xs
xsm
sm
md
lg

ประชากรหญิงลดวูบหนุ่มเวียดนับล้านชะตาเหี่ยว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#FF0000> ภาพจาก VietnamNet เด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้เดินเที่ยวกันที่ศูนย์การค้าไดมอนด์พลาซ่า นครโฮจิมินห์ ดูอย่างผิวเผินเหมือนว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่ผลการสำรวจพบว่าเด็กผู้ชายมีแนวโน้มการเบี่ยงเบนทางเพศมากขึ้น โดยที่ยังไม่ทราบว่าเกิดจากปัญหามีประชากรหญิงน้อยกว่าประชากรชายหรือไม่  </FONT></CENTER>

ผู้จัดการออนไลน์ -- ในปัจจุบันเวียดนามมีประชากรเพศชายมากกว่าเพศหญิงอยู่แล้ว แต่ผลการสำรวจวิจัยอัตราการเกิดของประชากรล่าสุด ได้พบว่า มีถึง 16 จังหวัดจากทั้งหมด 46 จังหวัด-นคร ที่สมดุลระหว่างเพศหญิงกับเพศชายได้เปลี่ยนไปอย่างน่าใจหาย จาก 115 ต่อชาย 128 คน เหลือเพียง 100 เท่านั้น

ตัวเลขนี้หมายความว่า ชายชาวเวียดนามทุก 115 หรือ 128 คน จะมี 15 หรือ 28 คนที่อาจจะต้องอยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยวเป็นโสดจนวาระสุดท้ายของชีวิต ถ้าหากแนวโน้มยังเป็นเช่นนี้ต่อไป นอกจากนั้น ก็จะมีปัญหาอาชญากรรมกับปัญหาสังคมอื่นๆ ติดตามมาอีกหลายด้าน ทำให้รัฐต้องสิ้นเปลืองงบประมาณมหาศาลในการแก้ไข

ภายในปี 2570 หนุ่มๆ เวียดนามราว 3 ล้านคน จะพบว่า การจะหาคู่ครองสักคนนั้นยากยิ่งกว่าไปร่อนหาทองตามลำน้ำลำธาร สำนักข่าวเวียดนามเอ็กซ์เพรส (VNE) รายงาน เรื่องนี้โดยอ้างตัวเลขของกรมใหญ่ประชากรและวางแผนครอบครัว (General Department for Population and Family Planning) กระทรวงทรัพยากรมนุษย์

นายเหวียนวันเติ๋น (Nguyen Van Tan) อธิบดีกรมใหญ่ประชากรฯ กล่าวว่า ความไม่สมดุลระหว่างทารกเพศหญิงกับเพศชายแรกเกิดนับวันเลวร้ายลง จนถึงระดับที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้

ตามสถิติของกรมใหญ่ประชากรฯ อัตราทารกเพศหญิงต่อทารกเพศชายมีความไม่สมดุลมาตลอด กล่าวคือ 100 ต่อ 105 คนในปี 2522 จำนวนได้เริ่มลดลงเป็น 100 ต่อ 107 ในปี 2542 และลดลงเป็น 100 ต่อ 110 คนในปี 2549 แต่ได้เพิ่มขึ้นเป็นบวก 112 ต่อ 100 คนเมื่อปีที่แล้ว
<CENTER><FONT color=#FF0000> ปัญหายังมีหลายซับหลายซ้อน ในอนาคตข้างหน้าเมื่อถึงคราวที่จะมีชีวิตคู่ พวกเธอส่วนมากยังเลือกที่จะแต่งกับชาวต่างชาติ (ภาพ: VietnamNet)  </FONT></CENTER>
อย่างไรก็ตาม “(ปัจจุบัน) มีถึง 16 จังหวัดที่ความไม่สมดุลระหว่างเพศชายกับเพศหญิงอยู่ระหว่าง 115-128 คนต่อ 100 คน อัตรานี้เท่าๆ กับประชากรของจีนในช่วงปี 2531-2533..” นายเติ๋น กล่าว

กรมใหญ่ประชากรฯ ได้เรียกร้องไปยังทางการจังหวัดและนครต่างๆ ให้เคร่งครัดต่อการปฏิบัติกฎหมายห้ามตรวจเพศทารักในครรภ์ ซึ่งมักจะนำไปสู่การทำแท้งถ้าหากฝ่ายชายไม่พึงพอใจต่อเพศของทารก

ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ย.ปีนี้ แม้ว่าประเทศจะเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้ออย่างหนัก แต่ก็มีทารกเกิดใหม่เกือบ 864,000 คนจำนวนมากกว่าช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้วถึง 40,600 คน ในนั้นมี 93,000 คนเป็นลูกคนที่สามหรือที่สี่ของครอบครัว มากกว่าปีที่แล้ว 10%

ท้องถิ่นที่มีทารกเกิดใหม่มากที่สุดในปีนี้ ได้แก่ จ.เกียนยาง (Kien Giang) คิดเป็น 66% จ.จ่าวีง (Tra Vinh) 48% จ.ก่าเมา (Ca Mau) 21% ทั้งหมดอยู่ในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง ส่วนนครโฮจิมินห์ 16% และ จ.เดียนเบียน (Die Bien) ที่มีชายแดนติดกับลาวทางตอนเหนือสุดของประเทศอัตราทารกเกิดใหม่สูง 43%

หลายปีมานี้หญิงสาวชาวเวียดนามปีละนับหมื่นคนได้กลายเป็นเจ้าสาวของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเจ้าบ่าวจากเกาหลีและไต้หวัน รวมทั้งจากมาเลเซีย-สิงคโปร์ด้วย

ด้วยสภาพกดดันทางเศรษฐกิจ หญิงสาวจากเขตชนบทยากจนในเวียดนามจำนวนมากตัดสินใจเสี่ยงแต่งงานกับชาวต่างชาติ โดยหวังว่าจะพบชีวิตที่ดีกว่า จำนวนมากสมหวังและมีจำนวนมากเหมือนกันที่ตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์

ถึงกระนั้นการสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้ ยังพบว่า หญิงสาวชาวเวียดนามส่วนมากไม่ประสงค์ที่จะแต่งงานกับผู้ชายชาติเดียวกัน และยังแสวงหาเจ้าบ่าวชาวต่างชาติ
กำลังโหลดความคิดเห็น