xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามตัดทางหลวงลงใต้อีกสายเชื่อมขนส่งไทย-เขมร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#3366ff>ภาพถ่ายวันที่ 27 พ.ย.2552 หรือ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สะพานเกิ่นเทอ (Can Tho Bridge) สะพานขึงขนาดใหญ่ตระหง่านอยู่เหนือลำน้ำโห่ว (Song Hau) ไม่เพียงแต่จะเชื่อมนครใหญ่ศูนย์กลางเศรษฐกิจเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงกับ จ.หวีงลอง (Ving Long) เท่านั้น หากยังเป็นสะพานเชื่อมการคมนาคมขนส่งทางบกเวียดนาม กัมพูชา-ไทยอีกด้วย จะเปิดใช้ต้นปีหน้านี้ </FONT></bR>

ASTVผู้จัดการรายวัน— วันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ได้เป็นประธานพิธีวางศิลาฤกษ์ การก่อสร้างและยกระดับทางหลวงสายหนึ่ง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่การคมนาคมขนส่งในเขตจังหวัดที่ราบปากแม่น้ำโขง อันเป็นปากทางเข้าสู่ถนนระเบียงขนส่งใต้เลียบชายฝั่งทะเลเวียดนาม-กัมพูชา-ไทย

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ (Tuoi Tre) รัฐบาลเวียดนามกำลังขยายทางหลวงช่วง จ.เตี่ยนซยาง (Tien Giang) กับ จ.หวีงลอง (Vinh Long) ด้วยเงินกู้ 19 ล้านล้านด่ง หรือ 1,050 ล้านดอลลาร์ จากธนาคารเพื่อการลงทุนและพัฒนาเวียดนามหรือ BIDV (Bank for Investment and Development of Vietnam) ภายใต้โครงการสัมปทานแบบบีโอทีระยะเวลา 34 ปี

ทางด่วนจุงเลือง-หมีถ่วน เริ่มต้นจาก อ.โจวแถ่ง (Chau Thanh) จ.เตี่ยนซยาง ไปเชื่อมกับทางหลวง 1A สายเหนือ-ใต้ในบริเวณใกล้สะพานหมีถ่วน ในท้องที่ จ.หวีงลอง มุ่งสู่นครเกิ่นเทอ ศูนย์กลางในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง คาดจะเปิดให้บริการได้ในปี 2556 ซึ่งจะทำให้ยวดยานต่างๆ สามารถวิ่งได้ด้วยความเร็ว 120 กม.ต่อชั่วโมง เตื่อยแจ๋กล่าว

ทางด่วนช่วงดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของระบบทางหลวงสายยาวช่วง เจืองลอง-หมีถ่วน-เกิ่นเทอ ความยาว 82 กม. ระหว่าง จ.เตี่ยนซยาง กับนครใหญ่สุดในเขตที่ราบปากแม่น้ำ และเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จก็จะทำให้ระบบทางหลวงช่วงนครโฮจิมินห์-จุงเลือง-หมีถ่วน มีระยะทางรวมเป็น 94 กม. สื่อของทางการกล่าว

สัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารพัฒนาเอเชียหรือเอดีบีได้นำผู้สื่อข่าวจาก 4 ประเทศ ไทย กัมพูชา เวียดนามและอินโดนีเซีย เดินทางสำรวจเส้นทางขนส่งเลียบชายฝั่งทะเลอ่าวไทยในกัมพูชาเข้าสู่ภาคใต้เวียดนาม ช่วง จ.เกียนซยาง เตี่ยนซยาง เกิ่นเทอ หวีงลอง ลองอานและโฮจิมินห์

ผู้สื่อข่าวได้เห็นการพัฒนาก่อสร้างและขยายทางหลวงในหลายช่วง รวมทั้งการเปิดใช้อย่างไม่เป็นทางการ ทางหลวงสาย 1A จากนครโฮจิมินห์ไปยังนครเกิ่นเทอ และ ได้เห็นความคืบหน้าการก่อสร้างสะพานเกิ่นเทอข้ามลำน้ำโห่ว (Song Hau) ซึ่งเจ้าหน้าที่เวียดนามกล่าวว่าจะเปิดให้บริการในต้นปีหน้า

สะพานเกิ่นเทอที่เชื่อม จ.หวีงลองกับนครเกิ่นเทอ เป็นประตูสำคัญในการเชื่อมต่อชายแดนเวียดนาม-กัมพูชา กับส่วนอื่นๆ ของประเทศ .
<bR><FONT color=#3366ff>ภาพถ่ายวันที่ 27 พ.ย.2552 หรือ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เรือแพขนานยนต์กำลังนำพาหนะกับผู้โดยสารข้ามลำน้ำโห่ว (Hau) ไปยังฝั่งนครเกิ่นเทอ ที่นั่นมีระบบแพขนานยนต์ที่ใหญ่โตมาก แต่อีกไม่นานก็จะถูกแทนที่ด้วยสะพานกับถนน 4 ช่องจราจรจากนครโฮจิมินห์ พุ่งเข้าสู่ชายแดนกัมพูชา ที่อยู่ห่างออกไปเพียง 200 กม.เศษ </FONT></bR>
<bR><FONT color=#3366ff>ภาพถ่ายวันที่ 27 พ.ย.2552 หรือ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เทศบาลนครเกิ่นเทอ (Can Tho) นำโคมกระดาษออกประดับประดาตามท้องถนน เมื่อเทศกาลคริสต์มาสใกล้เข้ามา ขณะที่รถบรรทุกติดเรียงรายอยู่ริมถนน ไม่มีเทศกาลอะไร หากเป็นการเข้าคิวเพื่อลงเรือแพขนานยนต์ข้ามฟากไปยัง จ.หวีงลอง (Vinh Long) และ นครโฮจิมินห์ แต่อีกไม่นานจะมีถนนไปที่นั่นอีกหลายสาย </FONT></bR>
<bR><FONT color=#3366ff>ภาพถ่ายวันที่ 27 พ.ย.2552 หรือ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ข้ามลำน้ำโห่ว (Hau) สู่เขต จ.หวีงลอง (Vinh Long) มาก็จะเข้าสู่ทางหลวง 1A เหนือใต้ (ฮานอย-โฮจิมินห์) ที่ทอดลงไปจนถึงเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง ถนน 4 ช่องทางจราจรสร้างยังไม่เสร็จ แต่เปิดให้ใช้ 2 ช่องทาง มาปีเศษแล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) กำลังช่วยเวียดนามพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในแถบนี้</FONT></bR>
<bR><FONT color=#3366ff>ภาพถ่ายวันที่ 27 พ.ย.2552 หรือ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นิคมอุตสาหกรรมเรียงรายอยู่สองข้างทางหลวง 1A ในเขต จ.หวีงลอง (Vinh Long) สินค้าอุตสาหกรรมจากอาณาบริเวณนี้ไม่ได้วางตลาดเอาไว้แค่ในประเทศ หากยังหมายถึงตลาดประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชาและไทยด้วย และการก่อสร้างสะพานกับถนนในช่วงสำคัญนี้กำลังจะแล้วเสร็จ  </FONT></bR>
<bR><FONT color=#3366ff>ภาพถ่ายวันที่ 27 พ.ย.2552 หรือ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พ้นจาก จ.หวีงลอง (Vinh Long) ไปไม่ไกลในเขต จ.เตี่ยนซยาง (Tien Giang) ทางหลวง 1A เต็มแบบ 4 ช่องทางจราจรสร้างเสร็จแล้วตลอดทางเกือบ 200 กม.มุ่งสู่นครโฮจิมินห์ ถนนลงใต้อีกสายหนึ่งกำลังจะไปเชื่อมทางหลวง 1A ในบริเวณนี้ การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งในเวียดนามไปได้เร็วมาก แม้นักลงทุนต่างชาติจะมองว่ายังไม่มากพอก็ตาม </FONT></bR>
กำลังโหลดความคิดเห็น