ผู้จัดการออนไลน์ - สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ยกเลิกการเดินทางไปยัง จ.กัมโปต (Kampot) ทางตอนใต้ของประเทศในวันอังคาร (18 พ.ย.) นี้ หลังจากมีคำเตือนเกี่ยวกับพายุโซนร้อนลูกใหม่จากทะเลจีนใต้ที่คาดว่าจะพัดทะลวงเข้าถึงกัมพูชาและจะทำให้เกิดฝนตกหนักในอีกวันสองวันข้างหน้า
กัมโป้ทอยู่ห่างจากกรุงพนมเปญเพียง 100 กิโลเมตรเศษ นายกรัฐมนตรีกัมพูชามีแผนการจะเดินทางไปยังจังหวัดชายฝั่งทะเลอ่าวไทยแห่งนั้นด้วยเฮลิคอปเตอร์
การงดเดินทางดังกล่าวมีขึ้นในเวลาเพียงข้ามสัปดาห์หลังจาก พล.อ.ฮอก ลุนดี (Hok Lundy) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติถึงแก่กรรมจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่ จ.สวายเรียง (Svay Rieng) บ้านเกิดที่อยู่ถัดขึ้นไปและมีพรมแดนติดกับเวียดนามเช่นเดียวกัน
ผลการสืบสวนได้พบว่า เฮลิคอปเตอร์ชะตาขาดลำดังกล่าวโหม่งโลกหลังจากถูกไฟไหม้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าเกิดจากฟ้าผ่า เนื่องจากเกิดฝนตกหนักที่ปลายทางก่อนจะลงจอดเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์กัมโบดจ์ซวาร์ (Cambodge Soir) ฉบับภาษาฝรั่งเศสในกรุงพนมเปญ กระทรวงทรัพยากรแหล่งน้ำและอุทกศาสตร์ ได้ออกเตือนตั้งแต่วันเสาร์เกี่ยวกับพายุโซนร้อนนูล (Noul) ที่จะทำให้เกิดลมแรงและฝนตกหนักในช่วงปลายสัปดาห์นี้
นายกรัฐมนตรีกัมพูชาให้เหตุผลสำหรับการงดเดินทางครั้งนี้ว่า "ทุกคนพึงต้องสังวร เราได้สูญเสียวีรชนแห่งชาติไปถึงสี่คนแล้วจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์" กัมโบดจ์ซวาร์รายงานในฉบับวันอังคาร (18 พ.ย.) นี้
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานวันเดียวกันว่า สมเด็จฯ ฮุนเซนมีกำหนดจะไปเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกาการก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ใน จ.กัมโป้ท จากการลงทุนของบริษัทซิโนไฮโดร (Sinohydro) จากจีน แต่แล้วก็ต้องงดไป
ทางการได้เตือนให้ท้องถิ่นต่างๆ ตั้งแต่ จ.สวายเรียง เปรย์แวง (Prey Veng) จ.กันดาล (Kandal) กัมปงสะปือ (Kampong Speu) ที่อยู่ติดกรุงพนมเปญ จ.พระตอบอง (Battambang) และ เสียมราฐ (Siem Reap) ที่อยู่ไกลออกไปให้มีมาตรการรับมือ ฝนตกหนักและให้ข้อมูลแก่ประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทางในช่วงดังกล่าว
พายุนูลคาดว่าจะมีความเร็วลงที่ศูนย์กลางเพียง 55 กม./ชม. เมื่อพัดเข้าถึงดินแดนกัมพูชา แต่เนื่องจากมีความกดอากาศสูงทั่วไป ซึ่งอุณหภูมิเฉลี่ยระหว่าง 17-21 องศาเซลเซียสในขณะนี้ อาจจะทำให้พายุทวีความเร็วขึ้นได้อีก
ตามรายงานของสื่อในเวียดนาม พายุนูลจะเคลื่อนจากทะเลจีนเข้าถึงฝั่งในคืนวันจันทร์ ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่จังหวัดภาคกลาง จนถึงนครโฮจิมินห์ และตอนใต้สุดของประเทศ ก่อนจะพัดผ่านจังหวัดในเขตอู่ข้าวที่ราบปากแม่น้ำโขง
ทางการเวียดนามสั่งให้อพยพราษฎรนับแสนคนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยต่างๆ