xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามขายข้าว 5.37 ล้านตัน ขายดีเพราะขายถูก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาวนาเร่งขนกระสอบข้าวขึ้นรถบรรทุกหลังจากเก็บเกี่ยวเสร็จเรียบร้อยในหมู่บ้านแห่งหนึ่งชานกรุงฮานอย โดยในช่วงเวลา 10 เดือนแรกของปีนี้เวียดนามสามารถส่งออกข้าวได้มากกว่า 5 ล้านตัน

เวียดนามเน็ต – ช่วงเดือน ม.ค.-ต.ค. ที่ผ่านมาเวียดนามส่งออกข้าวถึง 5.37 ล้านตัน มากเป็นประวัติการณ์และสามารถทำรายได้ให้กับประเทศ 2.39 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 33.23% ในเชิงปริมาณเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว แต่มูลค่ากลับลดลง 7.65%

ตามตัวเลขของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) ต.ค. เพียงเดือนเดียว เวียดนามส่งออกถึง 370,000 ตัน เทียบกับเพียง 29,000 ตัน ปีที่แล้ว และ รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 140 ล้าน จากเพียง 14 ล้านดอลลาร์ในปีนี้

ตลาดหลักของข้าวเวียดนาม คือ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย คิวบา และอิรัก นอกจากนั้นยังส่งออกสู่ตลาดประเทศในแอฟริกาและตะวันออกกลาง ได้ในปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากอีกด้วย โดย 9 เดือนของปีนี้ขายให้ประเทศในทวีปแอฟริกาเพิ่มขึ้นถึง 98% หรือ 1.4 ล้านตัน และ เพิ่ม 65% สำหรับตลาดตะวันออกกลาง เป็น 250,000 ตัน

กระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า ราคาข้าวในประเทศคาดว่าจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากความต้องการในช่วงเฉลิมฉลองในเทศกาลตรุษเวียด (Tet) ที่จะมีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า ราคาในตลาดโลกก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ประธานคณะกรรมด้านเศรษฐกิจของรัฐสภาเวียดนามที่กำลังประชุมสมัยปลายปี ได้เรียกร้องให้ทั้งผู้ผลิตและผู้ส่งออกร่วมมือกันเพื่อให้ได้ราคาดีที่สุด เวียดนามกำลังจะจัดงานเทศกาลข้าวขึ้นเป็นครั้งแรกใน จ.โห่วซยาง (Hau Giang) ในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง ในวันที่ 28 พ.ย. ซึ่งจะมีหลายร้อยบริษัทจาก 30 จังหวัดและนคร ทั่วประเทศไปร่วมจัดแสดงข้าวมากกว่า 400 คูหา

ตามรายงานของสื่อทางการกระทรวงเกษตรฯ ได้เริ่มโครงการก่อสร้างคลังเก็บข้าวเพื่อใช้เก็บรักษาข้าวให้ได้ประมาณ 4 ล้านตัน ในบริเวณที่ราบปากแม่น้ำโขง
คนงานฟิลิปินส์ขนกระสอบข้าวนำเข้าจากเวียดนาม โดยเวียดนามเตรียมสร้างคลังเก็บข้าวทันสมัยขนาดใหญ่ เพื่อลดการสูญเสียข้าวเพราะที่เก็บไม่เพียงพอและช่วยสำรองข้าวไว้ขายในช่วงที่ได้ราคาดีด้วย
ทุกๆ ปี เวียดนามผลิตข้าวได้มากถึง 38 ล้านตัน และส่งออกเป็นข้าวสาร 4-5 ล้านตันระบบเก็บรักษาที่มีอยู่ในปัจจุบันสามารถรองรับข้าวได้เพียง 2 ล้านตันเท่านั้น และ เป็นเก็บรักษาได้เพียงชั่วคราว มากกว่าใช้เป็นที่เก็บในระยะยาว

เนื่องจากเทคโนโลยีการเก็บรักษาที่ไม่ดีนัก ทำให้สูญเสียผลผลิตหลังเก็บเกี่ยวปีละ 11-12% รวมแล้วเป็นมูลค่ามหาศาลในแต่ละปี จึงจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่จะต้องสร้างระบบโกดังเก็บรักษาข้าวที่ได้มาตรฐาน

นายโห่ซวนหุ่ง (Ho Xuan Hung) รัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่ารัฐต้องสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจลงทุนในโครงการนี้ รัฐจะสนับสนุนด้วยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพียง 6.5% ต่อปี และ ไม่เสียภาษีในการนำเข้าอุปกรณ์ทันสมัยที่จะใช้ในกระบวนการเก็บรักษาและการผลิตทางด้านการเกษตร

นายดว่านแมงฮวา (Doan Manh Hoa) เจ้าหน้าที่อาวุโส กระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า นักลงทุนสร้างโกดังเก็บข้าวจะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมเป็นระยะเวลา 5 ปีหลังจากโครงการเริ่มขึ้น ได้รับการยกเว้นภาษีนิติบุคคลเป็นเวลา 3 ปี ลดภาษีเงินได้อีก 50% เป็นเวลา 2 ปี

ส่วนนายกาววันฮวา (Cao Van Hoa) รองผู้อำนวยการสำนักงานเกษตรและพัฒนาชนบท จ.เตียนซยาง (Tien Giang) กล่าวว่า หากเก็บรักษาข้าวได้นาน ไม่เพียงแค่ระยะนานหลายเดือน หรือ หลายปีจะทำให้สามารถส่งออกข้าวในเวลาที่ต้องการและในช่วงเวลาที่ได้ราคาที่ดีที่สุดด้วย.
กำลังโหลดความคิดเห็น