ASTVผู้จัดการรายวัน—เงียบหายไปนาน บริษัทเชฟรอน (Chevron Corp) บริษัทพลังงานข้ามชาติจากสหรัฐฯ เปิดปากดับข่าวเล่าลือแผนการสลัดทิ้งบ่อน้ำมันเขมร ซ้ำได้ขยายข้อตกลงในการสำรวจแหล่ง แปลงเอ หรือ Block A อีกด้วยของกัมพูชา
การเจรจาดังกล่าวมีขึ้นหลังจากข้อตกลงฉบับก่อนหน้านั้นหมดอายุลงในเดือน เม.ย. 2552 ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์อ้างคำกล่าวของโฆษกของบริษัทเชฟรอน
หลุมน้ำมันสัมปทานแห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณอ่าวไทย ซึ่งหากพิจารณาแล้วน่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของกัมพูชาในการผลิตพลังงานภายในระยะเวลาไม่กี่ปีข้างหน้า ถึงแม้ว่าวันกำหนดการผลิตจะถูกเลื่อนออกไปอยู่บ่อยครั้งซึ่งอาจเป็นช่วงหลังจากปี 2556
เชฟรอนระบุว่า มีการใช้จ่ายไปถึง 125 ล้านดอลลาร์ เกี่ยวกับการเก็บข้อมูลทางธรณีศาสตร์ใน Block A และบริษัทได้ทำการเจาะบ่อสำรวจไปแล้วอย่างน้อย 15 บ่อ นับตั้งแต่เริ่มดำเนินงานในปี 2545
"เชฟรอนมีความรู้สึกยินดีกับโอกาสที่ได้รับเพื่อประเมินทรัพยากรใน Block A อย่างต่อเนื่อง นายแกเร็ธ จอห์นสโตน (Gareth Johnstone) โฆษกของเชฟรอนสาขาสิงคโปร์ กล่าว โดยปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมในข้อตกลงใหม่ รวมถึงระยะเวลาสัมปทาน โดยอ้างว่าเป็น "เหตุผลทางการพาณิชย์"
โฆษกผู้นี้ยังปฏิเสธที่จะกล่าวถึงช่วงเวลาที่จะทำการลงนามในข้อตกลงฉบับใหม่ โดยเจ้าหน้าที่ด้านพลังงานของรัฐบาลกัมพูชา รวมถึงเตดวงดารา (Te Duong Tara) ผู้อำนวยการใหญ่การปิโตรเลียมแห่งชาติกัมพูชา ก็ไม่ยอมให้ความคิดเห็นใดๆ ในเรื่องนี้
ข้อตกลงฉบับใหม่นี้ช่วยหยุดการคาดเดาที่ว่าเชฟรอนจะถอนตัวออกจากกัมพูชาหลังจากทั้ง 2 ฝ่ายใกล้ถึงปีที่จะต้องเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับสัญญาฉบับใหม่
ทั้งเชฟรอนและรัฐบาลกัมพูชาไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการเจรจา และ นายจอห์นสโตนบอกกับพนมเปญโพสต์ในเดือน ก.ค. ว่า ในระยะยาวนั้น สิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องมีเพื่อนำไปสู่การเป็นศูนย์รวมพลังงาน Block A ต้องประกอบด้วย กฎหมาย งบประมาณ และ กรอบในการกำกับดูแล พร้อมทั้งความสามารถทางเทคนิค ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้ง 2 ฝ่าย ได้อยู่ในขั้นตอนของการประเมินทางเลือกเพื่อนำไปพัฒนา
เชฟรอนกล่าวในรายงานฉบับหนึ่งที่ออกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วระบุว่า แม้จะมีกำหนดการปรับโครงสร้างบริษัทในปี 2553 นี้ แต่บริษัทคาลเท็กซ์ซึ่งเป็นบริษัทสาขาของเชฟรอนยังคงเปิดให้บริการอยู่ในกัมพูชา
ในเดือน ก.พ.2548 เชฟรอนประกาศการค้นพบน้ำมันดิบใน Block A ซึ่งอยู่นอกชายฝั่งเมืองสีหนุวิลล์ ค่อนไปทางเขตน่านน้ำติดกับไทย และกล่าวว่าจะต้องเจาะจรวจหลุมตัวอย่างอีกหลายแห่งจึงจะสามารถสรุปเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันและก๊าซที่พบได้ แต่หลังจากนั้นมาก็ยังไม่เคยเปิดเผยรายละเอียดอื่นใดอีกเลย
เวลาต่อมาธนาคารพัฒนาเอเชียได้กล่าวถึงการพบน้ำมัน “มหาศาล” ในกัมพูชา ขณะที่องค์การสิทธิมนุษยชนต่างๆ แสดงความกังวลว่า กัมพูชาซึ่งเป็นประเทศที่การคอร์รัปชั่นลุกลามในทุกระดับ จะต้อง “คำสาบน้ำมัน” เช่นกับที่เคยเกิดขึ้นในบางประเทศแอฟริกา
องค์การสิทธิมนุษยชนเกรงว่า รายได้มหาศาลจากน้ำมันอาจจะเข้ากระเป๋าของกลุ่มปกครองจะ ไม่นำไปพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของชาวกัมพูชา ซึ่งกว่าครึ่งหนึ่งยังชี้วิตอยู่ใต้ขีดความยากจนในนิยามขององค์การสหประชาชาติ.
