ASTV ผู้จัดการรายวัน-- องค์การสหประชาชาติได้เตือนทางการพม่าว่าประชาชนยังไม่พ้นสภาวะความหิวโหย ในหลายภูมิภาคของประเทศประเทศอาจจะยังต้องเผชิญการขาดแคลนอาหารกว่าแสนตันในปีนี้ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากไซโคบนนาร์กิสที่พัดถล่มเขตที่ราบปากแม่น้ำอิรวดี หนึ่งในเขตอู่ข้าวสำคัญของประเทศต้นปีที่แล้ว
องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization) ออกเตือนดังกล่าวในขณะที่องค์การสถิติกลางของทางการพม่ารายงานว่า ปีงบประมาณ 2008-2009 ที่กำลังจะสิ้นสุดลงในเดือน มี.ค.ปีนี้ รัฐบาลจะส่งออกข้าว 500,000 ตัน ทั้งนี้เป็นข้าวที่เหลือบริโภคจากเขตอิรวดีเพียงเขตเดียว
แต่ FAO กล่าวว่าปีนี้ สำหรับเขตที่ราบปากแม่น้ำอิรวดีที่ถูกวาตภัยและอุทกภัยทำลาย อาจจะต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉินเป็นอาหารประมาณ 85,000 ตันสำหรับปีนี้ และอีกราว 100,000 ตันสำหรับรัฐชิน (Chin) ซึ่งสูญเสียพืชผลอย่างมหาศาลจากการทำลายของหนู ในขณะที่ปะชาชนในเขตสะกาย (Sagaing) ซึ่งเป็นเขตที่ยากจนที่สุดของประเทศก็อาจจะต้องการความช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตามรัฐบาลพม่าได้ประกาศปลายปีที่แล้วอนุญาตให้ส่งออกข้าวได้อีกครั้งหนึ่ง รวมทั้งอนุญาตให้ค้าข้าวข้ามพรมแดนได้เป็นครั้งแรกในช่วงเวลาหลายปี โดยให้เป็นข้าวที่เหลือจากการบริโภคใน 3 เขตอู่ข้าวสำคัญของประเทศคือ เขตอิรวดี เขตย่างกุ้งกับเขตพะโค (Bago) ที่อยู่ใกล้กับชายแดนมากที่สุด
ในปี 2551 โครงการอาหารแห่งสหประชาชาติหรือ WFP (World Food Program) ได้ส่งอาหารให้แก่ครอบครัวผู้ประสบภัยพิบัติในเขตที่ราบใหญ่ปากแม่น้ำอิรวดีรวม 55,000 ตัน กับอีก 22,000 ตันสำหรับประชาชนในเขตอื่นๆ ทั่วพม่า แต่ยังไม่เคยมีการส่งความช่วยเหลือเหล่านี้ไปยังประชาชนในรัฐชิน ทางตอนเหนือสุดของประเทศ
ตามรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีที่อ้างการเปิดเผยของนายเฉิงเฟิง (Cheng Feng) ซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์ของ FAO ในครึ่งหลังของปี 2551 การทำนาในเขตที่ราบปากแม่น้ำได้ผลลดลงถึง 32.5 ล้านตันข้าวเปลือกจากปีที่แล้ว เหลือเพียง 1.93 ล้านตัน แต่ประชากรที่นั่นมีชีวิตความเป็นอยู่ค่อยๆ ดีขึ้น เนื่องจากได้รับการช่วยเหลือเป็นสัตว์เลี้ยง รวมทั้งอุปกรณ์สำหรับการประมงซึ่งรวมทั้งเรือลำใหม่ด้วย
อย่างไรก็ตามสำนักข่าวซินหัวรายงานสัปดาห์ที่แล้วอ้างตัวเลขกระทรวงพาณิชย์พม่าที่ระบุว่า นับตั้งแต่ทางการอนุญาตให้ส่งออกข้าวได้อีกครั้งหนึ่งในเดือน พ.ย. จนถึงต้นเดือน ม.ค.พม่าส่งออกข้าวได้ทั้งหมด 99,000 ตัน และกำลังเตรียมการส่งออกอีกเกือบ 20,000 ตัน
แต่นิตยสารข่าวรายสัปดาห์ "ย่างกุ้งไทมส์" รายงานสัปดาห์ที่ผ่านมาระบุว่า บริษัทส่งออกข่าวที่ได้รับอนุญาตจากทางการจำนวน 28 แห่งกำลังร่วมกันส่งออกข้าวให้ได้ครึ่งล้านตันเมื่อปีงบประมาณปัจจุบันสิ้นสุดลงในสิ้นเดือน มี.ค.ศกนี้
ตามสถิติของทางการนั้นปีงบประมาณ 2550-2551 ที่สิ้นสุดลงเดือน มี.ค.ปีที่แล้ว พม่าส่งออกข้าวทั้งหมดเพียง 358,000 ตัน ทำรายได้ 100 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากพม่าจำหน่ายข้าวราคาเฉลี่ยต่ำเพียง 260 ล้านดอลลาร์ต่อตันเท่านั้น
ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2551-2552 (เม.ย.-ธ.ค.) ตัวเลขส่งออกลดลงเหลือเพียง 150,000 ตัน อันเป็นผลเนื่องมาจากการถูกไซโคลนนาร์กิส (Nargis) จากทะเลเบงกอล พัดทำลายนาข้าวเสียหายหนัก.