xs
xsm
sm
md
lg

รถไฟฟ้าเวียดนามลงตัวเลือกหัวกระสุนซินกันเซ็น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#FF0066> ญี่ปุ่นผลิตฟาสต์เท็ค 360 ออกมาหลายรุ่น หน้าตาละม้ายไปเหมือนปลาไหลเมอร์เรย์ขนาดยักษ์ รถไฟฟ้าหัวกระสุนหน้าตาคล้ายกันนี้ กำลังจะวิ่งในเวียดนามในอีก 6-8 ปีข้างหน้า เชื่อมกรุงฮานอยกับนครโฮจิมินห์จะช่วยร่นเวลาการเดินทางจากปัจจุบัน 28-30 ชั่วโมง เหลือเพียง 10 ชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้น </FONT> </CENTER>

ผู้จัดการออนไลน์-- เวียดนามตัดสินใจเลือกเทคโนโลยีรถไฟฟ้าหัวกระสุนหรือชินกันเซ็น (Shinkansen) ของญี่ปุ่น สำหรับทางรถไฟความระยะทาง 1,630 กิโลเมตร ระหว่างกรุงฮานอยกับนครโฮจิมินห์ศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศในภาคใต้ คณะกรรมการร่วมเวียดนาม-ญี่ปุ่นชุดหนึ่ง แถลงเรื่องนี้เมื่อวันพฤหัสบดี (9 ต.ค.)

บริษัทที่ปรึกษาร่วมทุนเวียดนาม-ญี่ปุ่น (Vietnam-Japan Consulting Joint Venture) หรือ VJC ได้เปิดเผยรายงานผลการศึกษาชิ้นหนึ่งในกรุงฮานอย ก่อนจะนำเสนอต่อรัฐบาล และคาดว่ารัฐสภาเวียดนามจะพิจารณาเรื่องนี้ในสมัยประชุมเดือน พ.ค.2552

การใช้เทคโนโลยีชินกันเซ็นจะทำให้ "รถไฟฟ้าโฮจิมินห์" เวียดนามสามารถแล่นได้ความเร็วสูงถึง 360 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่คณะกรรมการชุดนี้เสนอแนะให้จำกัดความเร็วเอาไว้เพียง 320 กม./ชม. โดยใช้รถแบบ ฟาสเท็ค 360 (Fastech 360)

รถไฟฟ้าหัวกระสุนเวียดนามตลอดสายจะมีสถานีจอด 26 แห่ง เริ่มจากสถานีกลางในกรุงฮานอย ไปสิ้นสุดที่ปลายทางสถานีถูเทียม (Thy Thiem) ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำไซ่ง่อนในนครโฮจิมินห์ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะย่นระยะเวลาในการเดินทางลงเหลือเพียง 10 ชั่วโมง จาก 28-30 ชั่วโมงในปัจจุบัน ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าววีเอ็นเอ ซึ่งเป็นสำนักข่าวของรัฐบาล

สำนักข่าวของทางการรายงานว่าบริษัทที่ปรึกษาดังกล่าว จะทำประชาวิจารณ์รายงานผลการสำรวจศึกษาดังกล่าวก่อนจะนำเสนอต่อรัฐสภาที่จะเปิดสมัยประชุมต้นปีหน้า
<CENTER><FONT color=#ff0099> รถหัวกระสุนมองจากหลายมิติ.. บริษัททื่ปรึกษาบอกว่านี่เป็นเทคโนโลยีล่าสุดของชินกันเซ็น ให้ทั้งความสะดวกสบาย รวดเร็วและปลอดภัย ต้นทุนการขนส่งต่ำที่สุด  </FONT></CENTER>
โครงการรถไฟฟ้าโฮจิมินห์จะใช้เงินทุนก่อสร้างทั้งสิ้น 33,000 ล้านดอลลาร์ ในนั้นเกือบทั้งหมดเป็นเงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ หรือ ODA (Official Development Assistance) กับอีกส่วนหนึ่งเป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ

บริษัทที่ปรึกษานี้จัดตั้งขึ้นโดยประกอบด้วยบริษัท Transport Investment and Construction Consultant Joint Stock Company หรือ TRICC ซึ่งเป็นบริษัทเวียดนาม กับบริษัทญี่ปุ่นอีก 3 แห่ง คือ Japan Transportation Consultants (JTC) และ Japan Railway Technical Service (JARTS) กับ Nippon Koei Co Ltd ภายใต้สัญญามูลค่า 2.8 ล้านดอลลาร์ ในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา

รัฐบาลเวียดนามได้ตัดสินใจก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงเพื่อให้บริการคมนาคมขนส่งระหว่างภาคเหนือกับภาคใต้ โดยก่อสร้างเป็นเส้นทางใหม่คู่ขนานไปกับทางรถไฟที่ใช้มานานกว่า 60 ปีและใช้ระบบรถไฟในปัจจุบันเป็นรถไฟฟ้าชุมชนเพื่อให้บริการขนส่งระยะทางสั้นๆ

เมื่อปีที่แล้วรัฐบาลเวียดนามได้มีมติให้ก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงเหนือ-ใต้แบบรวดเดียว ไม่แบ่งเป็นระยะ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะเปิดใช้งานได้พร้อมกันลอดทั้งสาย
<CENTER><FONT color=#ff0099> รถไฟฟ้าหัวกระสุน Fastech 360s รุ่นพื้นฐานในญี่ปุ่น บริษัที่ปรึกษาเวียดนาม-ญี่ปุ่น ตัดสินใจเลือกเทคโนโลยีนี้สำหนับ รถไฟโฮจิมินห์ ระหว่างกรุงฮานอยกับนครโฮจิมนห์ระยะทาง 1,630 กม. การก่อสร้างน่าจะเริ่มได้ในปีหน้าเมื่อได้รับอนุมัติระบบจากรัฐสภา โครงการนี้ใช้เงินทุน 33,000 ล้านดอลลาร์ ราว 90% เป็นเงินช่วยเหลือแบบ ODA และเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากรัฐบาลญี่ปุ่น  </FONT></CENTER>
ระบบรถไฟฟ้าหัวกระสุนเป็นโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สุดในเวียดนาม แต่ในปัจจุบันกำลังมีการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่อีกกว่า 10 โครงการ ซึ่งทั้งหมดเป็นระบบสาธารณูปโภคต่างๆ

ในสัปดาห์นี้นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ได้เซ็นอนุมัติโครงการใช้จ่ายเงินประมาณ 14,800 ล้านดอลลาร์ เพื่อก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในกรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ ตลอดในช่วง 12 ปีข้างหน้านี้

กรุงฮานอยจะได้รับเงินงบประมาณ 7,300 ล้านดอลลาร์ สำหรับรถไฟฟ้า 7 สายซึ่งรวมทั้งรถไฟลอยฟ้ากับรถไฟใต้ดิน ในนั้นประมาณ 5,500 ล้านดอลลาร์จะเป็นการลงทุนของต่างชาติ

สำหรับโฮจิมินห์จะต้องใช้เงินทุนทั้งหมด 7,500 ล้านดอลลาร์ ในนั้น 6,300 ล้าน จะเป็นเงินลงทุนจากต่างประเทศ สำหรับระบบรถไฟฟ้า 6 สาย รวมทั้งรถไฟฟ้ารางเดี่ยวลอยฟ้า และรถไฟฟ้าใต้ดิน-บนดิน

นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเร่งการก่อสร้าง หรือเตรียมการสำหรับการก่อสร้างทั้งระบบรถไฟลอยฟ้าและรถใต้ดิน

ตามรายงานของธนาคารโลกที่ออกในเดือน พ.ค. เวียดนามใช้งบประมาณ 9-10% ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศในการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ
<CENTER><FONT color=#ff0099> โมเดลนี้ปรับแต่ง-ติดตั้งส่วนประกอบ จนหน้าตาออกมาเป็นพาหนะของมนุษย์ค้างคาว  </FONT></CENTER>
ปัจจุบันปัญหาการจราจรติดขัดเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับนครและเมืองใหญ่ในเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองหลวงกับโฮจิมินห์ซึ่งมีประชากร 8 ล้านคน

ปัจจุบันบริษัทฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น จีน กระทั่งรัสเซีย ต่างเสนอแผนการลงทุนก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคในเวียดนาม แต่ญี่ปุ่นเป็นรายแรกที่ประสบความสำเร็จ

การก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน-บนดินสายแรกของนครโฮจิมินห์ เริ่มขึ้นในเดือน ก.พ.ปีนี้ มีความยาวเพียง 19.7 กม. โดยใช้เงินทุนราว 1,100 ล้านดอลลาร์ ในนั้น 90% เป็นเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่น
กำลังโหลดความคิดเห็น