เขมร-เวียดนามส่งสัญญาณชัดข้าวล้นตลาด

<CENTER><FONT color=#00cc00> ภาพจากแฟ้มเดือน พ.ย.2551 ชาวนา จ.ตะแกว ขนฟ่อนข้าวจากท้องนากลับเข้าบ้าน จังหวัดต่างๆ กำลังทะยอยรายงานผลการผลิตข้าว ปีนี้กัมพูชาทำนาได้ผลดีมีข้าวเหลือบริโภคในประเทศจำนวนมาก ซึ่งจะต้องส่งออก (ภาพ: AFP) </FONT></CENTER>

ASTVผู้จัดการออนไลน์-- สถานการณ์ข้าวต้นปี 2552 อาจจะต่างไปจากเมื่อต้นปีนี้อย่างสิ้นเชิง ประเทศต่างๆ ในเขตอู่ข้าวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งเวียดนามและ กัมพูชารายงานผลเบื้องต้นเกี่ยวกับการผลิตข้าวในปี 2551 นี้ โดยผลิตได้อย่างล้นเหลือที่จะต้องส่งออก

ทั้งนี้ยังไม่ได้นับรวมพม่าที่รัฐบาลอนุญาตให้เริ่มส่งออกได้อีกครั้งหนึ่งในปลายปีนี้ กับประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ส่งข้าวออกจำหน่ายรายใหญ่อันดับหนึ่งของโลกตลอดมา

ต้นปี 2551 ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งขึ้นสูงอย่างเป็นประวัติการณ์ ก่อนจะค่อยๆ ลดลงในช่วงกลางปี หลังจากมีการระบายข้าวออกจากแหล่งต่างๆ แต่สถานการณ์ปีหน้านี้อาจจะเปลี่ยนไป ราคาอาจจะตกต่ำลง

สำหรับปี 2552 ทางการเวียดนามได้ตั้งเป้าเป้าส่งออกข้าวเอาไว้ที่ 4.8 ล้านตัน ซึ่งเป็นเป้าส่งออกข้าวสูงที่สุดในช่วงหลายปีมานี้ หนังสือพิมพ์อุตสาหกรรมและการค้าฉบับภาษาเวียดนาม รายงานเมื่อวันจันทร์ (29 ธ.ค.) โดยอ้างตัวเลขของกระทรวงดังกล่าว

"คาดว่าปีหน้าการส่งออกจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกอาจจะส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากอดอยาก และต้องหันมาพึ่งพาข้าวแทนผลไม้ ผักและเนื้อสัตว์" กระทรวงอุตสาหกรรมฯ ระบุในรายงานฉบับหนึ่ง

รายงานดังกล่าวได้ประเมินความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นในกลุ่มประเทศแอฟริกาโดยเฉพาะอย่างยิ่งไนจีเรียกับแอฟริกาใต้ ได้แสดงความสนใจนำเข้าข้าวจากเวียดนามในปีนี้ รายงานระบุ

แต่ถึงแม้ว่าการส่งออกข้าวปีหน้าอาจจะเพิ่มมากขึ้นในเชิงปริมาณก็ตาม แต่ทางการเวียดนามได้คาดการณ์ล่วงหน้าว่า ราคาจะตกต่ำลงและรายได้จะลดลง สัปดาห์ที่แล้วทางการเวียดนามได้ประกาศยกเลิกภาษีส่งออกข้าวทั้งหมด เพื่อสนับสนุนการส่งออกให้สามารถแข่งขันราคาได้

เวียดนามประกาศสัปดาห์ที่แล้วเช่นเดียวกันว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ตกลงซื้อข้าวสารชนิดปนเมล็ดหัก 25% ราคาถูกจากเวียดนามรวม 500,000 ตัน โดยสองฝ่ายมีกำหนดเซ็นสัญญาซื้อขายในเดือน ม.ค.นี้

ตามรายงานของสำนักข่าวรัฐบาลกัมพูชาช่วงที่ผ่านมาในทางการจังหวัดต่างๆ ได้ทยอยรายงานปริมาณข้าวส่วนเกินในจังหวัด ในขณะที่ชาวนาก็เริ่มทยอยจำหน่ายข้าวนาปีที่เพิ่งเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จให้ผู้ค้าจากเวียดนามที่ข้ามแดนเข้าไปกว้านซื้อ

โรงสีในกัมพูชายังไม่มีความสามารถซื้อข้าวจากชาวนานเพื่อเก็บสีก่อนส่งจำหน่ายตลาดในประเทศและส่งออก ทั้งนี้เนื่องจากไม่มีสถานที่เก็บทันสมัยเพียงพอ ขณะเดียวกันก็ขาดเงินทุนหมุนเวียนอย่างรุนแรงซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ค้าจากเวียดนามเข้าไปมีบทบาทแทน

สำนักข่าวเอเคพี (Agence Kampuchean-Presse) รายงานสัปดาห์นี้ว่า ทางการจังหวัดกัมปงจาม (Kampong Cham) ในเขตอู่ข้าวภาคกลางได้ส่งตัวเลขผลการเก็บเกี่ยวข้าวฤดูนาปี ซึ่งจังหวัดนี้มีข้าวสารเหลือบริโภคราว 118,000 ตัน

เอเคพีอ้างการเปิดเผยของนายเฮงแบนยี (Hern Ban Yi) เจ้าหน้าที่แผนกการเกษตรจังหวัดกัมปงจาม ที่ระบุว่าข้าวฤดูฝนที่ผ่านมาชาวนาจังหวัดนี้สามารถปลูกข้าวได้ในเนื้อที่นา 166,285 เฮกตาร์ (1,030,000 ไร่) ได้ผลผลิตต่ำเฉลี่ยสามตันต่อเฮกตาร์ (6.25 ไร่)

จังหวัดนี้คาดว่าฤดูข้าวนาปรัง (ฤดูร้อน) ที่จะถึงจะสามารถทำนาได้ในเนื้อที่ประมาณ 50,000 เฮกตาร์ คาดว่าจะได้ผลผลิตเฉลี่ย 4-5 ตันต่อเฮกตาร์

ก่อนหน้านั้นทางการ จ.กระแจ๊ (Kratie) ได้รายงานว่า ผลผลิตข้าวนาปีปีนี้คิดเป็นข้าวสารได้รวมกัน 109,943 ตัน แต่จะเหลือการบริโภคเพียง 15,000 ตันเท่านั้น ทั้งนี้ยังไม่รวมกับพืชอาหารชนิดอื่นๆ ที่ปลูกในเนื้อที่กว่า 10,000 เฮกตาร์ เอเคพีรายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่การเกษตรจังหวัด
<CENTE><FONT color=#00cc00> ภาพจากแฟ้มเดือน เม.ย.2551 คนงานองค์การอาหารแห่งชาติฟิลิปปินส์กำลังบรรจุถุงข้าวราคาถูกที่นำเข้าจากเวียดนาม เดือน ม.ค. 2552 สองฝ่ายจะเซ็นสัญญาซื้อขายข้าวผสมเมล็ดหัก 25% อีก 500,000 ตัน ซึ่งจะช่วยลดปริมาณข้าวต้นปีในตลาดโลกลงได้ส่วนหนึ่ง ปีนี้ประเทศต่างๆ ล้วนทำนาได้ผลดีเกินคาด (ภาพ: AFP) </FONT></CENTER>

<CENTE><FONT color=#00cc00> ภาพจากแฟ้มเดือน เม.ย.2551 คนงานองค์การอาหารแห่งชาติฟิลิปปินส์กำลังบรรจุถุงข้าวราคาถูกที่นำเข้าจากเวียดนาม เดือน ม.ค. 2552 สองฝ่ายจะเซ็นสัญญาซื้อขายข้าวผสมเมล็ดหัก 25% อีก 500,000 ตัน ซึ่งจะช่วยลดปริมาณข้าวต้นปีในตลาดโลกลงได้ส่วนหนึ่ง ปีนี้ประเทศต่างๆ ล้วนทำนาได้ผลดีเกินคาด (ภาพ: AFP) </FONT></CENTER>

ที่ผ่านมาชาวนา จ.กระแจ๊ทำนาปีในเนื้อที่ 29,778 เฮกตาร์ สูงกว่าเป้าหมายราว 103% ได้ผลผลิตเฉลี่ย 2.5 ตันต่อเฮกตาร์ ส่วนฤดูข้าวนาปรังต้นปีหน้าคาดว่าจะมีเนื้อที่นารวมประมาณ 11,000 เฮกตาร์ และทุกปีที่ผ่านมาได้ผลผลิตเฉลี่ย 3 ตันต่อเฮกตาร์ เอเคพีกล่าว

ก่อนหน้านั้นทางการ จ.กัมปงธม (Kampong Thom) ในเขตที่ราบใหญ่ภาคกลางได้รายงานตัวเลขข้าวนาปีซึ่งผลิตได้ทั้งหมด 129,568 ตัน จากเนื้อที่นา 164,276 เฮกตาร์ หรือกว่า 1 ล้านไร่ แต่ได้ผลผลิตเฉลี่ยเพียงประมาณ 2 ตันต่อเฮกตาร์

คาดว่าฤดูข้าวนาปรังจะถึง ทั้งจังหวัดจะมีเนื้อที่ปลูกข้าวประมาณ 18,827 เฮกตาร์ และผลผลิตเฉลี่ย 4 ตันต่อเฮกตาร์

เจ้าหน้าที่ของทางการเปิดเผยก่อนหน้านี้คาดว่าในสิ้นปี 2551 ในกัมพูชาจะมีข้าวเปลือกเหลือบริโภคอยู่ในสต๊อคราว 2.8 ล้านตัน ซึ่งทั้งหมดจะต้องส่งออก

สื่อในกัมพูชารายงานก่อนหน้านี้ว่าพ่อค้าชาวเวียดนามกำลังเข้าไปกว้านซื้อ "ข้าวดอกมะลิ" (Dok Malis) กับข้าวดอกลำดวน (Dok Lumdaun) ซึ่งเป็นข้าวหอมคุณภาพดีในจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่ติดชายแดนเวียดนามจนถึง จ.พระตะบอง ใกล้กับชายแดนไทย ชาวนากำลังขายได้ราคาดี

ยังไม่มีรายงานผลผลิตจากจังหวัดอื่นๆ ที่เป็นอู่ข้าวใหญ่ของประเทศในภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกัมปงสะปือ (Kampong Speu) สวายเรียง (Svay Rieng) เปรย์แวง (Prey Veng) และ จ.ตะแกว (Ta Keo)

สำหรับพม่าเพิ่งมีรายงานในสัปดาห์ต้นเดือน ธ.ค.ว่า รัฐบาลโดย พล.อ.เต็งเส่ง (Thein Sein) นายกรัฐมนตรีได้อนุญาตให้ผู้ค้าเริ่มส่งออกข้าวได้อีกครั้งหนึ่งในเดือน พ.ย. โดยรัฐบาลยังคงเป้าหมายเดิมเมื่อต้นปีคือ 240,000 ตัน

นายกฯ พม่ากล่าวด้วยว่ารัฐบาลมีแผนการที่จะส่งเสริมให้เกษตรกรชาวนาเพิ่มผลผลิตข้าว เพื่อส่งออกให้ได้ปีละประมาณ 3 ล้านตัน

สำหรับเวียดนามผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับสองซึ่งหยุดส่งออกในช่วงเดือน เม.ย.-ก.ย. เมื่อราคาข้าวในประเทศพุ่งขึ้นสูง ได้พบในภายหลังว่าผลิตข้าวได้มากจนเกินเป้าเท่านั้น และปีนี้ยังส่งออกเกินเป้า 4.5 ล้านตันอีกด้วย ในขณะที่ยังมีข้าวล้นสต๊อคในปลายปี.