องการให้สถานการณ์ชายแดนด้านปราสาทพระวิหารกลับไปเป็นเช่นก่อนวันที่ 15 ก.ค.2551 “เมื่อสถานการณ์กลับไปเป็นเช่นเดิม ผมก็พร้อมที่จะเปิดประตู (จากทางฝั่งไทย) สู่พระวิหาร”
ฮุนเซนยังกล่าวอีกว่ารัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชา “หวังที่จะกระชับความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับบรรดาประเทศเพื่อนบ้าน ในความพยายามทำให้พื้นที่ชายแดนเป็นพื้นที่แห่งมิตรภาพและความร่วมมือ”
นายกฯ กัมพูชาเปิดเผยในคราวเดียวกันนี้ ว่าได้สั่งกาให้กระทรวงมหาไทยกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูแลความมั่นคงโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณปราสาทพระวิหาร โดยให้ติดตั้งระบบโทรคมนาคมไปถึงที่นั่นอีกด้วย.