ASTVผู้จัดการรายวัน-- การบินเวียดนามกล่าว่าปีนี้ ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ย่ำแย่ แต่ธุรกิจของสายการบินแห่งชาติจะยังคงมีกำไร ขณะเดียวกันสายการบินแควนตัสแห่งออสเตรเลียได้ยืนยันจะเพิ่มหุ้นส่วนในแปซิฟิกแอร์ไลนส์เป็น 30% และ อินโดไชน่าแอร์ไลน์ สายการบินที่เอกชนถือหุ้น 100% แห่งแรกแถลงว่า แม้ผลประกอบการจะแย่ปีแรก แต่จะไม่มีการหยุด และ จะเพิ่มเส้นทางให้บริการในเดือน ธ.ค.ศกนี้ เมื่อเครื่องบินลำใหม่ไปถึง
ธุรกิจการบินในเวียดนามที่เคยเป็นตลาดโตเร็วอีกแห่งหนึ่งในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เจอพายุเศรษฐกิจโลกเข้าอย่างจังเช่นเดียวกับสายการบินอื่นๆ แต่ก็ยังคงคึกคักมาก
ปีที่เศรษฐกิจโลกย่ำแย่ที่สุดนี้ กลับเป็นปีที่สายการบินเวียดนามเซ็นสัญญาซื้อหรือสั่งจองครื่องบินโดยสารมากที่สุด ขณะที่สายการบินราคาประหยัดอย่างเจ็ตสตาร์แปซิฟิก (JetStar Pacific) ซึ่งปัจจุบันสายการบินแควนตัสจากออสเตรเลียถือหุ้นอยู่ 27% กล่าวว่า เริ่มมีกำไรครั้งแรกในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา และการให้บริการอีกหลายอย่างก็พัฒนาในทางบวก
บริษัทลงทุนของรัฐบาล หรือ SCIC State (Capital Investment Corporation) ถือหุ้น 51% ในสายการบินนี้ อีก 22% ส่วนเหลือเป็นหุ้นส่วนของนักลงทุนเวียดนามอีกหลายราย
นายบรูซ บุกคานัน (Bruce Buchanan) กรรมการผู้จัดการของเจ็ตสตาร์แอร์เวย์ กล่าวเมื่อวันอังคารว่า จะเจรจาเพิ่มหุ้นส่วนในเจ็ตสตาร์แปซิฟิก เพื่อให้แล้วเสร็จต้นปีหน้า และ ยืนยันจะพัฒนาตลาดการบินเวียดนามต่อไป ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวเวียดนามเอ็กซ์เพรส
ส่วนอินโดไชน่าแอร์ไลน์ส ซึ่งกล่าวกันว่าติดค้างค่าน้ำมันและค่าใช้จ่ายต่างๆ อยู่กว่า 1 ล้านดอลลาร์ ได้แถลงว่ากำลังเจรจากับฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับวิธีการใช้หนี้ ซึ่งจะใช้ให้หมดภายในสิ้นปีนี้ ท่ามกลางเสียงขู่จากการบินพลเรือเวียดนาม ที่จะถอนใบอนุญาตหากไม่สามารถแสดงความน่าเชื่อถือทางการเงินได้
อินโดไชน่าแอร์ฯ เปิดให้บริการเมื่อต้นปีนี้ ในปีแห่งความยุ่งยากทางเศรษฐกิจ ด้วยเครื่องโบอิ้ง 737-800 เพียงลำเดียว และให้บริการได้เฉพาะเส้นทางกรุงฮานอย-นครโฮจิมินห์เท่านั้น แต่ผู้บริหารกล่าวว่า กำลังจะมีการส่งมอบลำที่สองในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้สามารถขยายบริการการบินต้นทุนต่ำได้ อีกหลายเส้นทาง
สายการบินแห่งนี้เพิ่งจะทำการเพิ่มทุนในหมู่ผู้ถือหุ้น และ เชื่อมั่นว่าปี 2553 จะเริ่มมีกำไร ขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจโลกเริ่มส่งสัญญาฟื้นตัว และ จะสามารถบินเชื่อมปลายทางอื่นๆ ในภูมิภาคได้
อย่างไรก็ตามสำหรับสายการบินเวียดเจ็ตแอร์ (VietJet Air) ที่ได้รับใบอนุญาตมาปีเศษ แต่เดิมมีกำหนดจะต้องขึ้นบินในเดือน ต.ค.นี้ ไม่เช่นนั้นก็จะถูกถอนใบอนุญาต แต่องค์การการบินพลเรือนได้อนุญาตให้เลื่อนเวลาออกไปได้อีก 7 เดือน
เวียดเจ็ตแอร์กำลังจะเป็นสายการบินที่เอกชนถือหุ้น 100% แห่งที่สองในเวียดนาม ขณะที่ทางการกล่าวว่าจะชลออการออกใบอนุญาตให้กับรายต่อไปอย่างน้อยจนถึงปี 2555
ในเวียดนามยังมีสายการบินเอกชนอีก 1 แห่งคือ แม่โขงแอร์ไลน์ส (Mekong Airlines) ซึ่งดีรับใบอนุญาตเมื่อต้นปีนี้ และ มีกำหนดจะต้องเปิดให้บริการต้นปีหน้า.