ASTVผู้จัดการออนไลน์-- นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน ในชุดสนามของ "นายพลห้าดาว" กับ บุนรานีฮุนเซน "คุณหญิงแป้งจี่" ในชุดพรางทหารเดินทางถึง บริเวณปราสาทพระวิหารแล้วเมื่อเวลาประมาณเที่ยงวันวันเสาร์ (6 ก.พ.) หลังจากตรวจเยี่ยมทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนกัมพูชา ณ ที่ตั้งแห่งหนึ่งห้างจากชายแดนไทยกว่า 10 กม. หนังสือพิมพ์ดืมอัมปึล รายงานบนเว็บไซต์เมื่อประมาณ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา
หนังสือพิมพ์รายวันภาษาเขมรที่มีความใกล้ชิดกับรัฐบาลฉบับนี้ ไม่ได้รายงานในรายละเอียดว่าฮุนเซนไปถึงปราสาทพระวิหารเมื่อเวลาเท่าไรและเดินทางไปที่นั่นด้วยวิธีใด แต่เจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาพที่ 2 ของไทย จะกล่าวก่อนหน้านี้ว่า นายกฯ กัมพูชาจะเดินทางไปยังจุดใกล้กับปราสาทฮินดูสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 11 โดยเฮลิคอปเตอร์ ก่อนจะัขึ้นสู่ปราสาทด้วยรถยนต์
ร่วมคณะไปกับนายกฯ กัมพูชา ยังรวมทั้ง พล.อ.พลสะเรือน ผู้บัญชากองทัพกัมพูชา นายสารเค็ง (Sar Kheng) พล.อ. รัฐมนตรีมหาดไทย รวมทั้งนางแมนซัมอาน (Men Sam An) รองนายกรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการสตรีของประเทศ ในชุดพรางของทหารเช่นเดียวกัน แต่ดืมอัมปึลไม่ได้รายงานว่า รองนายกฯ หญิงไปที่นั่นด้วยภารกิจอะไร
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า นายกฯ กัมพูชามีแผนการจะเดินทางไปเยี่ยมเยือนทหารที่ตั้งมั่นในบริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีเสาวรักษ์ ในพื้นที่ทับซ้อนกับไทยหรือไม่
ภาพที่ดืมอัมปึลนำเผยแพร่บนเว็บไซต์แสดงให้เห็นขบวนของฮุนเซนได้รับการต้อนรับจากบรรดานายทหารระดับผู้บัญชาการกองทัพภาค และกองพล เบื้องหลังยังแสดงให้เห็นเฮลิคอปเตอร์ กับกำลังพลจำนวนมาก ยืนแถวอย่างเป็นระเบียบขณะที่ผู้นำสูงสุดเดินตรวจขบวนแถว
วันศุกร์ (5 ก.พ.) ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาได้ออกแถลงปัดปฏิเสธ ไม่สนใจท่าทีของฝ่ายไทยเกี่ยวกับการเยือนชายแดนด้านพระวิหารของฮุนเซน โดยระบุว่า "ไร้สาระและไม่เข้าท่า" หากไทยจะคัดค้านการเยือนดังกล่าว และ ยืนยันว่าผู้นำยังคงกำหนดการต่างๆ ทุกประการ และ ไม่เพียงแต่ชายแดนด้านปราสาทพระวิหารเท่านั้น หากยังรวมถึงชายแดนด้านตะวันตกทั้งหมดอีกด้วย
คำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศได้อ้างการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ระบุว่า หากฮุนเซนจะเดินทางเข้าพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. ก็จะต้องมีการะพูดจากกันก่อน
“มันช่างน่าแปลกใจและเกินกว่าจะสามารถเข้าใจได้ที่ประเทศไทยพิจารณาการจัดส่งเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสไปต้อนรับสมเด็จเตโชฮุนเซน ที่กำลังจะเดินทางไปยังเขตแดนของกัมพูชา” คำแถลงที่ออกในนามโฆษกกระทรวงการต่างประเทศระบุ ทั้งยังกล่าวหาอีกว่าการที่ไทยใช้แผนที่ของตนเพียงฝ่ายเดียวนั้น ได้กลายเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เกิดความตึงเครียดที่ชายแดน
โฆษกกัมพูชายังคงออกโต้เสียงแข็งต่อไปอีกว่า ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่กัมพูชาจะต้องไปหารือกับฝ่ายไทยก่อนที่ฮุนเซนจะไปยังอาณาบริเวณพื้นที่ 4.5 ตร.กม.ที่อยู่ติดกับปราสาทพระวิหาร และย้ำว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นของกัมพูชาตามแผนที่ผนวกหมายเลข 1 ที่โดยศาลระหว่างประเทศเมื่อปี 2505
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบอย่างแน่นอนในขณะนี้ว่าฮุนเซนจะไปเยี่ยมเยือนทหารที่ประจำการในบริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีเสาวรักษ์ในพื้นที่ทับซ้อนหรือไม่
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ได้มอบหมายให้แม่ทัพกองทัพภาคที่ 2 กับผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ไปรอต้อนรับนายกฯ กัมพูชาที่วัดดังกล่าว และจะต้องไม่มีการประกาศสิทธิ์การเป็นเจ้าของพื้นที่ทับซ้อนแห่งนั้น ที่ฝ่ายไทยอ้างความเป็นเจ้าของอยู่ด้วยเช่นกัน.