ธ.โลกนำทีมหนุนเอ็นจีโอห่วงคอร์รัปชันในเขมร

ASTVผู้จัดการรายวัน -- เจ้าหน้าที่ธนาคารโลก กับตัวแทนกลุ่มผู้บริจาคได้ออกสำทับในสัปดาห์นี้ ยืนยันให้ความห่วงใยต่อการฉ้อราษฎร์บังหลวงในหมู่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกัมพูชา หลังจากองค์การโกลบอลวิทเนส (Global Witness) ออกรายงานเปิดโปงการฮุบเงินรายได้จากทรัพยากรแร่และน้ำมันในประเทศนี้

รายงานหน้า 70 หน้าของ Global Witness ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ออกเผยแพร่ในสัปดาห์ต้นเดือนนี้ ได้ระบุว่า เงินที่ได้จากนักลงทุนต่างชาติที่เข้าไปแสวงหาโอกาสจากทรัพยากรแร่กับน้ำมันที่เชื่อว่าเป็นจำนวนมหาศาล ได้ถูกนำเข้ากระเป๋าของ “กลุ่มผู้นำทางการเมืองในระดับสูง” ของกัมพูชา โดยประเทศและประชาชนไม่ได้รับประโยชน์อะไร

โกลบอลวิทเนส ได้ระบุชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ “การคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบ” นับสิบรายทั้งพลเรือนและทหาร ซึ่งรวมทั้ง พล.อ.พลสะเรือน (Pol Sareoun) ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นผู้บัญชาการกองทัพ พล.อ.ฮิงบุนเฮียง Hing Bun Heang) ผู้บัญชาการกองกำลังคุ้มกันนายกรัฐมนตรี และ นายลียงฟัต (Ly Yong Phat) นักธุรกิจผู้ร่ำรวย วุฒิสมาชิกที่ใกล้ชิดผู้นำกัมพูชา

บุคคลเหล่านี้ล้วนแต่เป็นผู้อยู่รอบข้างสมเด็จฯ ฮุนเซน

โกลบอลวิทเนส ได้เรียกร้องไปยังกลุ่มผู้บริจาคช่วยเหลือกัมพูชา ซึ่งรวมทั้งธนาคารโลกและธนาคารพัฒนาเอเชีย สหรัฐฯ จีน เกาหลี และญี่ปุ่น ให้ต้องมีมาตรการตรวจสอบความโปร่งใสและให้เกิดธรรมาภิบาลในการใช้จ่ายเงินช่วยเหลือในโครงการพัฒนาต่างๆ ซึ่งในปีนี้กัมพูชาได้รับคำมั่นเป็นเงินเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์ มากกว่าทุกปีที่ผ่านมา

รายงานได้ระบุว่า กลุ่มผู้บริจาคทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไม่รู้ไม่เห็นการคอร์รัปชันระดับสูงในประเทศนี้

“ธนาคาร (โลก) กำลังทำงานร่วมกับรัฐบาล (กัมพูชา) เพื่อดำเนินโครงการที่ถูกหยิกยกขึ้นพูดถึงในราย (ของโกลบอลวิทเนส) ได้เรียกร้องให้เกิดธรรมาภิบาล สนับสนุนการบริหารจัดการเงินงบประมาณอย่างถูกต้องเหมาะสม และจัดสรรที่ดินเพื่อการผลิตอย่างยั่งยืนและจุดประสงค์ในการอนุรักษ์” ธนาคารโลก ระบุดังกล่าวในคำแถลงฉบับหนึ่งที่ออกในสัปดาห์นี้

คำแถลงยังกล่าวอีกว่า แม้ธนาคารโลกจะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงในอุตสาหกรรมขุดค้นต่างๆ ในกัมพูชา แต่ได้มีการสนทนากับรัฐบาล ซึ่งรวมทั้งการพูดคุยเกี่ยวกับการปฏิรูปนโยบายที่จะประกันว่า รายได้ต่างๆ ที่ได้รับจากอุตสาหกรรมเหล่านั้นจะนำไปใช้เพื่อประโยชน์แก่ประชาชน

ในปี 2550 โกลบอลวิทเนส ออกรายงานชิ้นหนึ่งเปิดโปงการตัดไม้ทำลายป่า และกลุ่มอิทธิพลที่ได้รับประโยชน์จากการค้าไม้ซุงอย่างผิดกฎหมาย และได้ระบุในรายงานชิ้นใหม่นี้ว่ากลุ่มคนเหล่านั้น ยังคงอยู่เบื้องหลังการได้รับประโยชน์จากโครงการพัฒนาทรัพยากรแร่กับน้ำมันของประเทศ

โฆษกสถานทูตสหรัฐฯ นายจอห์น จอห์นสัน (John Johnson) บอกกับสถานีวิทยุเสียงอเมริกา ว่า ยังไม่ได้อ่านรายงานชิ้นล่าสุดของ Global Witness แต่ก็กล่าวว่า สหรัฐฯ กำลังพยายามผลักดันรัฐบาลกัมพูชาในระดับต่างๆ ในประเด็นเกี่ยวกับธรรมาภิบาล ความโปร่งใสและการคอร์รัปชัน

นายจอห์นสัน กล่าวว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ คนใหม่ คือ นางแครอล ร็อดลีย์ Carol Rodley) จริงเอาจังกับเรื่องคอร์รัปชันมาก

ขณะเดียวกัน นายอรชุน โกสวามี (Arjun Goswami) ผู้อำนวยการประจำกัมพูชาของเอดีบีกล่าวว่า องค์การและประเทศผู้บริจาคต่างๆ ได้ให้น้ำหนักสำคัญต่อธรรมาภิบาลและการต่อต้านคอร์รัปชัน

ปี 2550 รัฐบาลสมเด็จฯ ฮุนเซน ต้องส่งคืนเงินหลายล้านดอลลาร์ให้แก่ธนาคารโลก หลังจากถูกพบว่า มีการใช้จ่ายเงินช่วยเหลืออย่างผิดประเภท