xs
xsm
sm
md
lg

ฝ่ายค้านเขมรซัด “ฮุนเซน-แม้ว” ละครปิดตาเวียดนามฮุบแดน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#ff0000>ภาพเอเอฟพีวันที่ 14 พ.ย.2552 พิธีร่ำลา นช.ทักษิณ ชินวัตร ไม่รู้ใครเป็นไทย ใครเป็นเขมร เพราะอยู่ในอารมณ์เดียวกันหมด สะใจ? สมแค้น? สมอยาก? แต่ในสายตาของนายสม รังสี พวกสยาม เหล่านี้ เป็นเพียงเครื่องมือที่ จิ้งจอกการเมือง อย่างฮุนเซน หลอกไปใช้ ปาก้อนหินก้อนเดียว โดนศรีษะคนโง่ๆ ทั้งโขยง คุ้มค่าคุ้มราคา แต่เป้าหมายใหญ่ของฮุนเซนก็คือ การเบี่ยงเบนความสนใจของผู้คนในชาติกับประชาคมระหว่างประเทศ ไปจากเหตุการณ์เวียดนามฮุบดินแดนกัมพูชาที่ชายแดนตะวันออก หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านกล่าวในคำแถลงเมื่อวันเสาร์นี้  </FONT></bR>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - การที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน แต่งตั้งนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาและนำเข้าประเทศในสัปดาห์นี้ ก็เพื่อโหมกระพือความตึงเครียดระหว่างกัมพูชากับไทย และอาจจะเป็นเพียงแผนการเบี่ยงเบนความสนใจของชาวกัมพูชา กับประชาคมระหว่างประเทศออกไป จากปัญหาที่มีความหนักหน่วงยิ่งกว่า คือ การฮุบดินแดนที่ชายแดนตะวันออกโดยเวียดนาม

นายสม รังสี หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ระบุดังกล่าวในคำแถลงฉบับหนึ่งที่ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ ของพรรค ในวันเสาร์ (14 พ.ย.) ที่ผ่านมา โดยระบุด้วยว่าคำแถลงนี้ได้ส่งถึงหนังสือพิมพ์แคมโบเดียเดลี (Cambodia Daily) ฉบับภาษาอังกฤษในกรุงพนมเปญด้วย

นายรังสี กล่าวว่า แผนการของฮุนเซน เริ่มขึ้นหลังจากตัวเขาเองนำราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนไปถอนหลักหมุดปักปันเขตแดนชั่วคราวออกจากที่นาในวันที่ 25 ต.ค.2552 ซึ่งเจ้าหน้าที่เวียดนามนำไปปัก เป็นการกำหนดจุดที่จะสร้างหลักเขตแดนถาวรในเวลาต่อไป

ราษฎรในท้องถิ่นให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุเอเชียเสรี ในปลายเดือน ต.ค.ว่า หลักหมุดดังกล่าวอยู่ลึกเข้ามาในแดนแดนของกัมพูชา ห่างจากแนวเขตแดนหลายร้อยเมตร หลายครอบครัวกำลังจะสูญเสียที่นาที่ทำกินมาชั่วอายุคนไป

นายรังสี กล่าวว่า การกระทำของฮุนเซนได้แสดงให้เห็นถึงทัศนะที่ “ยอมตกเป็นเบี้ยล่างของเวียดนาม” ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลฮุนเซนประพฤติปฏิบัติมาตลอด 30 ปี ตั้งแต่เวียดนามจัดตั้งกลุ่มปกครองฮุนเซน กับพลพรรคขึ้นในกรุงพนมเปญ หลังจากช่วยขับไล่รัฐบาลเขมรแดงออกไป

หัวหน้าฝ่ายค้าน กล่าวว่า การโหมกระพือความขัดแย้งกับไทยนั้น มีขึ้นหลังจาก เมื่อวันที่ 4 พ.ย.2552 นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ได้บอกให้รัฐบาลฮุนเซน ต้อง “มีมาตรการจัดการกับการกระทำอันเป็นการบ่อนทำลายและไม่อนุญาตให้กรณีคล้ายกันนี้เกิดขึ้นอีก เนื่องจากเรื่องนี้ได้กระทบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองชาติ”
<bR><FONT color=#ff0000>ภาพจากเว็บไซต์พรรคสมรังสี -- วันที่ 25 ต.ค.2552 หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านกัมพูชา นำเรื่องที่ฮุนเซนต้องการปกปิดออกเปิดเผย วันที่ 30 ต.ค.โฆษกกระทรวงต่างประเทศเวียดนามแถลงให้รัฐบาลฮุนเซน ต้องปกปักรักษาหลักหมุดปักปันเขตแดน ไม่ให้เกิดเหตุร้ายแรงเช่นเมื่อวันที่ 25 ต.ค.อีก และ ต่อมาในวันที่ 4 พ.ย.นายกรัฐมนตรีเวียดนามก็ได้กำชับเรื่องนี้มากับรองนายกฯ กัมพูา ที่ไปเยือนอีกคนหนึ่ง ฮุนเซนไม่กล้าที่จะพูดถึงเรื่องนี้ </FONT></bR>
นายกรัฐมนตรีเวียดนาม กำชับเรื่องนี้ในกรุงฮานอย ระหว่างพบหารือกับนางแมนซัมอาน (Men Sam An) รองนายกรัฐมนตรีหญิงของรัฐบาลฮุนเซน และประธานสมาคมมิตรภาพกัมพูชา-เวียดนาม ที่ไปเยือน โดยมีการตีพิมพ์เรื่องนี้ในหนังสือพิมพ์เญินซเวิน (Nhan Dan) หรือ “ประชาชน” รายวัน ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม

นายรังสี กล่าวอีกว่า การถอนหลักหมุดปักปันเขตแดนชั่วคราว เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2552 ทำด้วยเจตนาให้เป็นสัญลักษณ์ความรักชาติ หวงแหนแผ่นดิน สร้างขวัญกำลังใจและช่วยเหลือราษฎรที่กำลังประสบความยากลำบาก และตกเป็นเหยื่ออยุติธรรม จากการกระทำของทางการเวียดนาม

การกระทำกล่าวได้ “ทำให้เวียดนามไม่พอใจ เนื่องจากผมได้นำเอาเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคง ที่มีผลกระทบทางยุทธศาสตร์และเป็นประเด็นที่สำคัญยิ่งใหญ่ เกินกว่าใครๆ จะคาดคิดออกมาเปิดเผย”

สัปดาห์ที่ผ่านมาทางการ จ.สวายเรียง ได้ยื่นฟ้อง นายสม รังสี ต่อศาลจังหวัด ฐาน “ทำลายทรัพย์สินสาธารณะ” และในวันจันทร์ (16 พ.ย.) นี้ สภาผู้แทนฯ ที่พรรครัฐบาลครองเสียงข้างมากเด็ดขาด กำลังจะเปิดประชุมนัดพิเศษ โดยมีเพียงวาระเดียว คือ ลงมติยกเลิกเอกสิทธิ์คุ้มครองของนายรังสี ให้ศาลดำเนินคดีผู้นำฝ่ายค้านอย่างเต็มที่
<bR><FONT color=#FF0000>ภาพรอยเตอร์วันที่ 13 พ.ย.2552 สส.พรรคเพื่อไทยราว 50 คน สนทนาวิสาสะกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน และ ยังมอบหมวกแดงให้ผู้นำกัมพูชาทดลองสวมใส่ด้วย ดูเหมือนว่าในเสียมราฐวันนั้น พรรคเพื่อเขมร กับ พรรคประชาชนกัมพูชา ได้ผนึกรวมเป็นทองแผ่นเดียวกันโดยพฤตินัย ส่วนใครจะใช้ใครหลอกใคร เป็นอีกเรื่องหนึ่ง </FONT></bR>
<bR><FONT color=#ff0000>ภาพรอยเตอร์วันที่ 13 พ.ย.2552 สตรีเสื้อแดงจากประเทศไทยคนหนึ่งโผเข้ากอด นักโทษชายแบบกลมดิกทั้งน้ำตา ด้วยเสน่หาแรงจัด หลังลงทุนลงแรงข้ามแดนไปรอในเสียมราฐตั้งแต่วันก่อน ส่วนใครจะดีจะเลว ใครใช้ใครหลอกใคร ไม่สนใจ ไม่เคยมีอยู่ในหัวสมอง....</FONT></bR>
ในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา สภาผู้แทนฯ ชุดเดียวกันนี้ได้ลงมติยกเลิกเอกสิทธิ์ ของ นางมู สุจัว ส.ส.สตรีของพรรคสม รังสี ซึ่งถูกศาลพิพากษามีความผิดฐานหมิ่นประมาทฮุนเซน

“สิ่งนี้ได้เป็นข้อพิสูจน์ว่า รัฐบาลกัมพูชาปัจจุบันยินยอมพร้อมใจที่จะตกเป็นเบี้ยล่างและรับใช้เวียดนามเพียงไร” คำแถลงระบุ

นับตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.เป็นต้นมา ทางการได้สั่งห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปยังบริเวณที่กำลังมีการปักปันเขตแดนอีก นักศึกษาจากกรุงพนมเปญกลุ่มหนึ่งที่ตั้งใจจะเข้าไปดูสถานที่จริง เมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ถูกห้ามมิให้เข้าพื้นที่เช่นเดียวกัน

สมเด็จพระนโรดมสีหนุ อดีตกษัตริย์แห่งกัมพูชา ได้ทรงมีบันทึกส่วนพระองค์ถึงประธานวุฒิสภาเจียซิม กับประธานสภาพผู้แทนฯ เฮงสัมริน ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ แต่ที่ผ่านมาไม่มีผู้นำระดับสูงคนใดในรัฐบาลพูด และไม่มีหนังสือพิมพ์ฉบับใดลงข่าว จนกระทั่งมีความเคลื่อนไหวจะนำตัวผู้นำฝ่ายค้านขึ้นศาล
กำลังโหลดความคิดเห็น