ASTVผู้จัดการรายวัน - นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน นำทีม “สมเด็จทั้งสาม” สามผู้นำสูงสุด ติดยศ “นายพลเอกอาวุโส” พร้อมกับประดับดาวสีทองบนบ่า 5 ดวง หลังจากได้รับพระราชทานยศอันสูงสุดนี้จากกษัตริย์นโรดมยุวนาถสีหมุนี ซึ่งได้ทำให้กัมพูชาต่างไปจากเพื่อนบ้าน “สามชาติอินโดจีน” อย่างโดดเด่น
สมเด็จฯ เจียซิม ประธานวุฒิสภา และ ประธานพรรคประชาชนกัมพูชา ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล สมเด็จฯ เฮงสัมริน ประธานสภาผู้แทนราษร ประธานกิตติมศักดิ์พรรครัฐบาล กับ สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีและรองประธานพรรคประชาชนกัมพูชา ได้เข้ารับพระราชทานยศชั้นใหม่ในพิธีที่จัดขึ้น ณ รัฐสภา โดย นายกงสัมออล รองนายกฯ และ รัฐมนตรีประจำสำนักพระราชวัง เป็นผู้แทนส่วนพระองค์ทำพิธีอัญเชิญมอบ
“พระเจ้าอยู่หัวทรงชื่นชมท่านผู้นำสูงสุดของประเทศทั้งสามท่าน นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมจึงมีการพระราชทานประดับยศนายพลห้าดาวแด่ทั้งสามท่านในครั้งนี้” นายซัมออล กล่าวระหว่างพิธี ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์ดืมอัมปึล ที่ใกล้ชิดกับรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ประธานวุฒิสภาเจียซิมไม่ได้ปรากฏตัวในพิธีรับพระราชทานยศครั้งนี้ เนื่องจากอยู่ระหว่างพักฟื้นจากการไปรับการรักษาอาการความดันโลหิตสูงในประเทศสิงคโปร์ ในสัปดาห์ต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ดืมอัมปึลกล่าว
“สมเด็จห้าดาว” ทั้งสามไม่ได้มีอำนาจบังคับบัญชากองทัพโดยตรง กฎหมายบัญญัติให้ต้องสั่งการผ่านรัฐมนตรีกลาโหมซึ่งมียศเป็นนายพลเอก การพระราชทานยศชั้นให้ผู้นำสูงสุดทั้งสามคน จึงเป็นเสมือนการมอบเกียรติยศตอบแทนบุคคลที่ประกอบคุณความดีต่อชาติ
อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีว่า ระบอบการเมืองในกุมพูชาปัจจุบันนี้ นายกรัฐมนตรีเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด เหนือทุกสถาบันที่มีอยู่
การแต่งตั้งยศชั้น นายพล 5 ดาวของกัมพูชา ยังเป็นการสร้างระบบของตัวเอง ให้แตกต่างออกไปจากประเทศเพื่อนบ้าน “สามชาติอินโดจีน” เมื่อก่อนนี้ที่มีเวียดนามเป็นแกนนำ
ยศชั้นสูงสุดของกองทัพประชาชนลาว คือ “นายพลโท” ซึ่งในปัจจุบันมีเพียงคนเดียวคือ รัฐมนตรีกลาโหม พล.ท.ดวงใจ พิจิต หรือแม้แต่ พล.ท.จูมมะลี ไซยะสอน เลขาธิการใหญ่พรรคประชาชนปฏิวัติลาวกับประธานประเทศในปัจจุบัน ก็เกษียนจากกองทัพในยศ "นายพลโท"
นายทหารยศพลเอกสองคนสุดท้ายในกองทัพประชาชนลาวคือ พล.อ.คำไต สีพันดอน เมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม และเป็นผู้บัญชาการกองทัพ กับ พล.อ.สีสะหวาด แก้วบุนพัน อดีตเสนาธิการสูงสุดกองทัพ ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานแนวลาวสร้างชาติ
สำหรับกองทัพเวียดนาม ในยุคสงครามเย็นมีนายพลเอกในกองทัพหลายคน แต่หลังจากนั้นได้รื้อโครงสร้างใหม่หันมาใช้ยศชั้น “นายพลโทอาวุโส” หรือ “นายพลสี่ดาว” เป็นยศสูงสุด สำหรับรัฐมนตรีกลาโหมและผู้นำกองทัพ ซึ่งในปัจจุบันคือ พล.ท.อาวุโส ฟุงกวางแทง (Phung Quang Thanh)
บรรดาผุ้นำเหล่าทัพต่างๆ รวมทั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมทั้งหมดมียศ “นายพลโท” ธรรมดา
ในเดือนนี้กองทัพประชาชนเวียดนามทีมีกำลังพล 450,000 คน ได้เปลี่ยนเครื่องแบบ กับ เครื่องหมายยศชั้นของบรรดาทหารสังกัดเหล่าทัพต่างๆ ทั้งหมด แต่ก็ยังใช้ระบบยศชั้นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ยศชั้นของกลุ่ม “เจียซิม-เฮงสัมริน-ฮุนเซน” สูงกว่า ของ พล.อ.หวอเงวียนซย๊าป (Vo Guyen Giap) “วีรบุรุษเดียนเบียนฟู” ผู้นำกองทัพเวียดมินห์ขับไล่เจ้าอาณานิคมตะวันตก และ ยังเหนือกว่า พล.อ.วันเตี๋ยนยวุ๋ง (Van Tien Dung) เจ้าของ “ยุทธการบัวบาน” นำกองทัพเวียดนามเหนือกับกองโจรเวียดกงเข้ายึดกรุงไซ่ง่อน นำมาสู่การรวมเวียดนามเหนือกับเวียดนามใต้เข้าเป็นผืนดินแห่งชนชาติเดียวกัน
พล.อ.ยวุ๋ง ซึ่งขณะนั้นเป็นรัฐมนตรีกลาโหม ยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจส่งทหารเวียดนามนับแสนคน ข้ามพรมแดนเข้าบดขยี้ฝ่ายเขมรแดง ยึดกรุงพนมเปญในเดือน ม.ค.2522 ก่อนจะจัดตั้งกลุ่มเฮงสัมริน-เจียซิม-ฮุนเซน นายทหารระดับล่างของเขมรแดงอีกปีกหนึ่งขึ้นมาเป็นรัฐบาลแทน
บุคคลเหล่านี้สืบอำนาจต่อมาอีกกว่า 20 ปี จนกระทั่งในยุคใหม่ ได้ฐานันดรเป็น “สมเด็จ” เป็นดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์กันถ้วนหน้า และ เป็น “นายพลห้าดาว” ของประเทศในที่สุด