ASTVผู้จัดการรายวัน-- คาราวานสินค้าข้ามโขจากไทยกำลังเฟื่องฟู แต่ขณะเดียวกันจำนวนหนึ่งกระทำแอบแฝง แอบเอารถยนต์มือสองไปปล่อยในลาว สำนักงานส่งเสริมการค้าไทย เตือนพ่อค้าไทยให้ระวัง อีกจำนวนหนึ่งแอบแฝงค้าเด็กและผู้หญิง บริษัททัวร์บางแห่งยังใช้เส้นสายแอบแฝง ต้มระดับจังหวัดมาแล้ว
ระยะหลังนี้จึงมีกลุ่มที่จำหน่ายสินค้าโอทอปบริเวณชายแดนไทยหลายกลุ่ม เข้าไปจัดคาราวานแสดงสินค้าตระเวนไปตามแขวงต่างๆ ใน สปป. ลาว และเริ่มมีการแอบแฝงทำธุรกิจผิดกฎหมายดังกล่าว สำนักงานส่งเสริมการค้าต่างประเทศ ณ นครเวียงจันทน์ เปิดเผยเรื่องนี้ในรายงานฉบับหนึ่งที่ "ASTVผู้จัดการรายวัน" ได้รับ
"ในปัจจุบันเอกชนไทยบางกลุ่ม และบริษัททัวร์บางกลุ่มมีพฤติกรรมส่อไปในทางที่ไม่ถูกต้อง มีการจัดคาราวานงานแสดงสินค้าบังหน้าแล้วมีการแอบลักลอบนำรถยนต์มือสองเข้าไปปล่อยใน สปป. ลาว และมีบางรายที่ร่วมไปในงานแสดงสินค้าแต่เป็นขบวนการค้ามนุษย์ แอบลักลอบนำผู้หญิงลาวเข้ามาขายบริการในเมืองไทย" นายเฉลิมพล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเวียงจันทน์กล่าว
นอกจากนั้นยังมีบริษัททัวร์บางรายไปชักชวนส่วนราชการในจังหวัดต่างๆ ของไทยว่ารู้จักมักคุ้นกับผู้นำในระดับแขวงของลาว เพื่อให้ทางจังหวัดสนับสนุนกลุ่มสินค้า OTOP ที่จะนำเข้าไปจัดแสดงและจำหน่ายในลาว จากนั้นได้ไปแอบอ้างกับฝ่ายลาวว่าได้รับมอบหมายจากทางจังหวัดของไทยให้เป็นตัวแทนประสาน โดยอาศัยที่เคยจัดคณะให้กับทางการไทยมาก่อน ทำให้ฝ่ายลาวหลงเชื่อและอนุมัติพื้นที่จัดงานให้ โดยอาศัยช่องว่างจากความสัตย์ซื่อและจริงใจของชาวลาวและส่วนราชการต่างๆ
ส่วนราชการของไทยบางแห่งอาจตกเป็นเครื่องมือในการนำนักธุรกิจไทยไปเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ตามแขวงต่างๆ โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เป็นการสร้างเครดิตให้กับบริษัททัวร์ที่ฉกฉวยประโยชน์ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ในบางแขวงมีการจัดแสดงสินค้าบ่อยครั้ง เกินไปโดยไม่คำนึงผลกระทบต่อผู้ค้ารายย่อยชาวลาวในชุมชน ซึ่งในระยะยาวอาจจะก่อให้เกิดกระแสต่อต้านกลุ่มจำหน่ายสินค้าคาราวานเคลื่อนที่ของธุรกิจไทยขึ้นมาได้
นายเฉลิอมพลกล่าวอีกว่า พ่อค้าธุรกิจในบริเวณชายแดน ข้ามเข้าไปทำกิจกรรมธุรกิจในลาวอย่างไม่เป็นกระบวนการ ต่างคนต่างมุ่งประโยชน์ของตนเอง โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อเพื่อนบ้าน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ต่อคนไทยและต่อการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับลาวโดยรวม ขณะที่รัฐบาลสองฝ่ายได้พยายามกระชับความสัมพันธ์ให้แนบแน่น ให้ชายแดนเป็นเขตแดนแห่งความสงบสุข
นายเฉลิมพล ซึ่งเป็นเอกอัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายการพาณิชย์ประจำสถานทูตไทยในนครเวียงจันทน์ แนะนำว่าหน่วยงานราชการต่างๆ ของไทย ควรเข้าไปดำเนินกิจกรรมต่างๆ อย่างเป็นทางการกับหน่วยราชการของลาว ถึงแม้จะใช้บริษัททัวร์ในการดำเนินการเพื่อความคล่องตัว แต่ควรแจ้งผ่านทางกระทรวงต่างประเทศของไทย หรือสถานเอกอัครราชทูตของไทยอีกทางหนึ่ง เพื่อประสานกับกระทรวงการต่างประเทศของลาว
สปป.ลาว เป็นรัฐสังคมนิยมอาศัยกลไกกระทรวงการต่างประเทศในการประสานกิจการต่างๆ ที่เป็นเรื่องระหว่างประเทศ ในลาวจึงมีสำนักงานวิเทศสัมพันธ์ประจำในทุกแขวง เป็นตัวแทนของกระทรวงการต่างประเทศในระดับแขวง ซึ่งต่างกับไทยในระดับจังหวัดที่ใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทยในการประสานงานเป็นหลัก การติดต่อกับลาวจะต้องสำนึกตลอดเวลาว่ากำลังติดต่อกับต่างประเทศ
นายเฉลิมพล กล่าวว่าการที่สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ กรุงเวียงจันทน์ ได้จัดโครงการนำร่อง และมีภาคเอกชนไทยนำไปขยายผล เข้าไปจัดคาราวานสินค้ากันเองในลาวนั้น เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการส่งเสริมให้ธุรกิจไทยออกไปดำเนินธุรกิจในต่างแดน แต่จะต้องกระทำให้ถูกกฎหมายประเทศเพื่อนบ้าน.