ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- การก่อสร้างทำเนียบรัฐบาลหลังใหม่ของกัมพูชา ซึ่งประกอบด้วยอาคารรูปทรงพีระมิดแบบอียิปต์โบราณใกล้แล้วเสร็จ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ได้สร้างความวิตกกังวลให้แก่ท่านผู้หญิงดอกเตอร์บุนรานีฮุนเซน สตรีหมายเลขหนึ่งที่มีความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์อย่างจริงจัง เนื่องจากห้องทำงานของท่านผู้นำ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุนเซนถูกออกแบบให้อยู่ใต้พีระมิด
ตามตำราประวัติศาสตร์นั้นภายในหรือใต้พีระมิดส่วนใหญ่ รวมทั้งมหาพีระมิดแห่งกิซา (The Great Pyramid of Giza) จะถูกใช้เก็บพระศพของฟาโรห์องค์สำคัญต่างๆ นี่คือประเด็นสำคัญทางไสยศาสตร์ของครอบครัวท่านผู้นำในขณะนี้
หนังสือพิมพ์รายปักษ์ “ขะแมร์โพสต์” (Khmer Post) ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์สองภาษาที่ออกในสหรัฐฯ รายงานเรื่องนี้ในฉบับวันที่ 6-25 เม.ย.ที่กำลังวางจำหน่ายบนแผงหนังสือในย่านที่มีประชาคมชาวเขมรในมลรัฐต่างๆ โดยอ้างแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ในกรุงพนมเปญ
อาคารรูปทรงพีระมิดหลังนั้น ถูกโอบล้อมด้วยอาคารทรงสมัยใหม่ทั้งสองข้าง นอกจากจะเป็นที่ทำงานของคณะรัฐมนตรีแล้ว ยังมีห้องทำงานของสมเด็จฯ ฮุนเซน กับบรรดารองนายกรัฐมนตรี กับรัฐมนตรีคนสำคัญอีกหลายคน รวมทั้งนายโสกอาน ที่ควบตำแหน่งรองนายกฯ และ รัฐมนตรีประจำนักนายกรัฐมนตรีอีกด้วย
หลังจากมีผู้ทักทายเรื่องห้องทำงานที่สร้างขึ้นใต้อาคารทรงพีระมิดแล้ว ท่านผู้หญิงได้แสดงความหวั่นวิตกและเกรงว่าอาจจะเกิดความเลวร้ายขึ้นในอนาคต เนื่องจากที่นั่นเป็นเสมือนห้องเก็บศพของพวกอียิปต์โบราณเป็นนิมิตรหมายที่ไม่ดี
ท่านผู้หญิง ดร.บุนรานี ไม่ปรารถนาให้สามีไปนั่งทำงานที่นั่น นอกจากนั้น ก็ยังไม่พอใจที่ห้องทำงานของสมเด็จฯ ฮุนเซน ถูกออกแบบมาให้ดูเล็กกว่าห้องทำงานของนายโสกอานอีกด้วย แม้ว่าบุตรชายคนหนึ่งของท่านผู้นำจะสมรสกับธิดาคนหนึ่งของนายโสกอาน ก็ตาม ขะแมร์โพสต์ กล่าว
รัฐบาลจีนได้ให้ความช่วยเหลือในการก่อสร้างอาคารทำเนียบรัฐบาลหลังใหม่ของกัมพูชา โดยออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด 36 ล้านดอลลาร์ การก่อสร้างเริ่มมาตั้งแต่ปี 2549
เป็นที่ทราบกันมานานแล้วว่า ท่านผู้หญิง หรือ “ลุ๊กจุมเตียว” (Lok Chum Teav) มีอิทธิเพลต่อการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีในหลายเรื่อง และ ความเชื่อทางไสยศาสตร์นี้ได้ทำให้ท่านผู้นำตัดสินใจที่จะเลื่อนการเปิดใช้อาคารพีระมิดออกไป และ ไม่ปรารถนาจะไปนั่งทำงานในห้องที่ถูกจัดไว้
ขะแมร์โพสต์ กล่าวอีกว่า ห้องทำงานของบรรดารองนายกฯ และ รัฐมนตรีคนสำคัญต่างๆ ออกแบบให้ทันสมัยในระดับสากล แต่สมเด็จฯ ฮุนเซน ซึ่งเคยไปตรวจความคืบหน้าในการก่อสร้าง ได้แสดงความไม่พอใจ เรื่องห้องทำงานที่เล็กกว่าของนายโสกอาน เรื่องอาคารสำนักนายกฯ ตั้งอยู่ริมถนนใครๆ ก็สามารถเดินผ่านเข้าไปใกล้ได้ กับเรื่องห้องทำงานตั้งอยู่ใต้ฐานพีระมิด
ข่าวเล่าลือเรื่องนี้ดังหนาหูหลังจากท่านผู้หญิง ได้ไปปรึกษากับบรรดาโหราจารย์ที่มีชื่อเสียง และทุกคนเห็นพ้องกันว่า รูปทรงของอาคารนั้นตั้งอยู่ผิดที่ผิดเวลาเป็นอัปมงคล จะนำความเลวร้ายสู่บ้านเมือง วิธีแก้ไขก็คือ นายกรัฐมนตรีจะต้องย้ายห้องทำงานใหม่ขึ้นอยู่ชั้นบนสุด เพื่อให้อยู่ในตำแหน่ง “ผู้ครอบครอง” แทนการเป็น “ผู้อยู่ใต้การครอบครอง”
เจ้าหน้าที่รายเดียวกันนี้ กล่าวอีกว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน ได้ตัดสินใจซื้อที่ดินอีกผืนหนึ่งที่อยู่ติดอาคารทำเนียบรัฐบาลที่จีนสร้าง ไม่ว่าราคาจะแพงแสนแพงสักเพียงไรก็ตาม
ที่ดินผืนดังกล่าวเป็นของกลุ่มธุรกิจใหญ่กลุ่มหนึ่งที่ใกล้ชิดกับพรรครัฐบาล สมเด็จฯ ฮุนเซนยังเลือกบริษัทก่อสร้างภายใต้เครือข่ายของนายโสกอาน ซึ่งไว้ใจได้มากที่สุดในการออกแบบและก่อสร้างอาคารอีกหลังหนึ่งเพื่อเป็นที่ทำงานถาวรของนายกรัฐมนตรี
ไม่ต่างกับท่านผู้หญิงสตรีหมายเลข 1 บรรดาคุณหญิง (Chum Teav) ภริยาของบรรดาผู้นำคนสำคัญต่างก็ออกปรึกษาบรรดาโหราจารย์ เกี่ยวกับฮวงจุ้ยสถานที่ทำงานของบรรดาสามี และ หมอดูพากันฟันธงแบบเดียวกันว่าที่นั่นอัปมงคล ขะแมร์โพสต์ กล่าว