xs
xsm
sm
md
lg

"เต็งเส่ง" โอ่ดุลการค้าพม่าทะลุ $2,500 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#660099>รวยกันใหญ่-- รัฐบาลทหารเพิ่งเปิดใช้ทางด่วนสายใหม่ระยะทางกว่า 300 กิโลเมตรซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางด่วนย่างกุ้ง-เนย์ปีดอ สำหรับรถยนต์โดยเฉพาะ ถนน 6 ช่องทางจราจรใหญ่โตมาก เฉพาะเกาะกลางถนนกว้างถึง 30 เมตร รับน้ำหนักบรรทุกได้ 80 ตัน แต่ไม่อนุญาตให้รถบรรทุกใช้ ผู้นำพม่าเปิดเผยเมื่อวันพุธ (1 เม.ย.) ว่าปีงบประมาณที่ผ่านไปนี้ดุลการค้าของประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 2,500 ล้านดอลลาร์</FONT></CENTER>

ASTVผู้จัดการรายวัน, เอเอฟพี-- พล.อ.เต็งเส่ง (Thein Sein) นายกรัฐมนตรีพม่ากล่าวเมื่อวันพุธ (1 เม.ย.) ว่า ปีงบประมาณ 2551-2552 ที่เพิ่งจะผ่านไปนี้ ลการค้าของประเทศเพิ่มขึ้นเป็นถึง 2,500 ล้านดอลลาร์ ขณะที่มูลค่าการต่างกับต่างประเทศก็เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 10,000 ล้าน ในท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจโลกและท่ามกลางการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากโลกตะวันตก

พล.อ.เต็งเส่งเปิดเผยตัวเลขเหล่านี้ที่เมืองเนย์ปีดอ ศูนย์กลางการบริหารประเทศที่อยู่ห่างจากกรุงย่างกุ้งขึ้นไปกว่า 300 กิโลเมตร ผู้นำพม่ากล่าวว่าความสำเร็จเหล่านี้ยังมีขึ้นในปีที่ไซโคลนลูกหนึ่งพัดเข้าทำลายล้างเขตที่ราบปากแม่น้ำอิรวดี สร้างความเสียหายย่อยยับแก่นาข้าวและเสบียงอาหารได้รับความเสียหาย

"เราได้เห็นดุลการค้าปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 2,500 ล้านดอลลาร์ จากการค้ากับต่างประเทศที่มีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าเมื่อปีที่แล้ว" ผู้นำพม่ากล่าว

"แม้เราจะต้องพบอุปสรรคกับความยุ่งยากมากมาย แต่เราก็ได้เห็นการค้าขยายตัว 4%" จากที่มีมูลค่า 9,800 ล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2550-2551

ปีงบประมาณของพม่าจะเริ่มจากวันที่ 1 เม.ย.ของทุกปี และไปสิ้นสุดลงวันที่ 31 มี.ค.ของปีถัดไป

มูลค่าส่งออกในปีงบประมาณที่สิ้นสุดลงนี้เพิ่มขึ้นกว่า 6,000 ล้านดอลลาร์ จากปีงบประมาณก่อน ส่วนมูลค่าน้ำเข้าเพิ่มขึ้นเพียง 465 ล้านดอลลาร์ พล.อ.เต็งเส่งเปิดเผยเรื่องนี้โดยไม่ได้ให้ตัวเลขอื่นใดอีก

ผลการพัฒนาเศรษฐกิจปีที่ผ่านมาได้ทำให้รายได้ต่อหัวประชากรต่อปีของชาวพม่าเพิ่มขึ้นเป็น 498,000 จั๊ต หรือ 489 ดอลลาร์จาก เพียง 405,817 จั๊ต หรือประมาณ 405 ดอลลาร์ในปีงบประมาณก่อน

อย่างไรก็ตามพม่าซึ่งปกครองโดยระบอบทหารมานานเกือบครึ่งศตวรรษ ก็ยังคงเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดประเทศหนึ่งในกลุ่มอาเซียน 10 ประเทศ ยังคงล้าหลังประเทศเพื่อนบ้านรอบๆ คือ ไทย จีนและอินเดีย

ไซโคลนนาร์กิส ที่พัดถล่มเขตที่ราบปากแม่นำอิรวดี เขตย่างกุ้งกับเขตพะโค (Bago) ต้นเดือนพ.ค.ปีที่แล้วทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 138,000 คน
<CENTER><FONT color=#660099> ภาพแฟ้มรอยเตอร์ถ่ายวันที่ 30 ต.ค.2551 เกือบ 6 เดือนหลังพายุนาร์กิสพัดถล่ม ร่องรอยความเสียหายยังปรากฏให้เห็นทั่วเมืองละบุตตา (Labutta) เมืองเล็กๆ ในเขตที่ราบปากแม่น้ำอิรวดี ผู้คนที่นี่ยังต้องพึ่งพาองค์การระหว่างประเทศจนถึงวันนี้ แต่ผู้นำพม่าบอกว่าปีที่ผ่านมาการส่งออกพุ่งโลด ดุลการค้าพุ่งเป็น 2,500 ล้านดอลลาร์๊ </FONT></CENTER>
สินค้าออกของพม่าส่วนใหญ่ยังเป็นวัตถุดิบ สินค้าการเกษตรและสินค้าปฐมภูมิต่างๆ รายได้หลักยังคงเป็นเงินที่ได้จากการจำหน่ายก๊าซธรรมชาติให้แก่ไทย ขณะที่การส่งออกผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าสำเร็จรูปที่มีจำกัดนั้นกำลังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก

พล.อ.เต็งเส่ง เปิดเผยเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ระหว่างปราศรัยในต่อที่ประชุมสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมพม่า ในคราวเดียวกันนี้ ผู้นำพม่าได้เรียกร้องให้บรรดานักธุรกิจของประเทศ มีความเป็นหนึ่งเดียวกันในการเลือกตั้งที่กำหนดจะมีขึ้นในปีหน้า และให้ความร่วมมือกับรัฐบาล

ฝ่ายทหารพม่าได้เข้ายึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลพลเรือนในปี 2505 หลังจากได้รับเอกราชจากอังกฤษ การนำผ่านจากมือของ พล.อ.เนวิน (Ne Win) ไปสู่ พล.อ.ซอหม่อง (Saw Maung) และ ถึง พล.อ.อาวุโสตานฉ่วย (Than Shwe) ในปัจจุบัน โดยใช้องค์การปกครองต่างๆ กัน

รัฐบาลทหารได้จัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นในปี 2533 แต่แล้วก็ไม่ยอมรับผลซึ่งสันนิบาติเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ (National League for Democracy) มีชัยอย่างท่วมท้น และ ได้สั่งกักบริเวณนางอองซานซูจี (Aung San Suu Kyi) ผู้นำของ NLD ให้อยู่แต่ในบ้านเป็นเวลาเกือบ 10 ปีจนถึงปัจจุบัน

รัฐบาลสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรทั้งทางการเมืองและการค้าติดต่อกันมาหลายปี หลังจากระบอบทหารปฏิเสธที่จะปฏิรูปไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย ทั้งกล่าวหาอีกว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างสูงในประเทศนี้

"เราต้องมีแผนการแห่งอนาคตเพื่อ...ให้ประเทศพ้นความวุ่นวายทางการเมืองกับความยุ่งยากต่างๆ ภายใต้วิกฤติการระดับโลก" นรม.พม่ากล่าว ซึ่งนายวินมี้นต์ (Win Myint) ประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมฯ ล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ฝ่ายธุรกิจจะปฏิบัติตามคำเรียกร้องของรัฐบาล

นายมี้นต์ยังกล่าวอีกว่า มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก ที่มีเป้าหมายจะเล่นงานรัฐบาลนั้นกลับส่งผลต่อนักธุรกิจกับคนงานทั่วไป และยังเปิดเผยด้วยว่าได้หยิบเรื่องนี้ขึ้นหารือกับนายอิบรอฮิม แกมบารี (Ibrahim Gambari) ทูตพิเศษของสหประชาชาติที่ไปเยือนพม่าในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา
<CENTER><FONT color=#660099> สตรีชาวย่างกุ้งกำลังหย่อนบัตรลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จัดขึ้นวันที่ 20 เม.ย.2551 ภาพแฟ้มรอยเตอร์ถ่ายเพียง 10 วันก่อนพายุใหญ่จะพัดเข้าถล่ม ฝ่ายทหารร่างรัฐธรรมนูญเอง เออออกันเอง พรรคฝ่ายค้านไม่เข้าร่วมขบวนการนี้ด้วย ตอนนี้รัฐบาลกำลังกล่อมภาคธุรกิจให้ร่วมมือในการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นปีหน้า </FONT></CENTER>
หลายปีมานี้การคว่ำบาตรจากโลกตะวันตกได้ทำให้พม่าต้องหันไปพึ่งพาจีนมากขึ้นทุกปีบนเวทีการเมืองระหว่างประเทศ โดยหลายปีมานี้จีนได้ใช้สิทธิยับยั้งข้อมติใดของสหประชาชาติที่ประณามรัฐบาลทหารพม่ามาโดยตลอด ปัจจุบันจีนเข้าไปมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจพม่า ทั้งในทางลึกและทางกว้าง

ปีที่แล้วทางการพม่ายอมเซ็นสัญญาจำหน่ายก๊าซที่พบในแหล่งชายฝั่งอ่าวเบงกอลให้แก่จีนทั้งหมด ทั้งๆ ที่ก๊าซในแหล่งนั้นค้นพบโดยการสำรวจของกลุ่มบริษัทจากเกาหลีใต้กับอินเดียที่นำโดยแดวูอินเตอร์เนชั่นแนล

แต่ประเทศเพื่อนบ้านของพม่าต่างได้รับประโยชน์จากมาตรการคว่ำบาตรเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมพลังงาน ซึ่งบริษัทน้ำมันจากประเทศแถบนี้เกือบจะไร้คู่แข่งสำคัญคือบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลกตะวันตกที่ใหญ่โตและมีความพร้อมมากกว่าในเรื่องทุน

ปัจจุบันเชฟรอนคอร์ป (Chevron Corp) เป็นบริษัทน้ำมันใหญ่จากสหรัฐฯ เพียงแห่งเดียวที่มีผลประโยชน์อยู่ในแหล่งก๊าซธรรมชาติในทะเลอันดามันของพม่า

บริษัทนี้ต้องทนแรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เรียกร้องให้ถอนตัวออกไปแต่เชฟรอนกล่าวว่าไม่มีประโยชน์อะไรเพราะถอนออกไปก็จะมีบริษัทน้ำมันจากโลกตะวันตกแห่งใหม่เข้าแทนที่

นอกจากเชฟรอนแล้ว บริษัทโตตาล (โททั่ล) ออยล์ (TOTAL Oil) จากฝรั่งเศส และ บีพี (BP) จากอังกฤษ ก็มีผลประโยชน์ในบ่อก๊าซของพม่าเช่นเดียวกัน ขณะที่บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของจีนกำลังแทรกเข้าไปแบ่งปันผลประโยชน์ในประเทศนี้

กระทรวงพาณิชย์พม่าเปิดเผยในวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า 11 เดือนแรกของปีงบประมาณเดียวกันนี้ การค้าข้ามแดนกับประเทศเพื่อนบ้านมีมูลค่าถึง 1,200 ล้านดอลลาร์ โดยจีนเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุด มีมูลค่ารวมคิดเป็นประมาณ 70% ของทั้งหมดโดยจีนเป็นคู่ค้ามใหญ่ที่สุดบ้านมีมูลค่าถึง 1,200 ล้านดอลลาร์ ส่งออก 610 ล้าน แลฃะนำเข้า 620 ล้านดอลลาร์ .
กำลังโหลดความคิดเห็น