ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- หลังจากเดินเครื่องหลายสัปดาห์และเริ่มกลั่นน้ำมันอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ.รัฐบาลเวียดนามได้ทำพิธีเปิดโรงกลั่นยวุ๋งกว๊าต (Dung Quat) อย่างเป็นทางการ ในวันอาทิตย์ (22 ก.พ.) ที่ผ่านมา ใน จ.กว๋างหงาย (Quang Nghai) สถานีโทรทัศน์เวียดนามได้ถ่ายทอดสดพิธีเปิดไปทั่วประเทศ และ แพร่ภาพออกอากาศซ้ำอีกครั้งหนึ่งในภาคค่ำ
ในวันเดียวกันกลุ่มบริษัทน้ำมันแห่งชาติ ปิโตรเวียดนาม (PetroVietnam) หรือ Vietnam Oil & Gas Group of Companies ได้เริ่มนำน้ำมันที่ผลิตในประเทศออกจำหน่ายเป็นครั้งแรก
แม้ว่าจะเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับที่ 2 ใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่เวียดนามต้องนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป 100% มาตลอดเป็นรายการสำคัญที่ทำให้ขาดดุลการค้ามหาศาลในแต่ละปี
ทางการเวียดนามใช้เวลานานกว่า 10 ปี พยายามที่จะมีโรงกลั่นน้ำมันเป็นของตัวเอง แต่ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติซึ่งเห็นว่าที่ตั้งโรงกลั่นแห่งแรกอยู่ห่างจากแหล่งผลิตน้ำมันและก๊าซน้ำมากเกินไป ขณะเดียวกันในปี 2540 ซึ่งเป็นช่วงที่จะเริ่มการก่อสร้างก็ได้เกิดวิกฤติการการเงินในเอเชีย และลามไปทั่วโลก ผู้ร่วมทุนได้ถอนตัวจากโครงการ
กว่าจะลงมือก่อสร้างได้ก็จนถึงปี 2548 รัฐบาลเวียดนามลงทุนเอง 100% มูลค่า 2,500 ล้านดอลลาร์ ด้วยกำลังกลั่น 6.5 ล้านตันต่อปี โดยมีกลุ่มบริษัท Technip Group จากฝรั่งเศส และสเปน ติดตั้งเครื่องจักรและเทคโนโลยีให้
รัฐบาลเวียดนามโดยอดีตนายกรัฐมนตรีฟานวันข่าย (Phan Van Khai) ได้เจาะจงเลือก จ.กว๋างหงาย เป็นที่ตั้งโรงกลั่นแห่งแรก ตามนโยบายนำความเจริญไปสู่ภาคกลางซึ่งเป็นเขตที่ยังพัฒนาน้อยที่สุด ให้โรงกลั่นนำการลงทุนเข้าไปที่นั่น
ทุกอย่างเริ่มเป็นจริง ปัจจุบันยวุ๋งกว๊าต กลายเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษและการผลิตอุตสาหกรรม ที่มีการจ้างแรงงานในท้องถิ่นหลายหมื่นตำแหน่ง มีท่าเรือพาณิชย์ขนาดใหญ่ กับเมืองใหม่ที่ทันสมัย สว่างไสว สื่อของทางการกล่าว
เมื่อเดินเครื่องเต็มกำลังทั้ง 14 หน่วยผลิตในเดือน ส.ค.ปีนี้ โรงกลั่นน้ำมันเพียงแห่งเดียวจะจ้างงานไม่น้อยกว่า 12,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวทางการ
โรงกลั่นน้ำมันแห่งแรกถูกออกแบบมาให้ผลิตน้ำมันเบนซินป้อนตลาดเดือนละ 150,000 ตัน ดีเซล 240,000 ตัน ก๊าซ LPG อีก 23,000 และน้ำมันเครื่องบินอีก 30,000 ตัน น้ำมันชนิดอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะสามารถสนองความต้องการของตลาดได้ราว 30%
โรงกลั่นยวุ๋งกว๊าตยังผลิตสารโพรเพลีนได้อีกราว 8,000 ตัน อันเป็นผลพลอย ซึ่งจะนำไปใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์ไซ่ง่อนหยายฟง (Saigon Giai Phong) หรือ "ไซ่ง่อนปลดปล่อย"
เดือน ก.ค.2551 เวียดนามได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันหงิเซิน (Nghi Son) ที่ จ.แท๊งหว่า (Thanh Hoa) ในภาคกลางตอนบน ซึ่งเป็นโรงกลั่นแห่งที่สองมูลค่า 6,000 ล้านดอลลาร์ กำลังกลั่น 10 ล้านตันต่อปี จากการลงทุนของบริษัทคูเวตปิโตรเลียมกับอิเดะมิตสึ-โกซานจากญี่ปุ่น ร่วมกับปิโตรเวียดนาม พร้อมโรงงานผลิตปิโตรเคมี เฟสที่หนึ่งของโรงกลั่นมีกำหนดเปิดใช้ในปี 2556
ขณะเดียวกัน ปีที่แล้ว รัฐบาลได้อนุมัติโครงการลงทุนก่อสร้างโรงกลั่นแห่งที่สามที่ อ.ลองเซิน (Long Son) ใน จ.บ่าเหรียะ-หวุงเต่า (Ba Ria-Vung Tao) ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมน้ำมันดิบ และก๊าซชายฝั่งทะเลภาคใต้ ขนาดใหญ่เท่าๆ กับโรงกลั่นหงิเซิน มีกำหนดเปิดใช้ในปี 2558 ด้วยกำลังกลั่น 10 ล้านตันต่อปีเช่นเดียวกัน