ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ทางการลาวได้เปิดใช้สนามบินเมืองปากเซอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง หลังจากปิดมาตั้งแต่เดือน มี.ค. 2551 เพื่อพัฒนาและปรับปรุงเฟสที่ 2 ขยายทางวิ่งขึ้นลงของเครื่องบิน สร้างหอควบคุมการบินใหม่ ติดระบบสัญญาณและระบบไฟฟ้าใหม่ทั้งหมด
การพัฒนายกระดับสนามบินเฟสที่สองนี้ ด้วยความช่วยเหลือจากประเทศไทย ทั้งในรูปเงินให้เปล่าและเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำระยะยาว โดยบริษัทอิตาเลียนไทยดีเวลล็อปเม้นต์จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง
กรมการบินพลเรือนลาวได้ประกาศเปิดใช้สนามบินปากเซตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นสนามบินนาชาติอย่างเต็มภาคภูมิ เครื่องบินโดยสารพิสัยการบินระยะใกล้-ปานกลาง ระดับโบอิ้งกับแอร์บัส สามารถขึ้นลงได้เป็นครั้งแรก
อธิบดีกรมการบินพลเรือนลาว กล่าวว่า บัดนี้การบินพลเรือนลาวกล่าวว่า สายการบินลาวและสายการบินอื่นๆ สามารถกลับไปให้บริการที่สนามบินปากเซได้เช่นเดิม
สำหรับเที่ยวบินในประเทศ บริษัทการบินลาวได้เคยเปิดบินประจำทุกวันจากนครเวียงจันทน์ รวมทั้งบินเชื่อมกับเมืองเสียมราฐในกัมพูชา นอกจากนั้นสายการบินบางกอกแอร์เวย์ของไทยก็เคยเปิดบริการบินไปที่นั่น แต่ทั้งหมดหยุดลงตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา เพื่อการสร้างและพัฒนายกระดับ
นายยากัว เลาปังกัว อธิบดีกรมการบินพลเรือนลาวกล่าวว่า ทางวิ่งขึ้นลงของสนามบินสร้างมานานหลายทศวรรษ ซึ่งสึกหรอไปตามกาลเวลาและ เต็มไปด้วยรอยร้าว รอยแยก ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวสารปะเทดลาว (ขปล.)
"โครงการปรับปรุงสนามบินครั้งนี้ได้เน้นไปที่การซ่อมแซมเส้นทางวิ่งขึ้นลง เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องบินขนาดใหญ่ที่เดินทางมายังสนามบินปากเซจะสามารถลงจอดได้อย่างนิ่มนวล เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังแขวงจำปาสักที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ" นายยากัวกล่าว
นายอะนุสัก กิตติลาด หัวหน้าโครงการปรับปรุงสนามบินปากเซ กล่าวว่าโครงการปรับปรุงมีจุดประสงค์ที่จะยกระดับให้สนามบินนานาชาติ สามารถรองรับเครื่องบินโบอิ้ง 737 และแอร์บัส A 320 ได้
ทางวิ่งขึ้นลงได้ขยายจากเดิมที่มีความยาว 1,650 เมตร กว้าง 36 เมตร เป็น 2,400 เมตร กว้าง 45 เมตร การพัฒนาปรับปรุง ได้รับความช่วยเหลือจากประเทศไทยกว่า 230 ล้านบาท ในนั้น 30% เป็นเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่า ส่วนที่เหลือเป็นเงินกู้ระยะยาวดอกเบี้ยต่ำ การเซ็นสัญญา เงินช่วยเหลือมีขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2550
รัฐบาลไทยได้ช่วยเหลือทางการลาวพัฒนาสนามบินแห่งนี้มาตั้งแต่เฟสที่ 1 ซึ่งมีการก่อสร้างบูรณะอาคารผู้โดยสาร และบูรณะทางวิ่งกับลานจอด ทำให้เครื่องบินโดยสารขนาดเล็ก-ขนาดกลางแบบ ATR72 กับ ฟ็อกเกอร์80 กับเครื่องแอนโตนอฟ-24 ที่ทำในรัสเซียสามารถขึ้นลงได้อีกครั้งหนึ่ง
ตามรายงานของสำนักข่าวทางการ การก่อสร้างเพิ่มเติมและปรับปรุงเพื่อขยายสนามบินปากเซได้ล่าช้ามาเป็นเวลา 1 เดือน โดยบริษัทก่อสร้างจากประเทศไทยกล่าวว่ามีความไม่สะดวกหลายประการในช่วงฤดูฝน
สนามบินนานาชาติเมืองปากเซตั้งอยู่ในเมืองเอกของแขวงจำปาสัก เป็นศูนย์กลางการขนส่งในภาคใต้ ทางการลาวยังมีแผนการสร้างสนามบินอีกแห่งหนึ่งในเมืองโขง แขวงเดียวกันที่อยู่ใต้ลงไปเกือบ 200 กิโลเมตร ติดชายแดนกัมพูชา เพื่อพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตนทีสีพันดอน คอนพะเพ็ง ทางตอนใต้สุดของประเทศ
ทางการลาวค่อยๆ ก่อสร้าง ฟื้นฟูบูรณะ และบริหารสนามบินเองทุกแห่งในประเทศเอง โดยได้รับการช่วยเหลือจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือประเทศไทย
ในช่วงปี 2545-2547 ไทยได้ช่วยเหลือลาวแบบเดียวกันนี้พัฒนายกระดับท่าอากาศยานนานาชาติวัดไตในนครเวียงจันทน์ ให้เครื่องบินขนาดใหญ่ระดับโบอิ้ง 747 ของบรรดาผู้นำกลุ่มอาเซียนสามารถขึ้นลงได้ ในปีที่ลาวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอด
ต่างไปจากในกัมพูชาที่รัฐบาลฮุนเซนให้สัมปทานแก่บริษัทฝรั่งเศส ในการปรับปรุงและบริหารสนามบินนานาชาติทุกแห่งภายใต้สัญญาสัมปทาน 30 ปี
ในปัจจุบันยังไม่มีสนามบินแห่งใดในกัมพูชาที่เครื่องบินโดยสารขนยาดใหญ่สามารถลงจอดได้ รวมทั้ทงสนามบินานาชาสติโปเจินตงในกรุงพนมเปญด้วย.