xs
xsm
sm
md
lg

เขมรลุ้นน้ำตาลเมา-ปลาเจ่า-ข้าวพระตะบองตีตรา GI

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#3366ff> คนงานกำลังใช้เท้าย่ำลงไปในเข่งบรรจุปลาที่โรยเกลือเพื่อทำปลาเจ่า ภาพถ่ายวันที่ 16 ม.ค.2551 ที่หมู่บ้านจรางจำเรส ริมฝั่งแม่น้ำโตนเลสาป (Tonle Sap) ทางตอนใต้กรุงพนมเปญ (Chrang Chamres) ในฤดูจับปลาที่นี่จะมีกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ในขณะนี้ทางการกำลังพยายามขึ้นทะเบียน ประฮ๊อก (Prahok) หรือปลาเจ่าเขมรให้เป็นสินค้าที่ผลิตในแหล่งจำเพาะทางภูมิศาสตร์กับหน่วยงานในฝรั่งเศส (ภาพ: AFP)  </FONT></CENTER>

ผู้จัดการรายวัน -- ทางการกัมพูชากำลังพยายามขึ้นทะเบียนสินค้าหลายชนิดรวมทั้งพริกไทย ข้าวและน้ำตาลที่ผลิตจากต้นตาลเพื่อจดทะเบียนกับหน่วยงานมาตรฐานฝรั่งเศส ให้เป็นสินค้าที่ตั้งชื่อตามท้องถิ่นที่ผลิต หรือ Geopgraphical Indication of Products หรือ GI

ตามรายงานของสำนักข่าวเอเคพี (Agence Kampuchean-Presse) ซึ่งเป็นสำนักข่าวของทางการ หน่วยงานที่รับผิดชอบของกัมพูชากำลังพยายามขึ้นทะเบียน GI ให้กับ ข้าวหอมพระตะบอง (Battambang) พริกไทยกัมโป้ท (Kampot) และ น้ำตากัมปงสะปือ (Kampong Speu)

สินค้าที่เข้าข่ายยังรวมทั้งผ้าไหมบ้านใต้มีชัย (Banteay Meanchey) กับปลาจ่อมเสียมราฐ (Siem Reap) ด้วย

เอเคพี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐจากกัมพูชา ลาวและเวียดนาม ได้ประชุมหารือร่วมกับองค์การช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาของรัฐบาลฝรั่งเศสหรือ อาแอฟเด (Agence France Developpement) ที่ให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนตามแหล่งผลิตทางภูมิศาสตร์ เช่นเดียวกับสุราแช็มเปญ หรือคอนญัก ในประเทศนั้น

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จากประเทศไทยมีกำหนดจะไปร่วมการประชุมหารือซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมแคมโบเดียนา (Cambodiana) กรุงพนมเปญ วันพฤหัสบดี (16 ต.ค.) แต่ แล้วก็งดไป

นายเหมาธุรา (Mao Thura) ผู้ช่วยรัฐมนตรี กระทรวงการค้ากล่าวว่า การตดทะเบียนชื่อสินค้าตามแหล่งผลิตทางภูมิศาสตร์จะทำให้สินค้ามีเอกลักษณ์ เกษตรกรที่เป็นเจ้าของสินค้าจะมีลิขสิทธิ์ ป้องกันการปลอมแปลงและจะได้รับการส่งเสริมให้ออกสู่ตลาดโลก และจำหน่ายได้ราคาดี
<CENTER><FONT color=#3366ff> ชาวบ้านที่เสียมราฐกำลังเก็บน้ำตาลก้อนที่ทำจากน้ำหวานจากต้นตาลซึ่งเป็นต้นไม้ประจำชาติและได้รับการอนุรักษ์ ปัจจุบันมีต้นตาลราว 2.5 ล้านต้นทั่วประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังหาทางขึ้นทะเบียนน้ำตาลและสุรากระแช่ให้เป็นสินค้าที่ผลิตขึ้นจากแหล่งจำเพาะทางภูมิศาสตร์ </FONT>  </FONT></CENTER>
อาแอฟเดกับคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปได้ให้ความช่วยเหลือกัมพูชา ลาว และเวียดนาม ในการดำเนินโครงการดังกล่าว โดยปีนี้ฝ่ายลาวได้เข้าร่วมเป็นปีแรก

เจ้าหน้าที่เวียดนามได้บอกกับที่ประชุมครั้งนี้ว่า ในเวียดนามมีสินค้าอย่างน้อย 15 รายการที่เตรียมขึ้นทะเบียน GI รวมทั้งน้ำปลาฟุก๊วก (Phu Quoc) ใบชา ส้มดั๊กลัก (Dak Lak) กาแฟบวนมาท๊วด (Buon Ma Thuot)

หลังการประชุมหารือดังกล่าวเจ้าหน้าที่จากฝรั่งเศส เจ้าหน้าที่กัมพูชา ลาวและเวียดนาม ได้เดินทางไปเยี่ยมชมวนพริกไทยใน จ.กัมโป้ท ซึ่งเป็นแหล่งผลิตพริกไทยคุณภาพดีใหญ่ที่สุดของประเทศ

สินค้าการเกษตรเป็นสินค้าออกสำคัญของกัมพูชา แต่เกือบทุกชนิดรวมทั้งข้าวชนิดต่างจะส่งออกผ่านประเทศไทยหรือเวียดนาม โดยผู้ค้าชาวไทย ชาวเวียดนาม หรืออาจะไปไกลจากสิงคโปร์และมาเลเซีย

รัฐบาลกัมพูชาได้สั่งให้ทั่วประเทศอนุรักษ์ต้นตาลซึ่งเป็นต้นไม้ประจำชาติ ทำให้ประเทศนี้สามารถผลิตน้ำตาลรสอร่อยจากต้นตาลได้ปริมาณมหาศาลในแต่ละปี
<CENTER><FONT color=#3366FF>  ภาพจาก www.bp2.blogger.com ผลไม้ประจำชาติกำลังจะทำรายได้ให้แก่กัมพูชาปีละ 500 ล้านดอลลาร์ ประเทศนี้ผลิตน้ำตาลได้ปริมาณมหาศาลในแต่ละปีและที่ จ.กัมปงสะปือยังเป็นแหล่งน้ำตาลเมาอันลือชื่อของชาวเขมรอีกด้วย </FONT> </CENTER>
รายงานของเอเคพีก่อนหน้านี้ ระบุว่า ในปีใกล้ๆ นี้กัมพูชาจะมีรายได้จากสินค้าที่ผลิตจากต้นตาลกว่า 500 ล้านดอลลาร์ต่อปี

บริษัท คอนฟิเรล (Confirel) ซึ่งเป็นผู้ผลิตผู้ส่งออกและจำหน่ายสินค้าจากต้นตาลรายใหญ่คาดว่า ในปีนี่ รายได้จากสินค้าทุกชนิดมีมูลค่าระหว่าง 101-224 ล้านดอลลาร์

บริษัทนี้ประมาณว่าปัจจุบันมีต้นตาลราว 2.5 ล้านต้นในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ในนั้นมีประมาณ 1 ล้านต้น ที่กำลังถูกใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์

ปัจจุบันบริษัทนี้มีพันธะสัญญากับเกษตรกรรราว 300 ราย เพื่อซื้อนำตาลไปผลิตสุราพื้นบ้านหรือ “กระแช่” ซึ่งในปัจจุบันได้รับความนิยมจากตลาดต่างประเทศมากขึ้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น