มทภ.2 ควงผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ออกจากพระวิหารแล้ว หลังพบ “ฮุนเซน” ราบรื่น “ปลวกแดง” ใจเขมร ป้อง “เพื่อนแม้ว” สุดชีวิต สุดเหิม!! ประกาศบุกรังชุมนุมพันธมิตรฯศรีสะเกษ อ้างเฉยทำ 2 ชาติเสียหาย “ม.ล.วัลย์วิภา” ชมรัฐบาลออกมาตรการโต้เขมรเทพจริงๆ ชาวภูมิซรอล รับเซ็งโคตรๆ เสียวบ้านโดนบอมบ์ ซ้ำหาของป่าไม่ได้
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ล่าสุดว่า ขณะนี้ พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 และนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเดินทางขึ้นไปรับ สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา บริเวณพื้นที่พิพาทบนเขาพระวิหาร นานกว่า 3 ชั่วโมง ได้เดินทางกลับลงมาแล้ว โดยการขึ้นไปรับสมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่มีการอนุญาตให้สื่อมวลชนขึ้นไปทำข่าวแต่อย่างใด โดยมีรายงานว่า การเข้าพบกันระหว่างแม่ทัพภาคที่ 2 และสมเด็จฯ ฮุนเซน เป็นไปอย่างราบรื่น ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของทหารทั้ง 2 ฝ่าย อย่างเข้มงวด
ขณะที่บรรยากาศใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ซึ่งรวมตัวกันบริเวณที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ ล่าสุดได้มีมติว่าจะเคลื่อนขบวนบางส่วนไปบริเวณศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ ซึ่งเป็นสถานที่ชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อแจ้งให้พันธมิตรฯ ออกจากพื้นที่ เพราะเห็นว่าการเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ของพันธมิตรฯ จะกระทบความสัมพันธ์ของประชาชนตามแนวชายแดน โดยรูปแบบการเคลื่อนไหวครั้งนี้ เน้นย้ำให้กลุ่มผู้ชุมนุมห้ามลงจากรถประชาสัมพันธ์ เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่งกัน
ขณะที่พันธมิตรฯ ยังปักหลักชุมนุมที่ศาลหลักเมือง ซึ่งมีเพียงการปราศรัย และไม่มีการเคลื่อนไหวออกจากพื้นที่แต่อย่างใด
ด้าน ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญสถาบันไทยคดีศึกษา ซึ่งเข้าร่วมเคลื่อนไหวกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในการต่อต้านการเดินทางมาบนพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร บริเวณปราสาทพระวิหาร ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวถึงมาตรการตอบโต้ของรัฐบาลไทยว่า เป็นมาตรการที่ดีแล้ว เพราะประเทศไทยต้องแสดงสิทธิ์เช่นกัน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานด้วยว่า การลงพื้นที่บริเวณพื้นที่พิพาทรอบปราสาทพระวิหารของ สมเด็จฯ ฮุนเซน ในวันนี้ (6 ก.พ.) ทำให้ชาวบ้านภูมิซรอลวิตกกังวลว่า จะส่งผลกระทบกับความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา จนนำไปสู่เหตุเผชิญหน้ากันของทหารทั้ง 2 ฝ่าย และจากเหตุการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดน ทำให้การเดินทางไปหาของป่าเป็นไปด้วยความลำบาก เพราะเจ้าหน้าที่เข้มงวดในการผ่านเข้า-ออก เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อความมั่นคง