ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- กลุ่มนักเคลื่อนไหวเตรียมตัวกันคึกคัก วางแผนตบเท้าประท้วงช่วงที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย ไปเยือนในวันศุกร์ (12 มิ.ย.) ศกนี้ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจกรุงพนมเปญ ออกเตือนให้ระวังการก่อความวุ่นวายในช่วงดังกล่าว และการประท้วงต้องได้รับอนุญาตจากทางการเสียก่อน
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ “เขมรสถาปนา” (Khmer Sthapana) วันพุธ (10 มิ.ย.) นายรงชุน (Rong Chhun) ประธานสมาคมครูอิสระแห่งชาติ ได้ยื่นหนังสือถึงทางการกรุงพนมเปญ แสดงเจตจำนงที่จะจัดชุมนุมประท้วงอย่างสงบ ระหว่างการเยือนของนายกรัฐมนตรีไทย ไม่ว่าจะได้รับอนุญาตหรือไม่ก็ตาม
ผู้นำของกลุ่มนี้วางแผนจะเข้ายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีไทย เพื่อเรียกร้องไห้ไทย “ยุติการยึดครองดินแดนของกัมพูชา”
“เราต้องการให้นายกรัฐมนตรีไทย สั่งถอนทหารออกจากกัมพูชา และทำให้สถานการณ์เป็นเหมือนเช่นก่อนวันที่ 15 ก.ค.2551” นายชุน ให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุเสียงอเมริกาภาคภาษาเขมร วันเดียวกัน ซึ่งหมายถึงสถานการณ์ประมาณหนึ่งสัปดาห์ หลังจากก่อนที่องค์การยูเนสโก รับขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก แต่เพียงฝ่ายเดียวของกัมพูชา ในวันที่ 7 เดือนเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม นายแก๊ป จุ๊กเตมา (Kep Chuktema) ผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ที่จะต้องต้อนรับการเยือนของผู้นำไทย กล่าวว่า การประท้วงจะไม่ช่วยแก้ปัญหาข้อพิพาทชายแดนระหว่างสองประเทศ
ทหารไทยได้เข้าประจำการใน “พื้นที่พิพาท” ประมาณ 4.5 ตารางกิโลเมตร รอบๆ ปราสาทพระวิหาร ซึ่งอยู่ในเขตสันปันน้ำของไทย ตามที่รัฐบาลไทยได้ยื่นหนังสือยืนยันในอำนาจอธิปไตยของไทยเอาไว้ ต่อศาลโลก ในกรุงเฮก หลังการตัดสินยกปราสาทพระวิหารให้รัฐบาลกัมพูชา ในเดือน มี.ค.2505 หรือเมื่อเกือบ 50 ปีมาแล้ว
พล.ท.โต๊จ นะรถ (Touch Naroth) ผู้บัญชาการตำรวจกรุงพนมเปญ กล่าวว่า ผู้นำของไทยกำลังจะเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ตำรวจจะไม่อนุญาตให้ผู้ใดกระทำการใดอันเป็นการขัดขวาง ทำให้อับอาย หรือเป็นการทำลายชื่อเสียงของรัฐบาลกัมพูชา หรือถ้าหากทำให้เกิดความวุ่นวายในสังคมจะถูกลงโทษตามกฎหมาย
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ กล่าวว่า ยังไม่สามารถขอความเห็นจาก นายเขียว กัญฤทธิ์ รัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าวกัมพูชา กับ นายกอยเกือง (Koy Kuong) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้ บุคคลทั้งสองเป็นกระบอกเสียงสำคัญในการวิพากษ์วิจารณ์ประเทศไทยตลอดเวลาที่ผ่านมา
นายอภิสิทธิ์ กำลังจะเยือนกัมพูชาเป็นเวลา 2 วัน นรม.ของไทยกำลังจะส่งมอบโบราณวัตถุอีก 7 ชิ้นให้แก่รัฐบาลกัมพูชา หลังจากที่เคยส่งมอบไปแล้วจำนวนหนึ่ง ระหว่างการเยือนไทยของสมเด็จฯ ฮุนเซน ในช่วงที่ไปร่วมการประชุมผู้นำอาเซียนที่เมืองพัทยา
ผู้นำของไทยยังมีกำหนดการเข้าเฝ้าฯ กษัตริย์กัมพูชา สมเด็จนโรดมสีหมุนี ด้วย
เมื่อเดือนที่แล้วรัฐบาลกัมพูชา ได้ยื่นหนังสืออย่างเป็นทางการถึงรัฐบาลไทย เรียกร้องให้ฝ่ายไทยจ่ายค่าเสียหายประมาณ 2 ล้านดอลลาร์ สำหรับสิ่งที่ฝ่ายนั้นกล่าวหาว่า เกิดจากการที่ทหารไทยยิงถล่มตลาดค้าขายชายแดนที่บริเวณทางขึ้นปราสาทพระวิหาร ในวันที่ 3 เม.ย.2552 ขณะเกิดการปะทะกันระหว่างทหารของสองฝ่ายที่บริเวณภูมะเขือ ห่างออกไปกิโลเมตรเศษ
ฝ่ายไทยได้ตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งขึ้นมาตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ตามข้อเรียกร้องของฝ่ายกัมพูชาก่อนจะมีการตัดสินใจใดๆ ในเรื่องค่าเสียหาย