ฮานอย (รอยเตอร์, เอเอฟพี) -- หน่วยงานด้านสาธารณสุขเวียดนาม ได้ประกาศมาตรการเร่งด่วนหาทางสกัดการแพร่ลามของเชื้อไวรัส H1N1 อันเป็นสาเหตุของโรคไข้หวัดหมู ที่ทำให้มีผู้เสียชิวิตแล้วอย่างน้อย 103 คน ในประเทศเม็กซิโก และอีกนับสิบๆ คนติดเชื้อในสหรัฐฯ
นายจี่งกว่างฮวน (Trinh Quang Huan) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า นักเดินทางที่จะเข้าเวียดนามจะต้องประกาศสถานะทางด้านสุขภาพของตนเอง และหน่วยงานต่อต้านโรคระบาดของประเทศจะต้องตื่นตัวในระดับสูงตลอดเวลาเพื่อสกัดกั้นโรคระบาดใหม่นี้
รัฐมนตรีเวียดนามได้สั่งการให้หน่วยงานควบคุมและกักกันตามด่านชายแดนต่างๆ รวมทั้งสถาบันอนามัยและระบาดวิทยาแห่งชาติ รวมทั้งสถาบันปาสเตอร์ ต้องทำการกักกันกรณีที่ต้องสงสัย โรงพยาบาลของต่างชาติในเวียดนามจะต้อรายงานผู้ป่วยทุกกรณีที่มีอาการคล้ายไข้หวัดหมู
การตรวจผู้โดยสารบางเที่ยวบินจากอเมริกาเหนือยังคงดำเนินติดต่อกันเป็นวันที่สองในวันจันทร์ (27 เม.ย.) นี้ วันเดียวกับที่องค์การอนามัยโลกหรือ WHO (World Health Organization) ได้ออกประกาศว่า เวียดนามซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนกมากที่สุดในช่วงหลายปีมานี้ ได้มีมาตรการอันทันควันในการรับมือไข้หวัดหมู
สำนักงานป้องกันโรคระบาด กระทรวงสาธารณสุขได้ประชุมร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาในกรุงฮานอย เมื่อวันอาทิตย์ (26 เม.ย.) หารือมาตรการป้องกัน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกได้กล่าวเตือนในวงประชุม ว่า เชื้อไวรัส H1N1 ในเม็กซิโกนั้น มีอันตรายอย่างยิ่งและมีท่าทีว่าจะแพร่ระบาดจากมนุษย์สู่มนุษย์ได้
นายเหวียนฮวีงา (Nguyen Huy Nga) เลขาธิการสำนักงานป้องกันสุขภาพ กล่าวว่า ไวรัสที่พบใหม่นี้เป็นการผสมผสานระหว่างไวรัสที่พบในยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย รวมทั้งไวรัสไข้หวัดนก กับไวรัสที่เป็นสาเหตุไข้หวัดใหญ่ในคนด้วย และ ยังมีท่าทีว่าจะแพร่จากคนสู่คนได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ขณะที่ยังไม่มีวัคซีนใดๆ ช่วยป้องกัน
ในปี ค.ศ.1918 ได้เกิดแพร่ระบาดครั้งใหญ่ ของเชื้อไวรัสไข้หวัดหมูสายพันธุ์ H1N1 นี้ ซึ่งครั้งนั้นรู้จักกันในชื่อ “ไข้หวัดสเปน” ทำให้มีผู้คนล้มตายหลายล้านคนทั่วโลก ปัจจุบันเวียดนามสามารถตรวจพิสูจน์ไวรัสไข้หวัดหมูสายพันธุ์เก่าได้ แต่ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ต้องส่งไปตรวจในต่างประเทศ นายงา กล่าว
หน่วยงานสาธารณสุขได้เข้าประจำการที่ท่าอากาศยานเติ่นเซินเญิต (Tan Son Nhat) นครโฮจิมินห์ ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา เริ่มวัดอุณหภูมิของผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศกับเที่ยวบินบางเที่ยว เพื่อเป็นการป้องกันเผื่อจะมีผู้ป่วยไข้หวัดหมูปะปนเข้ามาด้วย
หน่วยงานสาธารณสุขของนครใหญ่ทางภาคใต้นี้ ได้ประชุมหารือมาตรการต่างๆ เพื่อหยุดยั้งเชื้อไวรัสร้าย มีผู้เชี่ยวชาญหลายจากศูนย์กักกันด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ กับหน่วยงานป้องกันโรคระบาดและผู้แทนจากโรงพยาบาลแห่งต่างๆ เข้าร่วม
“การแพร่ระบาดมากับผู้เดินทางมีความเป็นไปได้ เนื่องจากจากท่าอากาศยานนครโฮจิมินห์เป็นปลายทางของนักเดินทางจากประเทศต่างๆ จำนวนมากในแต่ละวัน” นายเหวียนวันโจว (Nguyen Van Chau) หัวหน้าแผนกสาธารณสุขนครโฮจิมินห์ กล่าว
“ทางการนครจะต้องมีมาตรการป้องกันอย่างเร่งด่วน เพื่อรับมือเชื้อโรคที่สุดอันตรายนี้” นายโจว กล่าว พร้อมทั้งเปิดเผยว่าได้สั่งการให้หน่วยงานสาธารณสุขกับโรงพยาบาลต่างๆ จัดเตรียมแผน เพื่อจัดการกับโรคนี้หากพบผู้ต้องสงสัย และให้โรงพยาบาลแห่งต่างๆ ต้องรายงานผู้ป่วยกรณีที่ต้องสงสัยในทันทีที่พบ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรายงานประจำทุกวันเกี่ยวกับผลการปฏิบัติการตรวจตามท่าอากาศยานและท่าเรือแห่งต่างๆ หน่วยงานที่มีอุปกรณ์เครื่องมือและเครื่องตรวจทันสมัยต้องเตรียมความพร้อม เพื่อให้ดำเนินการได้ทันทีในกรณีฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขในเวียดนามจำนวนไม่น้อยกำลังมีภาระรับมือกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกในบางจังหวัดทางภาคกลางบตอนบนและภาคเหนือของประเทศ สัปดาห์ที่แล้วมีผู้เสียชีวิตอีก 1 คนจากไวรัส H5N1 เป็นรายที่ 56 ตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา
นอกจากมาตรการด้านการแพทย์และการสาธารณสุขแล้ว ทางการเวียดนามยังได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเผยแพร่ข่าวสารและข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาดร้ายแรงชนิดใหม่นี้ออกไปสู่ประชาชนทั่วประเทศอย่างกว้างขวาง และกำชับให้ทุกคน
นายแพทย์ฟานวันเงวียม (Phan Van Nghiem) ผู้อำนวยการสำนักสาธารณสุขนครโฮจิมินห์กล่าวว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลหลายแห่งได้เตรียกมารพร้อมอยู่แล้ว เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดนก ปัจจุบันต้องเตรียมรับมือกับไข้หวัดหมูอีกทางหนึ่ง
นายเลเจืองซยาง (Le Truong Giang) รองผู้อำนวยการสำนักสาธารณสุข กล่าวว่า การตรวจผู้โดยสารจะเน้นไปเที่ยวบินที่รับผู้โดยสารจากสหรัฐฯ แคนาดา กับ เม็กซิโก เป็นหลัก ขณะที่สำนักงานได้สั่งการให้โรงพยาบาลและหน่วยงานต่างๆ ต้องจัดตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อดำเนินการเรื่องนี้โดยเฉพาะ
องค์การอนามัยโลกได้ออกคำแถลงฉบับหนึ่ง เรียกร้องไปยังรัฐบาลประเทศต่างๆ ให้เพิ่มการตรวจตราหาผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ หรือหลอดลมอักเสบรุนแรง ซึ่ง “กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามได้สนองต่อเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว” แม้จะยังไม่พบผู้ป่วยไข้หวัดหมูในประเทศนี้ ทั้งนี้ เป็นรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี
นายซยาง กล่าวว่า ทางการได้ติดตามเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดทั้งผู้โดยสารชาวเวียดนามเอง และผู้โดยสารชาติอื่นๆ ที่เดินทางเข้าประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เดินทางผ่านดินแดนที่กำลังมีการแพร่ระบาด
เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวในวันจันทร์ ว่า ทางการยังจะตรวจตราต่อไปและจะดำเนินการทุกอย่างอย่างรวดเร็ว และในทุกสถานการณ์ โดยใช้ประสบการณ์จากการรับมือกับไข้หวัดนกในหลายปีมานี้
ไวรัส H5N1 ได้กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งตั้งแต่ช่วงต้นปี ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอีกอย่างน้อย 3 คน และพบผู้ป่วยกับผู้ต้องสงสัยอีกนับสิบราย
