ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ภาพสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เดินจับมือกับ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย เดินเข้าสู่งานวิวาห์ของบุตรสาว เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้รับความสนใจจากแขกเหรื่อที่ไปร่วมงานอย่างยิ่งและหลายคนระคนแปลกใจที่ได้เห็นอดีตผู้นำของไทยไปรากฏตัวที่นั่น
สิ่งนี้ได้แสดงให้เห็นสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสองฝ่าย แม้ว่า นายสมชาย จะไม่ได้เป็นผู้นำรัฐบาลของไทยต่อไปแล้วก็ตาม ทั้งนี้ เป็นความเห็นของหนังสือพิมพ์ในกัมพูชา
นายสมชาย กับ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยา ไปร่วมเป็นเกียรติในงานแต่งของ ฮุน มะนา (Hun Mana) บุตรีคนแรกของสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน กับท่านผู้หญิง ดร.บุนรานี-ฮุนเซน (Look Chum Teav Dr Bun Rany-Hun Sen) โดยได้รับเชิญจากครอบครัวผู้นำ หนังสือพิมพ์กัมพูชาทะเมย (Kampuchea Thmey) หรือ “กัมพูชาใหม่” กล่าว
ภาพที่ทำให้แขกเหรื่อ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลจำนวนมากที่ไปร่วมงานแต่งต้องแปลกในต่อมา ก็คือ ฝ่ายเจ้าภาพได้เชิญ นายสมชาย กับ นางเยาวภา เข้าร่วมพิธีตัดปลายผมให้เจ้าบ่าวกับเจ้าสาว รวมทั้งขั้นตอนอื่นๆ ตามประเพณีของชาวเขมร ซึ่งโดยปกติจะกระทำโดยบิดามารดา และแขกผู้ใหญ่ของสองฝ่ายเท่านั้น
“สมเด็จฯ ฮุนเซน กับท่านสมชาย สนทนากันอย่างสนิทสนมในงานแต่ง ต่อหน้าแขกเหรื่อผู้มีเกียรติ” ซึ่งได้ยืนยันถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กับอดีตผู้นำของไทย หนังสือพิมพ์ภาษาเขมรฉบับเดียวกันกล่าว
นายเขียว กัญฤทธิ์ รัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าวกัมพูชา ได้ยืนยันว่า นายสมชาย กับภรรยา ได้รับเชิญไปร่วมงานวิวาห์ในฐานะส่วนตัว เนื่องจากสนิทสนมและรู้จักกันมาเป็นเวลานานก่อนนายสมชาย จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีของไทยเสียอีก นายสมชาย ยังรับเชิญ เพราะเห็นว่าไทยและกัมพูชานับถือพุทธศาสนานิกายเดียวกัน มีวัฒนธรรมประเพณีคล้ายกันอีกด้วย
“แม้ว่าการเชิญ นายสมชาย จะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่มันได้แสดงให้เห็นว่าในแง่ของมิตรภาพกับความร่วมมือแล้วสองประเทศยังสามารถเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันได้ ท่านนายกฯ ฮุนเซน เคยพูดว่า-- แม้เรา (สองประเทศ) จะไม่มีสะพานคอนกรีต การมีสะพานไม้ไผ่ก็ยังดีกว่าไม่มีสะพานอะไรเลย” นายเขียว กล่าว
กัมพูชาทะเมย รายงานอีกว่า หลังจากได้เข้าร่วมพิธีทางศาสนาและพิธีอื่นๆ ตามประเพณีแล้ว นายสมชาย กับภรรยา ยังได้ไปร่วมงานเลี้ยงอาหารมื้อเที่ยงฉลองสมรส เป็นเกียรติแก่เจ้าภาพอีกด้วย ซึ่งได้สร้างความแปลกใจแก่แขกเหรื่อเป็นหนที่สอง งานเลี้ยงจุดขึ้นที่ศูนย์มอนเดียล (Mondial Centre) กรุงพนมเปญ
อดีตนายกฯ ของไทย กับภรรยา พร้อมผู้ติดตามอีก 4-5 คน เดินทางถึงกรุงพนมเปญในวันที่ 2 ม.ค.และในทันทีที่เดินทางถึงสนามบินก็ถูกนำตัวออกไปจากที่นั่น ตรงไปยังบ้านพักของสมเด็จฯ ฮุนเซน ที่ในเมืองตาขะเมา (Takhmao) จ.กันดาล (Kandal) ซึ่งอยู่ชานกรุงพนมเปญ
นายสมชาย กับคณะเดินทางกลับประเทศไทยในวันเดียวกันหลังเสร็จงานพิธี กัมพูชาทะเมย กล่าว
สมเด็จฯ ฮุนเซน และท่านผู้หญิงบุนรานี มีบุตร 3 คน ธิดาอีก 2 คน รวมเป็น 5 โดย ฮุน มะนาเป็นคนที่สอง แต่เป็นธิดาคนแรก ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์บายน (Bayon TV) ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ของเอกชนเพียงแห่งเดียวในประเทศ เธอหย่ากับสามีคนแรกเมื่อสองปีที่แล้ว
คราวนี้ ฮุน มะนา เข้าวิวาห์กับ ดี วิชา เจตรา (Dy Vichea Chetra) บุตรคนโตของ พล.อ.ฮ็อก ลุนดี (Hok Lundy) อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ถึงแก่กรรมในอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกเดือน พ.ย.2551 จึงเป็นวิวาห์ครั้งที่สอง
ฝ่ายเจ้าบ่าวเคยแต่งกับญาติของฮุน มะนา ก่อนจะหย่าจากกัน สองฝ่ายยังมีความเกี่ยวดองใกล้ชิด เนื่องจากในปัจจุบันน้องสาวคนหนึ่งของเจ้าบ่าว ยังเป็นน้องสะใภ้ของเธออีกด้วย
ภาพงานวิวาห์ ภาพนายสมชาย กับ สมเด็จฯ ฮุนเซน ถูกตีพิมพ์เผยแพร่อย่างกว้างขวางโดยสื่อต่างๆ หนังสือพิมพ์อีกหลายฉบับ รวมทั้ง กัมโบดซวาร์ (Cambodge Soir Hebdo) เกาะสันติภาพ (Koh Santepheap) และ รัศมีกัมพูชา (Reasmey Kampuchea) ได้รายงานเรื่องนี้อย่างไม่มีพลาด
เมื่อข่าวถูกนำขึ้นเผยแพร่บนเว็บไซต์ของสื่อต่างๆ ได้มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก การปรากฏตัวของนายสมชายในกรุงพนมเปญครั้งนี้ มีเสียงสะท้อนและมุมมองทั้งในแง่บวกและลบ
ผู้อ่านหลายคนให้ความเห็นทำนองเดียวกัน ว่า ชาวกัมพูชาไม่ควรต้อนรับ นายสมชาย ซึ่งเป็นผู้สั่งทหารไทยยิงทหารเขมรตายไป 2 คน ในเหตุการณ์ที่ชายแดนพนมโตร๊บ (Phnom Trop) หรือ ภูมะเขือ ในเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว
อีกส่วนหนึ่งมองว่า ภาพจากงานวิวาห์ได้ยืนยันว่า ปัญหาที่ชายแดนด้านปราสาทพระวิหารนั้น แท้จริงแล้วเป็นทั้งเรื่องการเมือง และเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัว โดยโยงใยความเกี่ยวดองระหว่าง นายสมชาย กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อีกคนหนึ่ง
อีกคนหนึ่งให้ความเห็นอย่างประชดประชัน ว่า เมื่อธิดาของสมเด็จฯ ฮุนเซน หย่าครั้งต่อไป ควรจะได้แต่งงานกับบุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือ ของ นายสมชาย เพื่อมิตรภาพตลอดกาลระหว่างไทยกับกัมพูชา
