xs
xsm
sm
md
lg

ญี่ปุ่นให้เขมรกู้ $72 ล้านพัฒนาสีหนุวิลล์ รับการค้า-ท่องเที่ยว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#cc00cc>ภาพจาก 4.blogspot.com บรรยายว่า เรือสำราญเดินทะเลอาร์คาเดีย (Arcadia) กำลังแล่นออกจากอ่าวสีหนุวิลล์ วันที่ 19 มี.ค.2552 หลังแวะจอดเป็นเวลา 2 วันเพื่อให้นักท่องเที่ยวราว 2,000 คนขึ้นฝั่ง เมืองท่าเพียงแห่งเดียวของกัมพูชาในอ่าวไทย ถูกกำหนดเป็นปลายทางใหม่ของเรือท่องเที่ยวหลายลำที่นำนักท่องเที่ยวระดับบนเข้ามาในแถบนี้ รัฐบาลกัมพูชากำลังเร่งพัฒนาสีหนุวิลล์ให้เป็น พัทยาแห่งที่ 2 </FONT></bR>

ผู้จัดการ 360 องศารายสัปดาห์ -- รัฐบาลญี่ปุ่นได้ให้เงินกู้ผ่อนปรนแก่กัมพูชาอีก 72 ล้านดอลลาร์ สำหรับการขยายท่าเรือสีหนุวิลล์ ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึกเพียงแห่งเดียวในประเทศ เพื่อรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ตลอดจนการลงทุน การค้า อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวตามแผนพัฒนาระยะ 10 ปี ที่ประกาศก่อนหน้านี้

ด้วยเงินทุนก้อนใหม่นี้ ท่าเรือสีหนุวิลล์ กำลังจะมีอาคารอเนกประสงค์ ซึ่งจะใช้สำหรับเป็นคลังเก็บสินค้า และใช้เป็นท่าคอนเทนเนอร์แห่งใหม่ เงินอีกส่วนหนึ่งจะใช้พัฒนาระบบสาธารณูปโภคโดยรอบอาณาบริเวณ ซึ่งเป็นประตูส่งออกสินค้าในอ่าวไทย และยังถูกกำหนดให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนาเศรษฐกิจในเขตภาคใต้ของประเทศอีกด้วย

ตามรายงานของสื่อในกัมพูชาการพัฒนาลานคอนเทนเนอร์แห่งใหม่จะอำนวยความสะดวกให้แก่การนำเข้าและส่งออกได้ดียิ่งขึ้น ขณะที่บริษัทชิปปิ้งเริ่มส่งออกสินค้าจากกัมพูชาผ่านท่าเรือน้ำลึกแห่งใหม่ในภาคใต้เวียดนามมากยิ่งขึ้น

ทั่วอาณาบริเวณท่าเรือแห่งนี้มีเนื้อที่ไม่ถึง 125 เฮกตาร์ (ไม่ถึง 800 ไร่) ท่าเทียบเรือแห่งแรกสร้างเมื่อปี 2499 แล้วเสร็จในปี 2503 ความยาว 292 เมตร และกว้าง 28 เมตร เรือสินค้าขนาดกลางเข้าจอดเทียบได้คราวละ 4 ลำ บริเวณลึกที่สุด 8.5-13 เมตร ท่าเทียบชั้นในมีความลึกเพียง 7.50-8.50 เมตรเท่านั้น

รัฐบาลกัมพูชาในยุคใหม่ได้สร้างท่าเทียบเรืออีกแห่งหนึ่งในอาณาบริเวณใกล้เคียงกัน มีความยาว 350 เมตร น้ำลึก 10.50 เมตร นอกจากนั้น ยังมีการก่อสร้างท่าเทียบคอนเทนเนอร์อีกแห่งหนึ่งมีความยาว 400 เมตรในเนื้อที่ 6.5 เฮกตาร์ (40 ไร่เศษ) การก่อสร้างแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2550
<br><FONT color=#cc00cc>ภาพจาก 4.blogspot.com วันที่ 19 มี.ค.2552 หาดทรายขาวค่อนข้างบริสุทธิ์ เป็นที่ปรารถนาของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก แต่สีหนุวิลล์กำลังจะให้ได้มากกว่านี้ ซึ่งรวมทั้งโรงแรม 5 ดาวอีกหลายหลังกับกาสิโนแห่งใหม่ๆ บนเกาะต่างๆ ที่เรียงรายอยู่ในอ่าวแห่งนี้ </FONT></bR>
<br><FONT color=#cc00cc>ภาพจาก 4.blogspot.com วันที่ 19 มี.ค.2552 หาดทรายแห่งนี้เป็นหนึ่งใน 4-5 แห่งที่เรียงร้ายตามความโค้งของชายฝั่งจากสีหนุวิลล์ไปยังเมืองแก๊ป (Kep) จ.กัมโป้ต (Kampot) ที่นี่สมาชิกของสมาคมอาบแดดมีจำนวนหนาตาขึ้นเรื่อยๆ  </bR>
เงินกู้ก้อนล่าสุดจากญี่ปุ่นจะนำไปใช้ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างและสร้างระบบสาธารณูปโภคในอาณาบริเวณท่าเทียบคอนเทอนเนอร์แห่งนี้

ไม่เพียงแต่จะศูนย์กลางการส่งออกและนำเข้าสินค้าเท่านั้น ในช่วง 2-3 มานี้ สีหนุวิลล์ยังเป็นปลายทางของเรือสำราญเดินทะเลของนักท่องเที่ยวระดับบนอีกด้วย เรือแต่ละลำนำนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงขึ้นฝั่งคราวละ 1,000-3,000 คน

รัฐบาลกัมพูชาได้ประกาศให้สีหนุวิลล์ เมืองเอกของจังหวัดพระสีหนุ (Preah Sihanouk) เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมปิโตรเลียม อุตสาหกรรมผลิตและแปรรูปสินค้าเพื่อส่งออก รวมทั้งการท่องเที่ยว
<br><FONT color=#cc00cc>ภาพจากเว็บไซต์การท่าเรือกัมพูชา เมืองท่าสีหนุวิลล์ ใน จ.พระสีหนุ (Preah Sihanouk) พ้ฒนาทันสมัยขึ้นในช่วงหลายปีมานี้ ด้วยความช่วยเหลือของประเทศผู้บริจาค รวมทั้งญี่ปุ่น ประเทศเล็กๆ และ เศรษฐกิจเล็กๆ แต่ก็พัฒนาไปเร็ว ญี่ปุ่นเพิ่งให้เงินกู้ก้อนใหม่ปรับปรุงคอนเทนเนอร์ยาร์ดของท่าเรือแห่งนี้ </FONT></bR>
<br><FONT color=#cc00cc>ภาพจาก 4.blogspot.com วันที่ 19 มี.ค.2552 บนบกยังมีโรงแรมริมหาดหลังใหม่ผุดขึ้นทุกปีและจะมีมากขึ้นในอีก 3-5 ปีข้างหน้า กัมพูชาใช้วิธีให้สัมปทานที่ดินระยะยาว 50-90 ปีเพื่อดึงดูดการลงทุนเข้าไปที่นั่น </FONT></bR>
สนามบินสีหนุวิลล์กำลังจะเป็นท่าอากาศยานนานาชาติใหญ่ที่สุดในประเทศ ใหญ่โตกว่าท่าอากาศยานโปเจินตง (Pochentong) ในกรุงพนมเปญ และเสียมราฐ-อังกอร์ (Siem Reap-Angkor) ในเสียมราฐ

รัฐบาลได้ให้สัมปทานระยะยาวตั้งแต่ 50-99 ปีแก่นักลงทุนต่างชาติ เพื่อให้พัฒนาหาดทรายสีหนุวิลล์ กับเกาะใหญ่น้อยนอกชายฝั่ง ให้เป็นปลายทางท่องเที่ยวระดับโลก ซึ่งจะมีโรงแรม-รีสอร์ตระดับ 5 ดาว สนามกอล์ฟทันสมัยและกาสิโนที่หรูหรา

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของท่าเรือน้ำลึกนั้น รัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะพัฒนาให้สีหนุวิลล์เป็นที่จอดเรือสินค้าขนาดใหญ่ เนื่องจากจะต้องลงทุนสูงมากและไม่ยังไม่มีความจำเป็นใดๆ ทั้งนี้เป็นรายงาของสำนักข่าวเอเคพี (Agence Kampuchean-Presse)
กำลังโหลดความคิดเห็น