xs
xsm
sm
md
lg

ชุมนุมใหญ่ "ตระกูลฮุน" หลังประโคมข่าวไทยจ้องโค่นล้ม!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 <bR><FONT color=#3366ff>ภาพจากหนังสือพิมพ์เกาะสันติภาพ นายกรัฐมนตรีฮุนเซน (ที่สามจากซ้าย) กับ พี่ชายคนโต พี่ชายคนที่สองกับภรรยา หลวงพ่อฮุนเนียง กับน้องสาวอีก 3 คนและสามี รวมกันเป็น พี่น้องตระกูลฮุน ที่ทรงพลังอำนาจในกัมพูชาตลอด 24 ปีที่ผ่านมา </FONT></bR>

ASTVผู้จัดการออนไลน์-- นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน จัดชุมนุมสมาชิกตระกูลฮุน ครั้งใหญ่ก่อนสิ้นปี ซึ่งเว็บไซต์ชาวเขมรในต่างแดน รวมทั้งสถานีวิทยุเอเชียเสรีตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นหลังจากมีการโหมประโคมข่าวกล่าวหาว่า รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีแผนจะทำรัฐประหารโค่นล้ม

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์กัมพูชา การชุมนุมครั้งแรกของตระกูลฮุน จัดขึ้นที่โรแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงพนมเปญในวันอาทิตย์ที่ 27 ธ.ค.2552 มีเครือญาติ 4 ชั่วคน เป็นจำนวนกว่า 100 คน เข้าร่วมงาน มีหลวงพ่อซึ่งเป็นบิดาของนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน

สถานีวิทยุเอเชียเสรีภาคภาษาเขมรได้รายงานเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างเกาะติด และ ตั้งข้อสังเกตอย่างแหลมคมว่า การชุมนุมใหญ่มีขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวหาว่า รัฐบาลไทยมีแผนการจะทำรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลกัมพูชา ไม่ว่าสองเหตุการณ์นี้จะเกี่ยวข้องกันหรือไม่ก็ตาม

สื่อในกัมพูชารายงานเรื่องนี้อย่างคึกคักในช่วงสิ้นปี 2552 ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์เกาะสันติภาพได้อุทิศเนื้อที่เต็มหน้ากระดาษตีพิมพ์เผยแพร่ภาพ การชุมนุมใหญ่ของตระกูลผู้นำที่เสวยอำนาจในประเทศนี้ติดต่อกันมาจนย่างเข้าปีที่ 25 ขณะที่เว็บไซต์ข่าวและเว็บบล็อกหลายแห่งได้นำเนื้อหาแปลเป็นภาษาอังกฤษและฝรั่งเศสรายงานให้ชาวเขมรที่อาศัยทำกินในต่างแดนได้รับรู้

การจัดชุมนุมใหญ่คนในตระกูลยังมีขึ้น หลังจากหนังสือพิมพ์ได้ประโคมข่าวการทำนายทายทักของโหรชื่อดังหลายคนที่ระบุว่า ปี 2553 จะเป็นปีที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงอย่างมากมายในประเทศ สัตว์เลี้ยงล้มตาย ผู้คนล้มตาย และ ชาวเขมรเข่นฆ่ากันเอง

นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้ใช้โอกาสนี้อบรมสั่งสอนลูก หลาน ตระกูลฮุนให้ประพฤติดี ไม่ใช้อำนาจอิทธิพลของนายกรัฐมนตรีข่มขู่หรือทำร้ายผู้อื่น ไม่เช่นนั้นก็จะตกเป็นเป้าหมายการจองล้างหลังตนเองตกจากอำนาจ

"สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดก็คือ การประพฤติที่ไม่ปกติของสมาชิกตระกูลฮุน ไม่เฉพาะลูกๆ ของผมเท่านั้น หลานชาย หลานสาว เหลนๆ ด้วย สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือ เรื่องที่พวกเขาใช้อำนาจอิทธิพลของผม..." ฮุนเซนกล่าว

"ผมได้แต่หวังว่าหลานๆ ทั้งหลานชาย หลานสาว หลานเขย และ หลานสะใภ้จะเข้าใจในเรื่องนี้ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ถ้าหากพวกเขาไม่สามารถจะทำดีต่อประชาชนได้ ก็อย่าได้ใช้อำนาจอิทธิพลของตระกูลฮุนไปทำร้ายผู้คน เด็กๆ และหลานๆ ทั้งหลานชายและหลานสาวที่ไม่ฟังคำแนะนำสั่งสอนในเรื่องนี้ และกระทำการไม่ดีต่างๆ เมื่อฮุนเซนพ้นจากอำนาจจงอย่าลืมว่า ทุกคนจะตกเป็นเป้าของการโจมตีแก้แค้น" ผู้นำกัมพูชากล่าว
 <bR><FONT color=#3366ff>ภาพจากหนังสือพิมพ์เกาะสันติภาพ เครือญาติตระกูลฮุนใหญ่โตมีสมาชิกเป็นคนถึง 4 รุ่น รวมแล้วกว่า 100 คน ผู้นำกัมพูชาได้กล่าวเตือนคนรุ่นลูกรุ่นหลานมิให้ใช้อำนาจอิทธิพลของนายกรัฐมนตรีรังแกประชาชน และ พึงสังวรณ์ไว้ว่า วันหนึ่งเมื่อหมดอำนาจแล้วพวกเขาจะลำบาก </FONT></bR>
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เกาะสันติภาพ การชุมนุมครั้งแรกและครั้งประวัติศาสตร์นี้ ซึ่งมีหลวงพ่อฮุนเนียง วัย 87 ปี บิดาของนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ท่านผู้หญิงบุนรานี กับบุตร-ธิดาทั้ง 5 และหลานๆ อีก 9 คน กับ ครอบครัวของเครือญาติอื่นๆ เข้าร่วมพร้อมหน้า

ครอบครัวเครือญาติในตระกูลประกอบด้วยนายฮุนสาน พี่ชายคนโตของฮุนเซน กับภรรยาคือนางเจิงกิมสาน ครอบครัวนี้มีลูกๆ 5 คนกับหลานอีก 10 คน

พี่ชายคนที่สองคือ ฮุนเนง ผู้ว่าราชการจังหวัดกัมปงจาม กับนางเลียงเจง ครอบครัวนี้มีลูกๆ 6 คนกับหลานอีก 8

น้องสาวคนแรกของฮุนเซนคือ นางฮุนเส็งนี กับสามีไปร่วมงานพร้อมลูกๆ 4 หลานๆ อีก 8 น้องสาวคนที่สองคือ ฮุนสินาถ ไปพร้อมสามี กับลูกๆ 4 คน หลานอีก 3 และ น้องสาวคนเล็กไปกับสามี ลูกอีก 7 และ หลานอีก 8

บรรดาเครือญาติได้มอบหมายให้นางฮุนกิมเลง ลูกสาวของนายฮุนเนงซึ่งเป็นภรรยาของ พล.อ.เนตรสะเวือน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นตัวแทนในการกล่าวอำนวยพรในเทศกาลปีใหม่ให้แก่ครอบครัวผู้นำ

นายฮุนกิมเลง ได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่นำพาตระกูลฮุนขึ้นสู่ตำแหน่งเกียรติยศสูงสุดของประเทศ ซึ่งทำให้เครือญาติทุกภาคภูมิใจที่เกิดมาในตระกูลฮุน เกาะสันติภาพกล่าว

ฮุนเซนเกิดปี 2495 ในครอบครัวชาวนายากจน จ.กัมปงจาม การศึกษาในระบบจบชั้นประถมจากโรงเรียนวัดในกรุงพนมเปญ ซึ่งมีพระสงฆ์ที่ชื่อ “มงฤทธี” เป็นผู้อุปถัมภ์

ปัจจุบัน "ออกญา" มงฤทธี เป็นนักธุรกิจใหญ่ เจ้าของท่าเรือมงฤทธีใน จ.พระสีหนุ เป็นเจ้าของสวนปาล์มน้ำมันใหญ่ที่สุดในจังหวัด และ เป็นผู้ร่วมทุนในโครงการไร่อ้อยกับโรงงานน้ำตาล จ.เกาะกง ของกลุ่มเบียร์ช้างจากประเทศไทย

เมื่อกลุ่มโปลโป้ต เอียงสารี เคียวสมพร นำพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา (เขมรแดง) ขึ้นครองอำนาจในกรุงพนมเปญ เดือน เม.ย.2518 ฮุนเซนเป็นนายทหารระดับผู้บังคับกองพันคนหนึ่งของกองทัพ ซึ่งไม่มีผู้ใดรู้จัก ประจำการในภาคตะวันออกของประเทศ
 <bR><FONT color=#3366ff>การชุมนุมใหญ่วันที่ 27 ธ.ค.2552 ดูเหมือนจะขาดวงศาคณาญาติสำคัญไปจำนวนหนึ่ง ในภาพรอยเตอร์ถ่ายเมื่อวันที่ 10 พ.ย.ปีที่แล้ว บรรดาหนุ่มหล่อสาวสวยของครอบครัวที่อยู่บนสุดในสังคมชาวเขมร ได้ช่วยบิดามารดาออกต้อนรับผู้ไปเยือนจากประเทศไทยคู่หนึ่ง กับอีกผู้หนึ่งที่หลบหนีโทษจำคุกหัวซุกหัวซุนและไม่ทราบแหล่งซุกหัวที่แน่นอน </FONT></bR>
เขมรแดงในยุคนั้นแตกออกเป็นหลายฝักหลายฝ่าย ขณะที่กลุ่มปกครองเป็นพวกมาร์กซิสต์ที่ได้รับอำนาจอิทธิพลและความคิดเกี่ยวกับลัทธิคอมมิวนิสต์ ขณะเรียนหรือทำงานในจากฝรั่งเศส และ หันไปนิยมในความคิดเหมาเจ๋อตง อีกฝ่ายหนึ่งที่ประจำทางภาคตะวันออก กลับได้รับอิทธิพลความคิดจากคอมมิวนิสต์สายโซเวียต ผ่านพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม

เอกสารของพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชาที่เปิดเผยในช่วงนั้น ระบุว่าในช่วงปี 2519-2521 ได้มีความพยายามทำการรัฐประหารยึดอำนาจในกรุงพนมเปญหลายครั้ง โดยมีนายทหารระดับล่างที่ประจำการในภาคตะวันออกของประเทศเป็นผู้นำ และ ทุกครั้ง "พวกทรยศ" ถูกปราบปรามอย่างราบคาบ

ชื่อของกลุ่มเฮงสัมริน เพ็ญสุวรรณ เจียซิม ปรากฏออกมาในรัฐบาลใหม่ที่จัดตั้งขึ้นในกรุงพนมเปญ หลังเวียดนามส่งทหารนับแสนข้ามพรมแดนเข้าขับไล่กลุ่มโปลโป้ตได้สำเร็จในวันที่ 7 ม.ค.2522 โดยมีฮุนเซนเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศในรัฐบาลใหม่

ครั้งนั้นมีการเปลี่ยนชื่อประเทศจากกัมพูชาประชาธิปไตยเป็นสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชา และ ตั้งพรรคคอมมิวนิสต์สายโซเวียตขึ้นใหม่ เป็นพรรคประชาชนปฏิวัติกัมพูชา ประเทศเข้าสู่สงครามกลางเมืองตลอด 10 ปีต่อมา จนกระทั่งเวียดนามถอนทหารออกไปในเดือน ก.ย.2532

ฮุนเซนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศของรัฐบาลที่เวียดนามจัดตั้งขึ้นมาและไม่ได้รับการรับรองจากสหประชาชาติ มีบทบาทสำคัญในการเจรจาสันติภาพกับสมเด็จพระนโรดมสีหนุ ซึ่งเป็นผู้นำรัฐบาลผสมสามฝ่ายกัมพูชาประชาธิปไตย หรือ เขมรฝ่ายต่อต้านในขณะนั้น

ในที่สุด “กัมพูชา 4 ฝ่าย” ก็ได้ตกลงกันเซ็นสันติภาพกรุงปารีสในเดือน ต.ค.2534 และ เริ่มต้นไปสู่ความรุ่งโรจน์ของตระกูลฮุนครอบครัวนี้.
กำลังโหลดความคิดเห็น