xs
xsm
sm
md
lg

โค้กอัดฉีด $400 ล้านหวังสร้างเวียดนามตลาดใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#FF0000>ภาพแฟ้มเอเอฟพี พ่อค้าเร่ชาวเวียดนามกำลังหาบผลไม้ผ่านรถบรรทุกน้ำอัดลมโคคา-โคลา บริษัทแม่ในสหรัฐฯ ประกาศในกรุงฮานอยวันศุกร์ที่แล้วว่า จะขยายการลงทุนในเวียดนามอีก 400 ล้านดอลลาร์เป็นสองเท่าจากปัจจุบัน เพื่อให้เวียดนามเป็นตลาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งของโค้ก</FONT></bR>

เอเอฟพี/เวียดนามเน็ต - โคคา-โคลาลงทุนอีก 2 เท่าในเวียดนาม อัดฉีดเงิน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นการลงทุนร่วมกับผู้ผลิตขวดท้องถิ่นครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งภายใน 3 ปีข้างหน้า

นายมุห์ตาร์ (Muhtar Kent) ประธานคณะกรรมการบริหารโคคา-โคลาต่างประเทศ เปิดเผยในระหว่างการพบปะกับนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหวียน เติ๋น ยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ในนครโฮจิมินห์ เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่ผ่านมาว่า บริษัทมีแผนที่จะลงทุนในเวียดนามเพิ่มอีก เนื่องจากมองว่าเวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพและคาดว่าจะสามารถขึ้นเป็น 1 ในตลาดยักษ์ใหญ่ของบริษัทได้ในอนาคต

กว่า 15 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ลงทุนเม็ดเงินไปกว่า 200 ล้านดอลลาร์ สร้างโรงงาน 3 แห่งในเวียดนามซึ่งสามารถสร้างงานให้แรงงานในประเทศกว่า 1,500 ตำแหน่ง

"เวียดนามเป็นตลาดสำคัญของบริษัท เรามีมุมมองด้านบวกเกี่ยวกับอนาคตของธุรกิจเราที่นี่" นายเคนต์ กล่าว

นับตั้งแต่กลับเข้าลงทุนในเวียดนามอีกครั้งหนึ่งในปี 2537 บริษัทโคคา-โคลา ได้ลงทุนไปแล้วกว่า 200 ล้านดอลลาร์ ปูพรมสร้างโรงงานบรรจุขวดอีก 3 แห่ง ในภาคเหนือ ภาคกลาง และ ภาคใต้

อย่างไรก็ตามโคคา-โคลาไม่ได้ระบุว่าเม็ดเงินที่จะลงทุนเพิ่มอีก 2 เท่านี้จะนำไปใช้ในส่วนใดบ้าง

ส่วนนายกฯ เวียดนามมีความพอใจกับแผนการลงทุนของบริษัทโคคา-โคลา ที่จะเพิ่มเงินลงทุนอีก 2 เท่าในเวียดนามและยังรับรองว่ารัฐบาลจะเดินหน้าต่อในการสร้างสภาวะที่เหมาะสมกับการลงทุนให้กับนักธุรกิจชาวอเมริกัน รวมถึงบริษัทโคคา-โคลาด้วย ในการเข้ามาทำธุรกิจในประเทศคอมมิวนิสต์แห่งนี้

ในระหว่างความยินดีกับความสัมพันธ์ทางการค้าระดับทวิภาคีนี้ นายกฯ ยังได้แสดงความปรารถนาไปยังรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะให้สิทธิพิเศษทางการค้าหรือ GSP (Generalised System of Preferences) กับเวียดนามในเร็วๆ นี้

นายเคนต์ยังมีตำแหน่งเป็นประธานสภาที่ปรึกษาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน (President of the US-ASEAN Business Advisory Council) ที่มีบทบาทสำคัญอีกด้วย

ปัจจุบันเวียดนามมีประชากรเกือบ 86 ล้านคน กว่า 51% เป็นประชากรที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี เอื้ออำนวยต่อธุรกิจเครื่องดื่มอัดลม.
กำลังโหลดความคิดเห็น