ผู้จัดการออนไลน์ -- นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สมเด็จฯ ฮุนเซน ได้เรียกร้องให้คนงานชาวเขมรที่กำลังทำงานในประเทศไทยเดินทางกลับประเทศทั้งหมด โดยระบุว่า ประเทศบ้านเกิดกำลังต้องการแรงงานอย่างมาก และปัจจุบันค่าแรงก็สูงขึ้นกว่าเดิมมาก และไม่ถูกนายจ้างหยามหมิ่นด้วย
“ค่าจ้างในกัมพูชาทุกวันนี้สูงกว่าในประเทศไทยเสียอีก” หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ อ้างคำกล่าวของผู้นำ หลังการปราศรัยในกรุงพนมเปญนัดหนึ่งปลายสัปดาห์ที่แล้ว
การออกเรียกร้องของสมเด็จฯ ฮุนเซน มีขึ้นเพียงหนึ่งวันก่อนที่จะเกิดการยิงต่อสู้ระหว่างทหารไทยกับทหารเขมรในพื้นที่ชายแดนด้านพนมโตร๊บ ใกล้เขาพระวิหาร ทำให้ทหารไทย 2 นายกับทหารเขมรอีก 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ และสองฝ่ายต่างยื่นประท้วงทางการทูตต่อกัน โดยฝ่ายเขมรขู่ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวสามารถนำไปสู่การเผชิญหน้ากันอย่างเต็มอัตราศึกได้
“ถ้าพวกเขาทำงานกันที่นี่ก็จะไม่ถูกนายจ้าง (ชาวไทย) ดูถูกเหยียดหยาม” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าว ทั้งสัญญาว่ารัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้งที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นสัปดาห์ที่ผ่านมา จะปรับปรุงกฎหมายแรงงานให้เข้มแข็ง รวมทั้งให้หลักประกันแก่โอกาสในการลงทุนอีกด้วย
ปัจจุบันมีคนงานกัมพูชากำลังทำงานอยู่ในประเทศไทยราว 18,300 คนเท่านั้น ขณะที่ชาวกัมพูชาอีกวันละ 100-150 คน ได้ข้ามพรมแดนเข้าไปหาโอกาสทำงานระยะสั้นในประเทศไทย ทั้งนี้ เป็นตัวเลขของกระทรวงแรงงานกัมพูชาที่อ้างโดยสำนักข่าวซินหัวของจีน
รายงานยังระบุด้วยว่า ตนงานชาวกัมพูชาส่วนใหญ่ข้ามพรมแดนไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านอย่างผิดกฎหมาย ตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงโดยพวกนายหน้าจัดหางาน และมีความเสี่ยงรอบตัวเนื่องจากไม่มีเอกสารการทำงานที่ถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขของทางการไทยกับองค์กรแรงงานต่างๆ สูงกว่านั้นมาก
ตามรายงานของโครงการแรงงานอพยพที่ตั้งอยู่ใน จ.เชียงใหม่ ของไทย ปัจจุบันคนงานกัมพูชาส่วนใหญ่ที่อยู่ในประเทศไทยกำลังทำงานในแขนงก่อสร้าง การเกษตร และ ประมง