xs
xsm
sm
md
lg

ขะแมร์ระทม ตายเพิ่ม 20 ด้วยแรงแห่ง “เกดสะหนา”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#cc00cc>ภาพเอเอฟพีวันที่ 1 ต.ค.2552 ราษฎรผู้ประสบภัยใน จ.กัมปงธม แบกหามห่อยังชีพที่ได้รับแจกจากสภากาชาดกัมพูชา ลุยน้ำกลับเข้าหมู่บ้าน จังหวัดนี้แห่งเดียวพบผู้เสียชวิตแล้ว 17 ราย </FONT></bR>

ASTVผู้จัดการออนไลน์/RFA - เจ้าหน้าที่ในกัมพูชายังคงนับศพต่อไป แม้ว่าพายุเกดสะหนา (Ketsana) จะผ่านไปตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.แล้วก็ตาม แต่ได้ทิ้งความเสียหายเอาไว้ในดินแดนที่ห่างไกลในกัมพูชาอย่างสุดคณานับ

วันอังคาร (6 ต.ค.) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 คนใน จ.รัตนคีรี (Ratanakiri) และ ชาวบ้านยังกล่าวว่า มีลูกบ้านเดียวกันคนหนึ่งถูกกระแสน้ำพัดพาไปเมื่อวันที่ 29 ก.ย. และยังหาตัวไม่พบจนบัดนี้

ตัวเลขใหม่นี้จะทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตเนื่องจากพายุเกดสะหนาเพิ่มขึ้นเป็น 20 หรือ 21 ขณะที่การค้นหายังดำเนินต่อไป ยังไม่มีการเปลี่ยนจำนวนผู้เสียชีวิตที่เป็นทางการในขณะนี้

ผู้เสียชีวิต 17 คนแรกพบใน จ.กัมปงธม (Kampong Thom) ในเขตที่ราบภาคกลาง ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงพนมเปญขึ้นไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 230 กม. ส่วนใหญ่เสียชีวิตเนื่องจากถูกบ้านเรือนพังทับ อันเกิดจากพายุในคืนวันที่ 29 ก.ย. เจ้าหน้าที่กล่าว

ที่ จ.สตึงแตรง (Stung Treng) ติดกับชายแดนลาว ยังไม่พบผู้เสียชีวิต แต่นาข้าวที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวกว่า 3,000 เฮกตาร์ (18,750 ไร่) ของราษฎรในท้องถิ่นถูกน้ำท่วม ราว 95% เสียหายไม่สามารถเก็บกู้ได้ ซึ่งจะทำให้หลายท้องถิ่นในจังหวัดจะขาดแคลนข้าวบริโภคในฤดูที่จะถึง

นายลอย สุฟัต (Loy Sophat) ผู้ว่าราชการจังหวัดสตึงแตรง ให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุเอเชียเสรีภาคภาษาเขมรในวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า มีบ้านเรือนของราษฎรใน 81 หมู่บ้าน จังหวัดถูกน้ำท่วม เนื่องจาก “น้ำเอ่อขึ้นเร็วมากในช่วงสองสามวันมานี้..”
<bR><FONT color=#cc00cc>แล้วจะไม่ให้รักได้อย่างไร? ภาพเอเอฟพีวันที่ 1 ต.ค.2552 ท่านผู้หญิงบุนรานีฮุนเซน นำทีมสภากาดออกแจกจ่ายข้าวของในเขตประสบภัย จ.กัมปงธม ยามลำบากได้ช่วยเหลือ บุญกฐินผ้าป่าได้เห็นหน้า แล้วจะไม่ให้ราษฎรหลงรักได้อย่างไร เลือกตั้งกี่ครั้งๆ ก็ยังจะเป็นสมเด็จฯ ฮุนเซน </FONT></bR>
น้ำจากลำน้ำเซกอง (Sekong) เซซาน (Sesan) กับลำน้ำเสรป๊อก (Sre Pok) เริ่มเอ่อขึ้นท่วมไร่นาและบ้านเรือนราษฎรกว่า 3,000 ครอบครัว ใน จ.รัตนคีรี ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.เป็นต้นมา ทั้งหมดไหลลงสู่แม่น้ำโขง ซึ่งได้ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักสูงขึ้นไปด้วย

สตึงแตรง เป็นช่วงต่อที่แม่น้ำโขงไหลมาจากตอนใต้ของลาว ก่อนจะไหลไปผ่าน จ.กระแจ๊ะ (Kratie) และ กรุงพนมเปญ ซึ่งกำลังจะทำให้เมืองที่อยู่ใต้ลงไปได้รับความเดือดร้อน

นายเทบ บุณฤทธิ์ (Tep Bunnaridh) ผู้อำนวยการองค์การพิทักษ์สภาพแวดล้อมแห่งหนึ่งในสตึงแตรงกล่าวว่า สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดอุทกภัยครั้งนี้ เนื่องจากเขื่อนผลิตไฟฟ้าต่างๆ ของนักลงทุนเวียดนามที่ตั้งอยู่ใน จ.รัตนคีรี ได้ปล่อยน้ำลงสู่ลำน้ำต่างๆ ทำให้บ้านเรือน ราษฎรกว่า 7,000 ครอบครัวในจังหวัดนี้ถูกน้ำท่วม
<bR><FONT color=#cc00cc>ภาพเอเอฟพีวันที่ 1 ต.ค.2552 เจ้าหน้าที่ทางการออกสำรวจความเสียหายที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน จ.กัมปงธม ที่ถูกพายุเกดสะหนาพัดเสียหายอย่างหนัก ในวันที่ 29  ก.ย. สัปดาห์นี้จังหวัดที่อยู่ไกลออกไปเริ่มรายงานตัวเลขความเสียหายเข้าสู่เมืองหลวง </FONT></bR>
กำลังโหลดความคิดเห็น