เตื่อยแจ๋ - หมีควายจำนวน 19 ตัวที่ถูกช่วยเหลือมาจากฟาร์มสกัดน้ำดีแห่งหนึ่งใกล้กับนครโฮจิมินห์โดยมูลนิธิสัตว์แห่งเอเชีย (Animals Asia Foundation - AAF) ในสัปดาห์ที่แล้ว ได้ถูกส่งไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าในภาคเหนือของประเทศเพื่อตรวจสุขภาพและเลี้ยงดูให้มีชีวิตที่ดีขึ้น
มูลนิธินี้กล่าวว่า จนถึงปัจจุบัน ครั้งล่าสุดนี้เป็นการช่วยเหลือหมีควายที่ถูกขังเพื่อสกัดน้ำดี ได้จำนวนมากที่สุดในเวียดนาม หมีทั้ง 19 ตัวถูกพบอยู่ในสถานที่เลี้ยงอย่างผิดกฎหมายใน จ.บิ่งซเวือง (Bing Duong) ทางภาคใต้ของประเทศ
ในที่เกิดเหตุพบตู้บรรจุสินค้ายาว 40 ฟุตวางอยู่หลายตู้ในบริเวณฟาร์มสกัดน้ำดี ซึ่งหมีที่ถูกขังอยู่ในตู้เหล่านี้ตกเป็นเหยื่อของอุตสาหกรรมสกัดดีหมีและต้องถูกทรมานอยู่นานหลายปี
ส่วนเจ้าของหมี ซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวไต้หวัน ได้เลี้ยงหมีพวกนี้ไว้นานกว่า 6-7 ปี ในกรงคอนกรีตที่สำนักงาน ใหญ่ในจังหวัดเดียวกัน ภายหลังได้ย้ายหมีไปอยู่ในบริเวณโรงงานที่อยู่ย่านชานเมือง และเปลี่ยนที่ขังเป็นตู้คอนเทนเนอร์สินค้าซึ่งกั้นห้องแยกไว้ตู้ละ 7-8 ห้อง หลังจากถูกทางการเตือนเรื่องกรงขังคอนกรีตที่ไม่ได้มาตรฐานเมื่อ 2 เดือนก่อน
มูลนิธิสัตว์แห่งเอเชียได้เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือนี้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานป่าไม้จังหวัดและส่วนกลางได้ร้องขอความช่วยเหลือ เพื่อเข้าดูแลหมีพวกนี้ หลังจากทางการตัดสินใจปิดฟาร์มสกัดดีหมีผิดกฎหมายแห่งนี้ เพราะไม่ดำเนินการตามระเบียบที่กำหนดไว้ เช่น ขนาดของกรงที่ขังหมีที่เล็กเกินไป เป็นต้น
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า หมีทั้งหมดที่ได้รับการช่วยเหลือทั้งหมดมี 25 ตัว โดย 19 ตัวไปจากฟาร์มสกัดน้ำดี อีก 6 ตัว จากสวนสนุกแห่งหนึ่งในจังหวัดเดียวกัน
ในวันศุกร์ (22 ม.ค.) ที่ผ่านมา หรือ 4 วันหลังจากทำการเคลื่อนย้ายหมีทั้งหมดด้วยรถเทรลเลอร์ผ่านเส้นทางไกลนับ 2,000 กม. มุ่งขึ้นเหนือ หมีทั้ง 19 ตัว ได้พบกับบ้านใหม่ที่มีทั้งทุ่งหญ้า ชิงช้าจากล้อรถยนต์ ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าต๋ามดาว (Tam Dao rescue center) ห่างจากกรุงฮานอยประมาณ 2 ชม.
หมีที่ถูกช่วยเหลือมาใหม่นี้ มี 2 ตัวที่ขาหน้าขาดแขนหายไป และ อีก 1 ตัวตาบอดและทุกตัวมีปัญหาเรื่องโรคฟัน ทั้งหมดจะได้รับการบำบัดรักษา เพื่อให้อยู่ร่วมกับหมีอีก 29 ตัว ที่อยู่ในความดูแลภายในศูนย์ช่วยเหลือแห่งนี้.
สัตวแพทย์ของมูลนิธิสัตว์แห่งเอเชียซึ่งประจำการอยู่ที่ศูนย์เติมด่าวต้องตรวจสุขภาพของหมีที่เข้าไปใหม่ทั้งหมด ต้องค่อยๆ ย้ายออกจากกรงทีละตัว และ ให้ยาสลบเพื่อที่จะสามารถตรวจสุขภาพอย่างละเอียดได้ และหากพบว่ามีปัญหาที่ต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วนก็จะสามารถลงมือผ่าตัดได้ในทันที
นายต๋วน เบนดิกเซน (Tuan Bendixsen) ผู้อำนวยการมูลนิธิสัตว์แห่งเอเชียประจำสาขาประเทศเวียดนาม กล่าวว่า หมีกลุ่มนี้ถูกสกัดน้ำดีครั้งล่าสุดเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมาและมี 2 ตัวจากทั้งหมดที่ไม่ได้ถูกฝังไมโครชิป
นายต๋วน ยังได้ระบุอีกว่า การช่วยเหลือหมีทั้ง 19 ตัวนี้มีขึ้นทันเวลา เพราะในช่วงเดือนที่อากาศร้อนจัดแบบนี้ หมีพวกนี้ต้องทรมานเพราะความร้อนและที่แคบ ซึ่งน่าแปลกใจที่พวกมันรอดมาได้
ผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานว่า ยังมีหมีอีกหลายตัวที่ยังไม่แข็งแรงและมีอาการน่าเป็นห่วงซึ่งเป็นผลจากอาการบาดเจ็บ
บางประเทศในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะจีน เวียดนาม และเกาหลี มีความเชื่อว่าดีหมีมีประโยชน์ในด้านยารักษาโรค ซึ่งสามารถรักษาได้ตั้งแต่อาการไข้ไปจนถึงโรคหัวใจ บางคนคนยังดื่มน้ำดีพร้อมเหล้าขาว ตามความเชื่อที่ว่าเป็นสูตรเครื่องดื่มที่ช่วยแก้ปัญหาด้านสายตาและตับ
ตามบันทึกนั้น ดีหมีถูกใช้เป็นยาแผนโบราณของจีนมานานกว่า 3,000 ปีแล้ว
ตามรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี การสำรวจอย่างไม่เป็นทางการโดยสมาคมพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Society for the Protection of Animals หรือ WSPA) พบว่า มีร้านค้าที่ถูกสำรวจในประเทศญี่ปุ่น 75% มีดีหมีจำหน่าย ส่วนร้านค้าในเกาหลีใต้ที่จำหน่ายดีหมีประมาณ 42% ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาประมาณ 15%
การสกัดดีหมีในประเทศจีนถือเป็นเรื่องถูกกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลจีนระบุว่าปัจจุบันยังมีการสกัดดีหมีจากหมี 7,000 ตัวใน 250 ฟาร์ม แต่องค์กรพิทักษ์สัตว์กล่าวว่าจำนวนที่แท้จริงอาจมากกว่าที่รายงานไว้ถึง 2 เท่า เนื่องจากปริมาณความต้องการดีหมีที่ผิดกฎหมายเหล่านี้เพิ่มสูงขึ้นตลอด จากความเชื่อที่ว่าดีหมีเหล่านี้มีสรรพคุณมากมาย
ในเวียดนามการสกัดดีหมี เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2548 และ หมีที่เลี้ยงไว้กว่า 4,000 ตัวทั่วประเทศ ได้ถูกฝังไมโครชิปเพื่อป้องกันลักลอบเลี้ยงหมีเพิ่มขึ้นเองอย่างผิดกฎหมาย และเจ้าของต่างถูกเตือนไม่ให้ทำการสกัดน้ำดี แต่ยังคงพบว่ามีการลักลอบสกัดเพื่อขายในตลาดมืดซึ่งดีหมียังเป็นที่ต้องการอยู่.
หมีควายหรือหมีหมา (Moon Bear) พบมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยถูกจัดให้เป็นหนึ่งสายพันธุ์สัตว์ที่ถูกคุกคามและเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
