xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามฉลุยขายข้าวฟิลิปปินส์ต้นปี 1.5 ล้านตัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=cc00cc> สบายๆ -- ภาพแฟ้มรอยเตอร์วันที่ 28 มิ.ย.2550 ชาวนากำลังนั่งสูบยาเส้นสบายอารมณ์ที่หมู่บ้านเจือง (Chuong) ชานกรุงฮานอย ชีวิตที่นั่นไม่รีบเร่งอะไรมากมาย ที่ราบปากแม่น้ำแดงเป็นอู่ข้าวใหญ่ แต่ผลิตเพื่อเลี้ยงคืนทั้งทางภาคเหนือ ขณะที่ข้าวส่งออกเกือบทั้งหมดไปจากเขตอู่ข้าวใหญ่ที่สุดคือที่ราบปากแม่น้ำโขงทางภาคใต้ ต้นปีนี้เวียดนามขายข้าวลอตใหญ่ให้ฟิลิปปินส์ 1.5 ล้านตัน   </FONT></CENTER>

ASTVผู้จัดการรายวัน -- รัฐบาลเวียดนามได้ออกมายืนยันเมื่อวันพุธ (4 ก.พ.) ว่า ได้เซ็นสัญญาเพื่อจำหน่ายข้าวให้แก่ฟิลิปปินส์ จำนวน 1.5 ล้านตัน ในปีนี้ หลังจากมีการเจรจาซื้อขายในเดือน ม.ค.ซึ่งลูกค้าได้เซ็นสัญญาซื้อไปเพียง 1 ล้านตันในครั้งแรก

นับเป็นข้าวส่งออกต้นปีล็อตใหญ่ที่สุดในช่วงหลายปีมานี้ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 30% ของเป้าส่งออกตลอดทั้งปีประมาณ 5 ล้านตัน ขยายตัวราว 6.4% จากปี 2551 รายงานระบุ

“ได้มีสัญญาณในทางบวกหลายประการสำหรับตลาดข้าวเวียดนามปีนี้” รัฐบาลกล่าวในรายงานฉบับหนึ่งที่ตีพิมพ์เผยแพร่บนเว็บไซต์ รวมทั้งบนเว็บไซต์ของพรรคคอมมิวนิสต์ โดยไม่มีการเปิดเผยราคาตกลงซื้อขาย ตลอดจนชนิดของข้าวจำนวน 500,000 ตัน ที่ฝ่ายฟิลิปปินส์ตกลงซื้อเพิ่มเติม

เจ้าหน้าที่เวียดนาม กล่าวว่า ผู้ค้ากำลังเตรียมการส่งมอบล็อตแรก 500,000 ตัน ระหว่างเดือน ก.พ.-มี.ค.นี้ ซึ่งทั้งหมดเป็นข้าวขาวคุณภาพต่ำผสมข้าวหัก 25%

สมาคมอาหารเวียดนาม หรือ VietFood กล่าวเมื่อวันอังคาร ว่า ปริมาณส่งออกข้าวทั้งหมดภายในเดือน ก.พ.นี้จะสูงถึง 900,000 ตัน ขณะที่ผู้ค้ากล่าวว่ามีลูกค้ารายอื่นๆ ที่กำลังเจรจาซื้อข้าว 25% จากเวียดนามเช่นเดียวกัน ซึ่งรวมทั้งสิงคโปร์กับมาเลเซียด้วย แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ

หากเป็นไปตามเป้าหมายดังกล่าวปริมาณส่งออกช่วงต้นปีนี้ ก็จะเพิ่มเป็นประมาณสองเท่าตัวเทียบกับปริมาณที่จำหน่ายให้แก่ลูกค้าในต่างแดนในช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว คือ 459,000 ตัน ประธานของ Viet Food กล่าว
<CENTER><FONT color=cc00cc> ภาพแฟ้มเอเอฟพีวันที่ 19 ต.ค.2551 ชาวนาใน จ.ปังกาสินัน (Pangasinan) ทางตอนเหนือฟิลิปปินส์กำลังเก็บเกี่ยวข้าวฤดูนาปี ที่นั่นทำนากันแข็งขันแต่พื้นที่มีจำกัด และประชากรเฉียด 100 ล้านคน จึงต้องนำเข้าข้าวเฉียด 3 ล้านตันในแต่ละปี โดยมีเวียดนามเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ที่สุด </FONT></CENTER>
ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ราคา FOB (Free-on-Board) ข้าว 25% เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 330-350 ดอลลาร์ต่อตัน จาก 320 ดอลลาร์ในสัปดาห์ต้นเดือน ก่อนที่สมาคมอาหารเวียดนาม หรือ VietFood ที่กำกับดูแลการส่งออกจะประกาศกำหนดราคาที่ 370 ดอลลาร์ต่อตันในวันที่ 12 ม.ค.

ส่วนราคา FOB สำหรับข้าวคุณภาพดีผสมข้าวหัก 5% ได้เพิ่มขึ้นเป็น 395 ดอลลาร์ต่อตัน จาก 390 ดอลลาร์สัปดาห์ที่แล้ว แต่ก็ยังต่ำกว่าตันละ 400 ดอลลาร์ (ไม่รวมค่าขนส่ง) ตามที่ VietFood กำหนด

ผู้ค้าในเวียดนามเปิดเผยกับรอยเตอร์ ว่า มีการตกลงซื้อขายข้าว 25% ในราคาเพียง 380 ดอลลาร์ต่อตันซึ่งเป็นราคารวมค่าขนส่งกับค่าธรรมเนียมต่างๆ ด้วย และไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ อีก

“ผู้ส่งออกหลายรายได้เริ่มเก็บข้าวเข้าสต๊อกตั้งแต่เดือนธันวาคม จึงมีหลักประกันว่าจะไม่เกิดขาดแคลนในขณะที่กำลังเตรียมขนส่ง แต่อาจจะขาดแคลนข้าวหักเพื่อผสมให้เป็นข้าว 25 เปอร์เซ็นต์ในระยะยาว” รอยเตอร์อ้างคำกล่าวของผู้ส่งออกรายหนึ่ง

ยังไม่มีความเห็น หรือการยืนยันใดๆ จากเจ้าหน้าที่ในกรุงมะนิลา แต่ นายอาร์เธอร์ แยป (Athur Yap) รัฐมนตรีเกษตรฟิลิปปินส์กล่าวก่อนหน้านี้ ว่า ประเทศมีหลักประกันแล้วว่าจะสวามารถนำเข้าข้าวได้ตามปริมาณที่ต้องการในปีนี้

ปี 2551 ในขณะที่ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งขึ้นไม่หยุด ฟิลิปปินส์ได้เจรจากับเวียดนามอย่างกระวนกระวาย ตามพันธสัญญาที่นายกรัฐมนตรีเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ให้ไว้แก่ประธานาธิบดี กลอเรีย มาร์คาปากัล อาร์โรโย (Gloria Marcapagal Arroyo) ระหว่างไปเยือนฟิลิปปินส์ก่อนหน้านั้น

ผู้ค้าในนครโฮจิมินห์ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าและส่งออกข้าวใหญ่ที่สุดของประเทศ กล่าวว่า ปีที่แล้วเวียดนามจำหน่ายข้าวให้ฟิลิปปินส์รวมทั้งสิ้น 1.6 ล้านตัน แต่ยังไม่มีการยืนยันตัวเลขนี้อย่างเป็นทางการ

ตามรายงานของสื่อทางการ ต้นปี 2551 ฟิลิปปินส์ซื้อข้าวจากเวียดนามเพียงประมาณ 500,000 ตัน แต่มีการเจรจาซื้อขายอีกในช่วงที่ข้าวยากหมากแพง ก่อนที่ทางการจะสั่งห้ามส่งออกทั้งหมด และทางการยังไม่เคยมีการเปิดปริมาณข้าวที่จำหน่ายให้แก่ฟิลิปปินส์ทั้งหมด

ฟิลิปปินส์เป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลกปีที่แล้วประกาศซื้อข้าวทั้งหมด 2.4 ล้านตัน แต่เชื่อกันว่ามีการนำเข้าจริงสูงถึง 2.8 ล้านตัน คาดว่า ปีนี้จะต้องนำเข้าในปริมาณไม่น้อยไปกว่าเดิม

สำหรับเวียดนามการส่งข้าวลดใหญ่ให้แก่ฟิลิปปินส์ในช่วงต้นปีได้ส่งผลให้ราคาข้าวกระเตื้องสูงขึ้น ผู้ค้ากล่าวว่าในสัปดาห์ต้นเดือน ก.พ.นี้ มีลูกค้าอื่นๆ อีกหลายรายได้แสดงความต้องการขอซื้อข้าว 25% ของเวียดนามในราคากว่า 400 ดอลลาร์ต่อตัน เพิ่มขึ้นจากเมื่อเดือนที่แล้วราว 8%

ในเดือน ม.ค.สมาคมอาหารเวียดนาม หรือ VietFood ซึ่งเป็นหน่วยงานกึ่งทางการที่กำกับดูแลการส่งออกข้าวและติดตามสถานการณ์ข้าวของประเทศได้พยายามปรับราคาส่งออกให้สูงขึ้น 3-5% หลังจากปลายปีที่แล้วจำหน่ายได้ราคาต่ำ เนื่องจากมีข้าวจากแหล่งอื่นๆ ออกสู่ตลาดปริมาณมาก

ผู้ค้าเชื่อว่า เวียดนามจะส่งออกข้าวได้ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านตันในปีนี้ แม้ว่าทางการจะกำหนดเป้าในช่วงต้นปีเอาไว้เพียง 4 ล้านตัน เพื่อให้มีหลักประกันว่าจะไม่ขาดแคลนและเกิดความตื่นตระหนกในประเทศเหมือนเมื่อต้นปีที่แล้ว
<CENTER><FONT color=cc00cc> ภาพแฟ้มเอเอฟพีวันที่ 19 ต.ค.2551 ชาวนาในปังกาสินัน ฟิลิปปินส์ ต้องนำเอาข้าวเปลือกที่นวดแล้วออกผึ่งตามริมทางหลวง รถจี๊ปนี่พาหนะยอดนิยมแล่นอยู่เบื้องหลัง ประเทศเกาะนี้มีพื้นที่เพาะปลูกน้อยลงทุกปีๆ เนื่องจากประชากรเพิ่มไม่หยุดและอุตสาหกรรมรุกไร่ที่ดินการเกษตร   </FONT></CENTER>
เวียดนามโดย VietFood กับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะร่วมกันประเมินปริมาณข้าว และ ปรับเป้าส่งออกเป็นประจำทุกไตรมาส

“เรามีแผนจะส่งออกข้าวระหว่าง 4.5-5 ล้านตันในปีนี้” นายเหวียนแทงเบียน (Nguyen Thanh Bien) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้ากล่าวกับหนังสือพิมพ์เตี่ยนฟง (Tien Phong)

ตามตัวเลขของกรมใหญ่สถิติ หรือ GSO (General Statistics Office) ปี 2551 เวียดนามส่งออกข้าวได้ทั้งหมด 4.72 ล้านตัน เกินเป้าหมาย 4.5 ล้านตัน และทำเงินได้ 2,900 ล้านดอลลาร์ เพิ่มเกือบสองเท่าตัวจากปี 2550 สื่อของทางการกล่าว

อย่างไรก็ตาม เวียดนามได้พลาดโอกาสขายข้าวในช่วงที่ราคาพุ่งขึ้นสูง 900 ดอลลาร์ต่อตันในเดือน พ.ค.ปีที่แล้ว เนื่องจากอยู่ระหว่างห้ามส่งออก หลังจากตลาดในประเทศเกิดความโกลาหล ครอบครัวต่างๆ ในเมือง และนครใหญ่ออกซื้อข้าวกักตุนด้วยเกรงว่าจะเกิดยุคข้าวยากหมากแพง

ตามรายงานของสื่อทางการ ปลายปีที่แล้วทั่วประเทศยังมีข้าวเหลือค้า ที่สามารถออกได้ถึง 2 ล้านตัน
กำลังโหลดความคิดเห็น