ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- พม่าพ้นวิกฤตหลังจากไซโคลนบิจลี (Bijli) จากทะเลเบงกอลพัดกระหน่ำตอนใต้บังกลาเทศ และอ่อนกำลังลงก่อนจะเลยเข้าสู่ทางตอนเหนือรัฐยะไข่ (Rakhine) สำนักพยากรณ์อากาศของรัฐบาลลงความเห็นเรื่องนี้ เช้าวันเสาร์ (19 เม.ย.) ที่ผ่านมา
พายุบิจลีพัดกระหน่ำเขตเมืองค็อกซ์บาซา (Cox Bazaar) ของบังกลาเทศในคืนวันศุกร์ด้วยความเร็วศูนย์กลาง 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และบ่ายหน้าต่อไป เข้าสู่ภาคเหนือของพม่าในเช้าวันเสาร์นี้ ซึ่งสำนักอุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลาง กล่าวว่า พายุอ่อนกำลังลงจาก “ระดับส้ม” เหลือเพียง “ระดับเหลือง”
ตามรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อพายุบิจลีพัดถึงเขตชายฝั่ง ความเร็วศูนย์กลางได้ลดระดับลงเหลือประมาณ 90 กม./ชม.แต่ก็ได้สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนราษฎรหลายสิบหลังคา ทำให้ต้นไม้หักโค่นลงจำนวนมาก และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน ในเขตเมืองค็อกบาซาร์
ท่าเรือจิตตะก็อง (Chittagong) ซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่ที่สุดของบังกลาเทศได้เปิดใช้การอีกครั้งหนึ่งในวันเสาร์นี้ เอเอฟพีกล่าว
สำนักอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า พายุบิจลีลดระดับความเร็วลงเหลือ 64-80 กม./ชม.และบางครั้งพุ่งแรงขึ้นเป็นประมาณ 96 กม./ชม.ทำให้เกิดคลื่นสูงระหว่าง 1.8-2.4 เมตร ในเขตชายฝั่งรัฐยะไข่ (Rakhine) และได้แจ้งเตือน
ให้เรือทุกลำในอาณาบริเวณดังกล่าวพึงระวัง และห้ามเรือเล็กออกจากฝั่ง ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวซินหัว
วันที่ 1-2 พ.ค.2551 ไซโคลนนาร์กีส จากตอนใต้ทะเลเบงกอลได้พัดกระหน่ำเขตที่ราบปากแม่น้ำอิรวดีทางตะวันตกเฉ๊ยงใต้ของพม่า มีผู้เสียชีวิตและสูญหายกว่า 200,000 คน การเยียวยารักษา และบรรเทาความเสียหายยังดำเนินมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน