ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุนเซน (Samdach Akkak Moha Sena Pdei Techo Hun Sen) กับ ท่านผู้หญิงบุนรานี-ฮุนเซน (Chum Teav Thom Bun Rany-Hun Sen) กำลังจะได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ Ph.D. จากสถาบันอุดมศึกษาสองแห่งในเกาหลี ระหว่างการเยือนในขณะนี้
Ph.D ใบใหม่กำลังจะเป็นใบที่ 12 สำหรับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เท่าที่มีการรายงานผ่านสื่อในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กับ จุมเตียวธม หรือท่านผู้หญิง ออกเดินทางไปเกาหลีใต้ ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.เพื่อร่วมการประชุมผู้นำในกรอบความร่วมมืออาเซียน-เกาหลี (ASEAN-Korea Summit) ครั้งที่ 20 ที่จัดขึ้นบนเกาะเจจู (Jeju) ปลายท่องเที่ยวสำคัญในภาคใต้ของเกาหลี ซึ่งผู้นำจากอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ได้เดินทางไปร่วมอย่างพร้อมหน้า และ ผู้นำกัมพูชา ได้ถือโอกาสนี้เยือนประเทศเจ้าภาพอย่างเป็นทางการ
นายศรี ธรรมรงค์ (Sri Thamarong) ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะผู้ติดตามนายกรัฐมนตรีกับภริยา เปิดเผยว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน กำลังจะเข้ารับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาวิชารัฐศาสตร์ หรือ Ph.D.(Political Science) จากมหาวิทยาลัยที่ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อ ซึ่งสภามหาวิทยาลัยดังกล่าวเห็นว่าผู้นำกัมพูชามีความปรีชาสามารถ นำประเทศพ้นจากสภาวะสงครามไปสู่ความสงบปราศจากการนองเลือด และยังประสบความสำเร็จในการสร้างเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศอีกด้วย
ส่วนมหาวิทยาลัยสตรีแห่งกรุงโซล (Seoul Women University) มีกำหนดประศาสน์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาเศรษฐกิจ หรือ Ph.D. (Economy) แก่ส่วนจุมเตียวธม ในฐานะเป็นผู้อุทิศตนให้แก่การพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวกัมพูชามาโดยตลอด ทั้งในฐานะภริยาผู้นำและในฐานะนายิกาสภากาชาดกัมพูชา ทั้งนี้เป็นรายงานบนเว็บไซต์ Everyday.com.kh เว็บไซต์ข่าวภาษาเขมรยอดนิยม
เดือน ม.ค.2552 สมเด็จฯ ฮุนเซน ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตสาขาเศรษฐศาสตร์ หรือ Ph.D. (Economics) จากมหาวิทยาลัยวูซุก (Woosuk University) แห่งเมืองวอนจู (Wonju) ซึ่งเป็นสถาบันอุดมศึกษาจากเกาหลีใต้แห่งที่ 3 ที่ประศาสน์ปริญญาดุษฎีบัณฑิตแก่ผู้นำที่อยู่ในอำนาจติดต่อกันมานาน 24 ปีโดยไม่ขาดช่วงและนั่นคือ Ph.D.ใบที่ 11
อย่างไรตาม การสืบค้นจนได้พบว่า ถึงแม้มหาวิทยาลัยวูซุกจะก่อตั้งมานานถึง 30 ปี และ เปิดสอนหลากหลายสาขาวิชา จนถึงระดับปริญญาเอก แต่ก็ไม่เคยมีการเปิดสอนในสาขาเศรษฐศาสตร์ในระดับใด ซึ่งทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับคุณค่าของปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ของสมเด็จฯ ฮุนเซน
ส่วนสุภาพสตรีหมายเลข 1 ซึ่งครองบรรดาศักดิ์ “จุมเตียวธม” หรือ “ลุ๊กจุมเตียว” (Lok Chum Teav) เพียงหนึ่งเดียวของประเทศ ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตใบแรกเมื่อปีที่แล้ว พิธีประศาสน์จัดขึ้นในเดือน ต.ค.ที่ศาลาจตุมุข หอประชุมใหญ่ของกรุงพนมเปญ
ในคราวเดียวกันนี้มหาวิทยาลัยแห่งกัมพูชา (University of Cambodia) ซึ่งเป็นสถาบันอุดมศึกษาของเอกชน ได้ประศาสน์ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แก่ ผู้นำระดับสูงอีกหลายคน
ท่านผู้หญิงบุนรานี ได้รับ Ph.D. ดุษฎีบัณฑิต สาขามนุษยศาสตร์ (Humanity) จากมหาวิทยาลัยแห่งกัมพูชา (University of Cambodia) เนื่องจากเป็นผู้ทรงคุณงามความดี มีผลงานมากมาย ในการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพด้านสาธารณสุขของประชาชน สมเด็จฯ ฮุนเซน ได้เป็นเกียรติเข้าร่วมในพิธี เช่นเดียวกับผู้นำระดับสูงที่อยู่แวดล้อมอีกจำนวนมาก
กว่า 20 ปีมานีสมเด็จฯ ฮุนเซน ได้รับประศาสน์ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิติตมศักดิ์จากสถาบันอุดมศึกษาของหลายประเทศ รวมทั้งสองแห่งในประเทศไทย คือ มหาวิทยาลัยรามคำแหงและมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา