ASTVผู้จัดการรายวัน-- ทันทีที่นึกถึงแกงส้มก็มักจะมองเห็นน้ำแกงสีแดงๆ จากพริกแกงกับรสเปรี้ยวอมหวานจากน้ำมะขามเปียก แต่เมนูของชาวกะเหรี่ยงนี้เปล่าเลย.. ไม่มีน้ำข้นๆ ไม่มีน้ำมะขามเปียก แต่รับรองเปรี้ยวจี๊ด เพราะใช้ใบส้มป่อย
ในวันหยุดที่ไม่รู้จะไปไหนดีอาจจะลองเข้าครัวดู เป็นเมนูที่ใช้เวลาไม่มาก ไม่มีอะไรซับซ้อน ยอดส้มป่อยหาได้ทั่วไปในกรุงเทพฯ กับปริมณฑล หาไม่ได้จริงๆ ก็ใช้ยอดมะขามอ่อนแทน ได้รสเปรี้ยวกับกลิ่นหอมๆ ออกมาไม่ต่างกันมาก
ส่วนประกอบ
1.กุ้งแห้ง 1 ถ้วย
2.ข่าอ่อนหั่นบางๆ 1/2 หัว
3.ตะไคร้หั่นฝอยละเอียด 4 ต้น
4.กระเทียม 5 กลีบ หอมแดงซอย 4 หัว
5.พริกขี้หนูตามชอบ
6.ใบส้มป่อย หรือ ยอดมะขาม
แม้ว่าตำราจะไม่ได้เจาะจงขนาดของกุ้งแห้ง แต่ขอแนะนำให้เลือกขนาดเขื่องๆ อาจจะแพงหน่อยแต่ก็อร่อยกว่า แช่น้ำไว้สักพักใหญ่ๆ ก่อนจะนำลงปรุงตามขั้นตอนที่ว่ามา เนื้อนุ้มนุ่ม...
ถึงตอนนี้ขออนุญาตขัดจังหวะสักนิด ผู้เขียนมีความผูกพันกับเรื่องกุ้งๆ จากพม่าพอสมควร..
ย้อนหลังไป 25-26 ปีก่อนได้เคยข้ามแดนไปทำข่าววันแห่งเอกราชของรัฐมอญใหม่ทางด่านเจดีย์สามองค์ ช่วงเดียวกันก็ได้ข้ามเข้าไปทำข่าววันชาติรัฐกอว์ตุเลย์ รัฐกะเหรี่ยงอิสระของท่านนายพลโบเมียะชายแดนด้านแม่สอด
เส้นทางไปยังเป้าหมายทั้งสองแห่งไม่ได้ราดยางสะดวกสบายเหมือนในวันนี้ ต้องนั่งรถผ่านถนนที่เป็นดินทรายขาวบ้างแดงบ้างตลอดทาง มอมแมมชนิดเคืองหูเคียงตาเป็นวันๆ อาบน้ำฟอกสบู่ 3 วันฝุ่นแดงในซอกหูก็ยังออกไม่หมด
ที่รัฐกะเหรี่ยงกอว์ตุเลย์มีกุ้งมังกรจากอันดามันตัวโตขนาดเท่าแข้ง กุ้งก้ามกรามจากลำน้ำสาละวินตัวขนาดเท่าท่อนแขน คุณลุงโบเมี๊ยะผู้ใจดี (ท่านถึงแก่กรรมไปเมื่อปีก่อน) จะสั่งทหารแพ็คอย่างดีให้พวกเรานำกลับกรุงเทพฯ เป็นของฝาก
ส่วนทางรัฐมอญใหม่ก็ใช่ย่อย ที่นั่นมีกุ้งแห้งตัวโตขนาดใหญ่กว่าหัวแม่โป้งสักสองเท่า แล้วก็มีปลาแห้งตัวโตเรียวๆ ที่เรียกว่า "ปลาหัวยุ่ง"
เส้นทางช่วงท่าขนุน (ทองผาภูมิ) ไปยังสังขละบุรี ไปด่านเจดีย์ฯ เมื่อก่อนนี้จะตัดผ่านบริเวณที่เป็นอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลมในวันนี้ ทุกอย่างเต็มไปด้วยความยากลำบาก ซีฟู้ดของฝากจากพี่น้องชาวมอญคลุกฝุ่นขาวฝุ่นแดงตลอดทาง ถึงกรุงเทพฯ ต้องแช่น้ำอุ่น เปิดก๊อกล้างนานสองนานจึงพอรับประทานได้
ช่วงปีหลังๆ ยังพอหาสินค้าพวกนี้ได้ที่ตลาดน้ำตกไทรโยคน้อย แต่วันนี้คงจะหาปลาหัวยุ่งกับกุ้งแห้งคลุกฝุ่นแดงตัวโตๆ ขนาดนั้นไม่ได้แล้วกระมัง
คราวนี้.. วิธีทำแกงส้มกุ้งแห้งใบส้มป่อย
1.ตั้งน้ำร้อน (ตวงจากชามโดยเผื่อๆ ว่ากำลังจะเติมอะไรต่อมิอะไรลงไป)
2.ระหว่างรอน้ำเดือดโขลกกระเทียม
3.พอน้ำเดือดใส่กุ้งแห้งลงไป ใส่ข่าตะไคร้ หอมแดงและกระเทียม
4.ใส่พริกขี้หนูลงเลยก็ได้ แต่ระวังจะเผ็ดมาก
5.สักพักลองตักกุ้งแห้งขึ้นมาดู เอาให้พอนิ่มๆ
6.ปรุงรสด้วยเกลือ
7.ใส่ใบส้มป่อยหรือยอดมะขามเขียวๆ และ ยกลงจากเตาทันที
คราวนี้.. วิธีทำแกงส้มกุ้งแห้งใบส้มป่อย
1.ตั้งน้ำร้อน (ตวงจากชามโดยเผื่อๆ ว่ากำลังจะเติมอะไรต่อมิอะไรลงไป)
2.ระหว่างรอน้ำเดือดโขลกกระเทียม
3.พอน้ำเดือดใส่กุ้งแห้งลงไป ใส่ข่าตะไคร้ หอมแดงและกระเทียม
4.ใส่พริกขี้หนูลงเลยก็ได้ แต่ระวังจะเผ็ดมาก
5.สักพักลองตักกุ้งแห้งขึ้นมาดู เอาให้พอนิ่มๆ
6.ปรุงรสด้วยเกลือ
7.ใส่ใบส้มป่อยหรือยอดมะขามเขียวๆ และ ยกลงจากเตาทันที
ตักใส่ชาม รับประทานกับข้าวกล้องหอมมะลิ รับรองอร่อยแบบไม่ลืมหูลืมตา
ถ้าไม่ต้องการใช้กุ้งแห้งก็เปลี่ยนเป็นลูกชิ้นปลากรายแทนได้ อย่าลืมลวกน้ำร้อนสักสองสามน้ำก่อนปรุง โดยใช้ส่วนประกอบอื่นๆ เหมือนกันหมด
แกงส้มกุ้งแห้งใบส้มป่อยหรือ "ตะด่อโพจือที" กับ แกงส้มลูกชิ้นปลากรายใบส้มป่อย หรือ "ญะเต่อดึ๊" รวมอยู่ในหนังสือ "28 เมนูอร่อยจากกลุ่มชาติพันธุ์ในพม่า" ซึ่งสำนักพิมพ์เพื่อนบ้านอุษาคเนย์ จัดพิมพ์ออกเผยแพร่
เป็นหนังสือเล่มเล็กกะทัดรัด ปกแข็ง สี่สีทั้งเล่ม จำหน่ายในราคา 220 บาท คุ้มค่าเกินราคา เหมาะสำหรับติดครัวเอาไว้เพื่อมื้อพิเศษในวันหยุดที่ทุกคนอยู่พร้อมหน้ากัน หรือ เอาไว้ประจำร้าน สำหรับร้านอาหารที่กำลังมองหาเมนูเอ็กโซติก (Exotic Menu) ต่างๆ
คุณค่าของหนังสือยังอยู่ที่การให้ความรู้เป็นภูมิหลังสั้นๆ เกี่ยวกับเมนูอาหารต่างๆ อย่างน่าสนใจอีกด้วย
ในวันเสาร์ (20 ธ.ค.) นี้ กำลังมีงาน "หลากรสหลายชาติพันธุ์" ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยนิตยสารสาละวินโพสต์กับเครือข่ายสตรีชนเผ่าในประเทศไทยร่วมกันจัด
งานจัดขึ้นที่สนามหญ้า หน้าโรงละคร หอแสดงศิลปวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัย ไปจนถึง 21:00 น. มีการออกซุ้มอาหารอร่อยของหลายชาติพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นไทยใหญ่ พม่า คะฉิ่น ปะหล่อง ปะโอ มีการแข่งขันปรุงอาหาร มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมของชนเผ่าต่างๆ ตลอดงาน
น่าเสียดายอยู่นิดหนึ่งที่บอกเล่าข่าวนี้ช้าไปหน่อย กำลังจะมีการเปิดตัวหนังสือ "28 เมนูอร่อยฯ" ขึ้นที่นั่น อาจจะลองไว้วานให้ญาติมิตรไปจับจองซื้อหาดู.