xs
xsm
sm
md
lg

เขมร-เวียดนามตรวจยิบแต่ยังไม่เจอไวรัสหวัดหมู

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#cc00> ภาพแฟ้มเอเอฟพีวันที่ 25 มื.ย.2551 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกำลังลากสัมภาระเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งกลางกรุงพนมเปญ กัมพูชาเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไข้หวัดสุกรไม่แพ้ประเทศอื่นๆ แต่ละวันมีเที่ยวบินเข้าเมืองหลวงนับสิบเที่ยว จากปลายทางต่างๆ ในภูมิภาค </FONT></br>

ASTVผู้จัดการรายวัน -- ทางการเวียดนามได้ตรวจหาเชื้อไวรัสไข้หวัดสุกรต่อเนื่องเป็นวันที่สาม โดยติดตั้งเครื่องสแกนเนอร์ตรวจอุณหภูมิในร่างกายผู้โดยสารที่ไปกับเที่ยวบินต่างๆ แต่ช่วง 2-3 วันมานี้ยังไม่พบกรณีต้องสงสัยใดๆ ขณะที่ทางการกัมพูชาเพิ่งจะเริ่ม

เวียดนามได้ติดตั้งเครื่องสแกนเนอร์ตั้งแต่วันอาทิตย์ (26 เม.ย.) ที่ท่าอากาศยานเตินเซินเญิต (Tan Son Nhat) นครโฮจิมินห์ ส่วนกัมพูชาติดตั้งที่ท่าอากาศยานโปเจินตง (Pochentong) กรุงพนมเปญ โดยเริ่มตรวจผู้โดยสารทุกเที่ยวบินเมื่อวันอังคาร (28 เม.ย.) นี้ แต่สำนักข่าวของทางการกล่าวว่ายังไม่พบกรณีผิดสังเกตใดๆ

เครื่องสแกนเนอร์ดังกล่าวได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลสิงคโปร์ สามารถตรวจจับอุณหภูมิร่างกายตั้งแต่ 37 องศาเซลเซียสขึ้นไป สำนักข่าวซินหัวรายงานอ้างการเปิดเผยของนายเกต สุวรรณา (Ket Sovanna) เจ้าหน้าที่กรมป้องกันโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข

“เรายังจัดเตรียมรถพยาบาลเพื่อขนผู้โดยสารที่ต้องสงสัยไปยังโรงพยาบาลคาลเมต์ในเมือง เพื่อการตรวจรักษาฉุกเฉินด้วย” เจ้าหน้าที่คนเดียวกันกล่าว และยังเปิดเผยอีกว่าในวันพุธนี้จะมีการติดตั้งเครื่องสแกนเนอร์ที่และท่าอากาศยานเสียมราฐ-อังกอร์ (Siem Reap Angkor) เมืองเสียมราฐ ซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติอีกแห่งหนึ่งในประเทศ

ส่วน นายโสกโตจ (Sok Touch) อธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อ เรียกร้องไปยังชาวต่างชาติทุกคนที่พบว่าตนเองมีอาการป่วยเป็นไข้สูงและมีอาการเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ให้สมัครใจไปพบแพทย์ด้วยตนเองอีกด้วย เพื่อรับการตรวจรักษา

องค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ออกคำแถลงฉบับหนึ่งในวันจันทร์ ระบุว่ายังไม่พบการแพร่ระบาดของไวรัส H1N1 ในกัมพูชาแต่อย่างไร ประเทศนี้ยังปลอดภัยจากโรคไข้หวัดสุกร ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวเอเคพี (Agence Kampuchean-Presse) ซึ่งเป็นสำนักข่าวของทางการ
<br><FONT color=#cc00> ภาพแฟ้มเอเอฟพีวันที่ 2 ม.ค.2551 นักท่องเที่ยวชาวตะวันตกกลุ่มใหญ่กำลังชื่นชมความงดงามของพระราชวังแห่งกรุงพนมเปญ หลายคนเดินทางเข้าผ่านท่าอากาศยานโปเจินตง แต่จำนวนไม่น้อยผ่านทางสนามบินเสียมราฐ-อังกอร์  </FONT></br>
กระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม ประกาศเมื่อวันอังคารว่า ยังไม่พบความผิดปกติใดๆ แต่นายเหวียนฮวีงา (Nguyen Huy Nga) อธิบดีบกรมป้องกันทางการแพทย์และสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุขยอมรับว่า เวียดนามมีอัตราเสี่ยงสูงมากในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เดินทางจากดินแดนที่เกิดการแพร่ระบาดเข้าประเทศจำนวนมาก

องค์การอนามัยโลกกล่าวว่าไวรัส H1N1 มีบุคลิกลักษณะที่พิเศษมาก เป็นการผสมผสานคุณสมบัติของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในคน และยังเหมือนสายพันธุ์ H5N1 ที่เป็นต้นเหตุของโรคไข้หวัดนกอีกด้วย ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน

เวียดนามได้ออกมาตรการเร่งด่วนในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตอบสนองความหวาดวิตกของชาวโลก โดยเริ่มติดตั้งเครื่องสแกนเนอร์ที่ท่าอากาศยานนครโฮจิมินห์เป็นแห่งแรกเนื่องจากเป็นประตูใหญ่ที่สุดในการเดินทางเข้าเวียดนาม

เจ้าหน้าที่ของทางการ กล่าวว่า การตรวจอุณหภูมิในช่วงสามวันที่ผ่านมา ได้เพ่งเล็งอย่างเป็นพิเศษไปยังผู้โดยสารที่เดินทางผ่านหรือออกจากเขตที่มีการแพร่ระบาดในปัจจุบันซึ่งได้แก่เม็กซิโก สหรัฐฯ และแคนาดา โดยตรวจทุกคนอย่างเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นชาวเวียดนามหรือชนชาติใด

กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามยังได้ออกเตือนประชาชนทั่วไปรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล รวมทั้งควรจะคาดหน้ากาก ล้างมือวันละหลายๆ ครั้งด้วยสบู่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น