ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- พม่าเป็นเมืองพุทธ กว่าร้อยละ 90 ของชาวพม่านับถือพุทธศาสนานิกายหินยานแบบพม่าที่เคร่งครัด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าผู้นำของประเทศนี้จะไปทำบุญตามวัดวาอารามในเทศกาลต่างๆ และบรรดาผู้นำทหารก็ได้ปฏิบัติมาเช่นนั้นเป็นประจำ
นั่นเป็นอีกภาพลักษณ์หนึ่งที่สาธารณชนได้เห็น นอกจากภาพที่เคยชินสายตามากกว่า นั่นก็คือ ตอนที่ผู้นำทหารในเครื่องแบบสีเขียวปัดเต็มยศ มือถือคทาอาญาสิทธิ์ของจอมทัพ ยืนอยู่บนรถเก๋งเปิดประทุน วันทยาหัตตอบทหารกองเกียรติยศ ในขบวนสวนสนามวันแห่งกองทัพ
แต่ภาพที่ พล.อ.อาวุโสตานฉ่วย (Than Shwe) กับ รอง พล.อ.อาวุโlหม่องเอ (Maung Aye) พนมมือไหว้พระเคียงข้างกันในพิธีเดียวกันนั้น ไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อยนักและเหตุการณ์ล่าสุดนี้ก็ไม่ธรรมดา
วันเสาร์ (7 มี.ค.) ที่ผ่านมา พล.อ.ตานฉ่วย พร้อมภริยาคือ นางจายจ่าย (Kyaing Kyaing) กับ พล.อ.หม่องเอ ผู้นำหมายเลขสองซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารบก พร้อมภริยาได้นำคณะทำพิธีทางศาสนาที่วัดอุปปะตะศานติ (Uppatasanti) ที่จัดสร้างขึ้นพร้อมพระเจดีย์องค์ใหญ่ จำลองจากพระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon) ในกรุงย่างกุ้ง บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ “พระเขี้ยวแก้ว” อันเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับมอบจากรัฐบาลจีน
นี่คือ วัดแห่งแรกในเมืองใหม่เนย์ปีดอ (Naypyidaw) ศูนย์กลางบริหารของรัฐบาลทหาร
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์นิวไล้ท์ออฟเมียนมาร์ งานนี้ทางการได้นิมนต์พระสงฆ์จากเมืองต่างๆ เข้าร่วมทำพิธีทางศาสนาจำนวน 583 รูป พล.อ.ตูระฉ่วยมาน (Thura Shwe Mann) ซึ่งเป็นผู้บัญชาการกองทัพเรือกับกองทัพอากาศ พล.อ.เต็งเส่ง (Thein Sein) นายกรัฐมนตรี กับนายทหารระดับสูงจำนวนหลายสิบนายได้เข้าร่วมอย่างพร้อมหน้า
ในภาพที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อวันจันทร์ (9 มี.ค.) จะเห็นผู้นำหมายเลข 1-2-3 ร่วมกันไหว้พระ ภายในพระเจดีย์องค์ใหญ่ กับภาพบรรดาผู้นำที่รายล้อมด้วยกองกำลังติดอาวุธ
มีอีกภาพหนึ่งที่ “สตรีหมายเลข 1” กำลังโปรยธนบัตรใหม่เอี่ยมเพื่อทานอุทิศ
การก่อสร้างวัดและมหาเจดีย์แล้วเสร็จมานานแล้ว แต่ยังไม่เปิดใช้การจนกว่า จะมีการทำพิธียกช่อฟ้าขึ้นสู่ยอดพระอุโบสถและอัญเชิญปกฉัตรขึ้นสู่ยอดเจดีย์ จึงจะครบขั้นตอนเปิดใช้เป็นวัดพุทธของนิกายมหายานแบบพม่าที่สมบูรณ์
ทางการทหารได้เริ่มก่อสร้างศูนย์กลางบริหารประเทศแห่งใหม่ตั้งแต่ปี 2546 และเริ่มย้ายหน่วยราชการไปที่นั่น ในเดือน พ.ย.2548 โดยไม่มีการประกาศล่วงหน้า
ศูนย์กลางการบริหารแห่งใหม่อยู่ห่างขึ้นไปทางเหนือราว 390 กิโลเมตร กึ่งกลางระยะทางจากเมืองหลวงเก่าไปยังเมืองมัณฑะเลย์ (Mandalay) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ
จากเมืองร้างที่ผุดขึ้นกลางป่าเขา ปัจจุบันเนย์ปีดอกลายเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองสว่างไสว อาคารบ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างทันสมัย มีศูนย์ราชการโอ่อ่า มีสนามบินที่ปรับปรุงใหม่จนแล้วเสร็จสมบูรณ์ มีโรงพยาบาล สถาบันการศึกษา แต่เพิ่งจะมีวัดในพระพุทธศาสนาเป็นแห่งแรก
ทางการพม่าตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากประชาคมระหว่างประเทศหลังจากทหารและตำรวจได้ปราบปรามประชาชนที่เดินขบวนอย่างโหดร้ายทารุณอีกครั้งหนึ่ง ต่อหน้าชาวโลกนับล้านๆ ที่เฝ้าดูเหตุการณ์ผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ในเดือน ก.ย.2550
การเดินขบวนใหญ่ปี 2550 เริ่มขึ้นโดยมีพระภิกษุนำหน้า พระนับร้อยๆ รูปได้รับบาดเจ็บจากการปาบปรามอย่างรุนแรง อย่างน้อยที่สุดมีการเผยแพร่ภาพพระภิกษุรูปหนึ่งที่มรณะภาพ และศพถูกปล่อยให้เน่าจนขึ้นอืดในลำธารสายหนึ่งนอกกรุงย่างกุ้ง
ภาพนี้สร้างความเศร้าสะเทือนใจให้แก่ชาวพุทธโดยทั่วไป
ทางการพม่าถูกประณามอย่างหนักอีกครั้งหนึ่งหลังพายุจากทะเลเบงกอลลูกหนึ่งพัดถล่มเขตที่ราบปากแม่น้ำอิรวดี กรุงย่างกุ้ง ไปจนถึงเขตพะโค (Bago) ในเดือน พ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 100,000 คน แต่ทางการพม่าขัดขืนไม่ยอมให้ผู้ปฏิบัติงานกู้ภัยที่เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบเคราะห์
เวลาผ่านไปนานนับเดือน รัฐบาลทหารจึงอนุญาตให้เจ้าหน้าที่องค์การระหว่างประเทศเข้าไปช่วยเหลือกู้ภัยได้อย่างจำกัด ปล่อยให้ผู้คนนับแสนๆ เผชิญชะตาอยู่ตามลำพังในเขตภัยพิบัติ
ภาพพจน์เช่นนี้ย่อมกอบกู้คืนได้ยาก ในขณะที่ประเทศนี้ยังตกอยู่ใต้การคว่ำบาตทางเศรษฐกิจจากโลกตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯ
พร้อมๆ กับการเปิดวัดแห่งแรกในเมืองหลวงใหม่ ทางการพม่าได้ประกาศจะทำพิธีเปิดใช้มอเตอร์เวย์สายใหม่อย่างเป็นทางการในปลายเดือน มี.ค.นี้ อำนวยความสะดวกต่อการเดินทางระหว่างเนย์ปีดอกับกรุงย่างกุ้ง
ตามรายงานของสำนักข่าวซินหัว มอเตอร์เวย์ระยะทาง 232 กม.เป็นส่วนต่อขยายของเส้นทางรวม 563 กม. ทั้งระบบ ระหว่างสองเมืองสำคัญของประเทศ เป็นถนนคอนกรีต 8 ช่องทางวิ่ง ร่นเวลาเดินทางจากกรุงย่างกุ้งให้เหลือเพียง 4 ชั่วโมงจากที่เคยใช้เวลาถึง 8 ชั่วโมงไปตามเส้นทางเก่า
วิศวกรกล่าวว่า มอเตอร์สายนี้สามารถรับรถบรรทุกน้ำหนัก 80 ตันได้สบาย แต่ทางการจำกัดให้ใช้สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถโดยสารขององค์การหรือหน่วยงานต่างๆ เท่านั้น และห้ามรถบรรทุกทุกประเภท
ไม่มีการเปิดเผยมูลค่าก่อสร้างของมอเตอร์เวย์สายใหม่ แต่เจ้าหน้าที่ทางการ กล่าวว่า ต้องใช้บริษัทก่อสร้างถึง 12 บริษัท เข้าแบ่งงานโครงการนี้ เพื่อให้แล้วเสร็จเร็วขึ้น
กรุงย่างกุ้งยังคงเป็นศูนย์กลางธุรกิจของประเทศ นอกจากนั้นบรรดาสถานทูตประเทศต่างๆ สถานกงสุล ตลอดสำนักงานองค์การระหว่างประเทศ และธุรกิจเอกชนก็ยังคงอยู่ที่นั่น ไม่ได้ย้ายไปอยู่ที่เนย์ปีดอ
ทุกวันนี้การเดินทางไปยังเนย์ปีดอ สามารถทำได้ทั้งทางเครื่องบิน รถไฟและรถยนต์ ขณะที่ทางการกล่าวว่ากำลังจะสร้างสถานีรถไฟแห่งใหม่ในศูนย์กลางการบริหารใหม่ ซึ่งจะอยู่ถัดจากสถานีเพียงมนา (Pyinmana) ขึ้นไป และกำลังจะเป็นสถานีที่สองของเมืองหลวงใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การเดินทางและการขนส่ง
ปัจจุบันเนย์ปีดอมีโรงแรมหรู มีศูนย์การคาทันสมัย และธนาคาร มีย่านที่อยู่อาศัยแยกออกไปจากบริเวณศูนย์ราชการ รัฐบาลทหารมีเป้าหมายจะพัฒนาให้เป็นเมืองทันสมัยระดับโลก
ตามตัวเลขอย่างเป็นทางการเนย์ปีดอมีเนื้อที่ 7,054.3 ตารางกิโลเมตร ปัจจุบันมีประชากร 924,608 คน