xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามกลุ้มขาดคนทำงานโรงกลั่นน้ำมัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#FF0000> การก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันแห่งแรกของเวียดนามที่ยวุ๋งกว๊าต (Dung Quat) จ.กว๋างหงาย (Quang Nghai)  ภาพจากแฟ้มเดือน มี.ค.2551 ปัจจุบันคืบหน้าไปกว่า 90% เตรียมจะเปิดดำเนินการเดือน ก.พ.2552 นี้ แต่ยังขาดคนงานอีกนับหมื่น คนงานโรงกลั่นจะต้องได้รับการฝึกฝนอย่างดี (AFP) </FONT></CENTER>

ผู้จัดการรายวัน-- เวียดนามกำลังก้าวไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมแต่กำลังขาดแคลนแรงงานฝีมือและกลุ่มนักวิชาชีพเฉพาะอย่างหนักขณะที่โรงกลั่นน้ำมันแห่งแรก จะเดินเครื่องต้นปีหน้านี้

โรงกลั่นน้ำมันที่ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษยวุ๋งกว๊าต (Dung Quat) จ.กว๋างหงาย (Quang Nghai) มีกำหนดเปิดดินเครื่องในเดือน ก.พ.ปีหน้า แต่ปัญหาที่ทุกฝ่ายเป็นกังวนอย่างหนักในขณะนี้ก็คือ กำลังลังคนที่จะเข้าควบคุมโรงกลั่นที่มีกำลังกลั่นปีละ 5 ล้านตัน

เวียดนามจะต้องมีคนงานที่ผ่านการฝึกอบอรมอย่างดีมากกว่าหนึ่งหมื่นคนเพื่อทำงานในโรงกลั่นยวุ๋งกว๊าต ขณะที่เขตเศรษฐกิจพิเศษในภาคกลางก็กำลังมองหาคนงานอีกหลายหมื่น

ไม่เพียงแต่ขาดแคลนแรงงานฝีมือเท่านั้น โรงกลั่นแห่งแรกของเวียดนามยังต้องการช่างเทคนิคกับวิศวกรแขนงเฉพาะนี้ และยังได้พบว่าคนงานที่ผ่านการฝึกอบรมจากสถาบันที่จัดตั้งขึ้นเอง จำนวนมากยังไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน

เวียดนามได้ตั้งวิทยาลัยการอาชีพยวุ๋งกว๊าตขึ้นและเริ่มการฝึกอบรมคนงานในปี 2549 โดยตั้งเป้าผลิตคนให้ได้ปีละ 3,000 คน แต่ความต้องการแรงงานมีฝีมือในเขตเศรษฐกิจพิเศษก็สูงขึ้นเป็นเงา
<CENTER><FONT color=#FF0000> ภาพจากเว็บไซต์ จ.กว๋างหงาย วิทยาลัยการอาชีพของจังหวัดนี้กำลังเร่งผลิตคนให้กับโรงกลั่นน้ำมัน แต่ก็ยังมีโรงงานอื่นๆ อีกหลายสิบแห่งในเขตเศรษฐกิจที่นั่น ทั้งหมดต้องการคนงานที่มีฝีมืออีกหลายหมื่น </FONT></CENTER>
เมื่อโรงกลั่นน้ำมันยวุ๋งกว๊าตเปิดดำเนินการจะต้องมีพนักงานที่มีฝีมือประจำการทันที 13,000 คน และจะต้องการเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 25,000 คนในปี 2553

การฝึกแรงงานฝีมือเป็นการลงทุนที่สูงในปี 2549 ทางการ จ.กว๋างหงาย ทุ่มเงิน 12.8 ล้านดอลลาร์ให้แก่วิทยาลัยการอาชีพดังกล่าว โดยคาดหวังว่าภายในสี่ปีจะผลิตคนที่มีคุณภาพออกมาได้ 12,000 คน แต่นักศึกษาที่ผ่านการเรียนการฝึกออกมาแล้วก็ยังมีปัญหา

นักศึกษาที่เรียนสำเร็จจากวิทยาลัยการอาชีพยวุ๋งกว๊าตจำนวนมาก ยังจะต้องเข้ารับการฝึกซ้ำอีกเมื่อเข้าทำงานในโรงกลั่น ผู้เชี่ยวชาญเปิดเผยเรื่องนี้กับหนังสือพิมพ์แท็งเนียน

ไม่เฉพาะแรงงานฝีมือเท่านั้นที่เป็นปัญหา ในเขตเศรษฐกิจพิเศษยวุ๋งกว๊าตโดยทั่วไปกำลังขาดแคลนช่างเทคนิคกับวิศวกรอีกหลายแขนง พนักงานระดับซูเปอร์ไวเซอร์ รวมทั้งล่ามแปลภาษาเวียดนามกับภาษาจีนกำลังเป็นที่ต้องการอย่างสูง

บริษัทลงทุนต่างชาติ ได้แสดงความวิตกเรื่องนี้ในการประชุมสัมมนานัดหนึ่งที่จัดขึ้นในเมืองกว๋างหงาย วันที่ 20 ต.ค.ผ่านมา
<CENTER><FONT color=#FF0000> นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) นำเจ้าหน้าที่ระดับสูงร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันแห่งที่สอง ที่ ต.หงิเซิน (Nghi Son) จ.แท๊งหว่า (Thanh Hoa) เมื่อวันที่ 10 พ.ค.2551 บริษัทคูเวตปิโตรเลียมอินเตอร์เนชั่นแนลกับกลุ่มอิเดะมิตสึ (Idemitsu) และ มิตซูบิชิออยล์จากญี่ปุ่นทุ่มกว่า 6,000 ล้านดอลลาร์ทำโรงกลั่นใหญ่กับโรงงานปิโตรเคมีขึ้นที่นี่นั่น (ภาพ: AFP)  </FONT></CENTER>
สื่อของทางการเวียดนามได้เคยสะท้อนปัญหาการศึกษาทั้งระบบของประเทศ ที่ไม่สามารถฝึกคนรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติได้ บริษัทลงทุนยักษ์ใหญ่ซึ่งรวมทั้งอินเทลคอร์ป (Intel Corp) ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลกก็กำลังพบกับปัญหานี้ในเวียดนามอย่างไม่คาดฝัน

ในการสอบคัดเลือกพนักงานของอินเทลเมื่อปีที่แล้ว มีนักศึกษาที่เรียนสำเร็จใหม่ๆ ถูกคัดตัวเข้าร่วมสอบแข่งขันหลายร้อยคน แต่มีเพียง 40 รายผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ในขณะที่โรงงานของอินเทลจะต้องใช้พนักงานฝีมือชั้นเยี่ยมราว 2,000 คน เมื่อเริ่มการผลิตปลายปีน้า

และตำแหน่งงานที่หายากและยังหาไม่ได้เลยในเวียดนามก็คือ วิศวกรเรียนสำเร็จสาขาอุตสาหกรรมปิโตรเลียมรวมทั้งผู้ ที่มีประสบการณ์ในโณงกลั่นมาก่อน

เวียดนามกำลังจะมีโรงกลั่นน้ำมันรวมกัน 4-5 แห่งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ โรงกลั่นแห่งที่สองได้เริ่มการก่อสร้างแล้ว และมีขนาดใหญ่กว่าโรงกลั่นยุว๋งกว๊าตเกือบสองเท่าตัว.
กำลังโหลดความคิดเห็น