xs
xsm
sm
md
lg

สื่อลูกสาว-สื่อรัฐบาล โหมโปรโมต “เฟิร์สเลดี้” ท่านผู้หญิง ดร.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>เนื่องจากสมเด็จพระนโรดมภูวนาถสีหมุนี กษัตริย์แห่งกัมพูชาทรงครองโสด อดีตสมเด็จพระราชินีโมนิกมุนีนาถ พระราชมารดา ทรงเป็น เฟิร์สเลดี้ มาตลอด จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้. -- ภาพ:  สำนักข่าวกัมพูชา.</font>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- กัมพูชา มี “เฟิร์สเลดี้” คนใหม่แล้ว ทางการกำลังทำให้ประชาชนลืมอดีตพระราชินีโมนิกมุนีนาถ ที่ทรงถูกเรียกขานเป็น “เฟิร์สเลดี้” สตรีหมายเลข 1 ของประเทศมาแต่เดิม เบอร์หนึ่งคนใหม่ไม่ใช่ใครไหนอื่น หากเป็นท่านผู้หญิงดอกเตอร์ บุนรานี ฮุนเซน ภริยาของผู้นำอดีตมิตรนารีเขมรแดงใต้ระบอบโปลโป้ท

เรื่องนี้จุดประกายขึ้น โดย นายบันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งเชื้อเชิญท่านผู้หญิงดอกเตอร์ ไปร่วมประชุม “สตรีหมายเลข 1” สัปดาห์ที่แล้ว เป็นการเปิดฉากใช้คำว่า “เฟิร์สเลดี้” กับท่านผู้หญิง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นอุปนายิกาสภากาชาดกัมพูชา

นับแต่วันนั้นมา สำนักข่าวของรัฐบาลได้ใช้คำนี้มาอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่ตีพิมพ์เผยแพร่ภาพและข่าวเกี่ยวกับภริยาผู้นำ

วันที่ 15 มิ.ย.2554 เมื่อท่านผู้หญิง บุนรานี เดินทางกลับ หนังสือพิมพ์กัมปูเจียทะเมย (Kampuchea Thmei) “กัมพูชาใหม่” ที่ ฮุนมะนา บุตรสาวคนโต เป็นเจ้าของได้พาดหัวข่าวระดับหัวไม้ว่า “สตรีหมายเลข 1 กลับจากนิวยอร์ก” ทำให้สำนักข่าวกัมพูชาเริ่มใช้คำนี้มาอย่างไม่ขัดเขินต่อเนื่องเช่นกัน

หัวข่าวใหญ่ของสำนักข่าวกัมพูชา ในวันที่ 17 มิ.ย.คือ “Cambodia’s First Lady Asks UN to Support Health Sector in Cambodia” ในการเสนอผลงานการไปประชุมในนครนิวยอร์กของท่านผู้หญิง ซึ่งได้ทำให้ชื่อและนามยศของท่านผู้หญิงยาวขึ้นไปอีก จากเดิมที่เป็นเพียง “ล๊ก-จุมเตียว-ปันดิด” (Lok Chum Teav Bundit)

ข่าวของกัมปูเจียทะเมย และของสำนักข่าวในสังกัดกระทรวงแถลงข่าว โดย นายเขียว กัญฤทธิ์ ต่างยกย่องเชิดชูผลงานของสตรีหมายเลข 1 ในช่วงหลายปีมานี้ ซึ่งมีความห่วงใยต่อประชาชนผู้หาเช้ากินค่ำอยู่เสมอ และการไปร่วมประชุมว่าด้วยโรคเอดส์ที่จัดโดยสหประชาชาติเที่ยวนี้ ท่านผู้หญิง ได้ขอร้องให้ยูเอ็นช่วยเหลือกัมพูชาพัฒนาแขนงสาธารณสุขต่อไป

กัมพูชาได้รับคำชมจากยูเอ็นในความพยายามต่อต้านการแพร่ขยายของเอชไอวีเอดส์ และ ประสบความสำเร็จในการทำให้ผู้ติดเชื้อลดลง จากราว 2% ในปี 2541 เหลือเพียงประมาณ 0.7% เมื่อปีที่แล้ว ด้วยความช่วยเหลือของรัฐบาลหลายประเทศกับองค์กรเอกชนที่ไม่สังกัดรัฐบาลอีกหลายแห่ง

ระหว่างไปร่วมประชุมครั้งนี้สตรีหมายเลข 1 จากกัมพูชาได้พบหารือกับ นายบันคีมูน กับ นางบันซูนแต๊ก (Ban Soon Taek) ภริยา และยังได้พบสนทนากับ นางวออิโซ อาซีด เมสฟิน (Woizer Azed Mesfin) สตรีหมายเลข 1 จากประเทศเอธิโอเปีย อีกด้วย สำนักข่าวของทางการกล่าว

นางบุนรานี เป็นอดีตมิตรนารี หรือทหารหญิงในระบอบเขมารแดงสมัยโปลโป้ท แต่งงานกับฮุนเซน เมื่อครั้งยังเป็นนายทหารชั้นผู้น้อยในกองทัพกัมพูชาประชาธิปไตยในอดีต ซึ่งประจำการทางภาคตะวันออก ติดชายแดนเวียดนาม
<bR><FONT color=#000033>พระเจ้าช่วยด้วย! ท่านผู้หญิงบัณฑิต เฟิร์สเลดี้ (เสด็จฯ) กลับจากนครนิวยอร์ก ปูพรมแดนต้อนรับที่สนามบิน สมเด็จฯ ดอกเตอร์จูงหลานตาไปต้อนรับ พร้อม (พสกนิกร) เหล่ากาชาด หนังสือพิมพ์กัมปูเจียทะเมยของบุตรสาาว เผยแพร่ภาพนี้หราบนหน้า 1 พร้อมหัวข่าวใหญ่ สตรีหมายเลข 1 กลับบ้าน. -- ภาพ: เว็บไซต์กัมปูเจียทะเมย.   </font>
2
<bR><FONT color=#000033>ท่านผู้หญิง ดร. เฟิร์สเลดี้ เขาเยี่ยมและต่อมาได้นำคณะพบหารือกับนายบันคี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก ท่านผู้หญิงขอให้ยูเอ็นช่วยเหลือประชาชนกัมพูชาด้านสาธารณสุขต่อไป มีการตีพิมพ์เผยแพร่ภาพและข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างคึกโครมผ่านสื่อของลูกสาวและสำนักข่าวทางการ. -- สำนักข่าวกัมพูชา.<bR>
3

ในช่วงปี 2519-2521 ฮุนเซน กับกลุ่มปกครองในปัจจุบันได้แปรพักตร์ไปเข้าร่วมกับเวียดนามที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับกลุ่มโปลโป้ท ซึ่งเป็นคอมมิวนิสต์สายปักกิ่ง ซึ่งนำไปสู่การทำสงครามพรมแดนกันหลายครั้ง

ปลายปี 2521 เวียดนามส่งทหารนับแสนคน ข้ามพรมแดนเข้าขับไล่รัฐบาลเขมรแดงออกจากกรุงพนมเปญได้สำเร็จในวันที่ 7 ม.ค.2522

เวียดนามได้จัดตั้งกลุ่มเพ็ญ สุวรรณ เจียซิม เฮง สัมริน กับ ฮุนเซน ขึ้นเป็นรัฐบาลแทน และ สถาปนาพรรคคอมมิวนิสต์ใหม่ขึ้นแทนพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา โดยใช้ชื่อใหม่เป็น “พรรคประชาชนปฏิวัติกัมพูชา” ในสังกัดกลุ่มอุดมการณ์แบบพรรคคอมมิวนิสต์โซเวียตในอดีต

กลุ่มปกครองนี่ยังคงมีอำนาจมาจนถึงปัจจุบัน โดยผ่านการเลือกตั้งที่มีการครอบงำ และการกดขี่ปราบปรามพรรคการเมืองฝ่ายตรงกันข้ามมาอย่างต่อเนื่อง

เดือน มิ.ย.2552 ระหว่างเยือนเกาหลีอย่างเป็นทางการ มหาวิทยาลัยสตรีแห่งกรุงโซล (Seoul Women University) ได้มอบปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาเศรษฐกิจ หรือ Ph.D. (Economy) แก่จุมเตียวธมหรือล๊กจุมเตียวแห่งกัมพูชา ในฐานะเป็นผู้อุทิศตนให้แก่การพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวกัมพูชามาโดยตลอด ทั้งในฐานะภริยาผู้นำและในฐานะนายิกาสภากาชาดกัมพูชา ซึ่งเป็นปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ใบที่ 2

โอกาสเดียวกันมหาวิทยาลัยในกรุงโซลอีกแห่งหนึ่ง ได้มอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาวิชารัฐศาสตร์ หรือ Ph.D.(Political Science) แก่สมเด็จอภิมหาเสนาบดีเดโชดอกเตอร์ฮุนเซน ในฐานะผู้ปรีชานำประเทศพ้นจากสภาวะสงครามไปสู่ความสงบปราศจากการนองเลือด และยังประสบความสำเร็จในการสร้างเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศอีกด้วย นับจำนวนได้ 1 โหลพอดี สำหรับ Ph.D.ของท่านผู้นำ

ส่วน Ph.D.กิตติมศักดิ์ใบแรกของ “ท่านผู้หญิงบัณฑิต” เป็นสาขามนุษยศาสตร์ หรือ Ph.D.in Humanity มอบโดย มหาวิทยาลัยแห่งกัมพูชา (University of Cambodia) เนื่องจากเป็นผู้ทรงคุณงามความดี มีผลงานใหญ่หลวงในการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพด้านสาธารณสุขของประชาชน

พิธีมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตดังกล่าว จัดขึ้นวันที่ 16 ต.ค.2551 ณ หอประชุมจตุมุข (Chaktomouk) กรุงพนมเปญ สามีกับสมาชิกครอบครัวเข้าร่วมงานพร้อมหน้า รวมทั้งบรรดารัฐมนตรีที่ไปร่วมเป็นเกียรติเกือบทั้งคณะ
ฟื้นหาตะเข็บในมูลฝอย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
<bR><FONT color=#000033>ท่านผู้หญิงบัณฑิตบุนรานีฮุนเซน (ทรง) ถ่ายรูปหลังพิธีประศาสตร์ Ph.D. ใบแรกจากมหาวิทยาลัยแห่งกัมพูชา เดือน ต.ค.2551. -- ภาพ: เว็บไซต์ UOC. </font>
4
<bR><FONT color=#000033>ฮุนมะนา บุตรีคนเก่งของสมเด็จ ดร. และ ท่านผู้หญิง ดร. พร้อมสามี (คนที่ 2) ไปแสดงความยินดีกับ (พระ) มารดา ในโอกาสที่ (ทรง) เป็นบัณฑิต ท่านผู้หญิงฯ ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกดิตติมศักดิ์ อีก 1 ใบในปีต่อมา เป็นสาขาเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาสตรีกรุงโซล. -- ภาพ: เว็บไซต์ UOC. </font>
5
<bR><FONT color=#000033>ภาพคลาสสิก -- สมเด็จฯ ดร. ไปแสดงความยินดีกับ ท่านผู้หญิง ในโอกาสที่ได้กลายเป็น บัญฑิต ในพิธีมอบที่หอประชุมจตุมุขอกรุงพนมเปญ รัฐมนตรีไปร่วมเกือบทั้งคณะ. -- ภาพ: เว็บไซต์ UOC. </font>
6
<bR><FONT color=#000033>การ์ตูนโดยเฮงบุนเฮียง ร่วมแสดงความยินดีกับท่านผู้หญิง ดร. เช่นกัน แต่พวกการ์ตูนนิสต์ต่างแดนนี่ปากร้ายชะมัด ชอบโยงท่านผู้หญิงบัณฑิตเข้ากับข่าวในอดีตที่มีดารานักร้องสาวสวยถูกลอบสังหารไปถึง 2 คน .<bR>
7
กำลังโหลดความคิดเห็น