สาวยันฮีเวียดนามได้เป็น "น.ส." สมใจอยาก

ผู้จัดการออนไลน์-- เวียดนามได้อนุญาตให้สาวแปลงเพศจากการผ่าตัดสามารถเปลี่ยนสรรพนามได้แล้วและไม่เพียงชายที่แปลงเพศเป็นหญิงเท่านั้น หญิงที่แปลงเพศเป็นชายก็สามารถเปลี่ยนสรรพนามเป็น "นาย" ได้สมใจปรารถนาเช่นเดียวกัน

แต่บทบัญญัตินี้ใช้ได้กับหนุ่มหรือสาวตัดแปลงเพศก่อนวันที่ 5 ส.ค.2551 เท่านั้น และ การแปลงเพศตั้งแต่นี้เป็นต้นไป จะต้องได้รับอนุญาตจากทางการเสียก่อนจึงได้สิทธิ์ได้รับการพิจารณาเปลี่ยนสูติบัตรและเอกสารสำคัญต่างๆ ได้

นอกจากนั้นสาวหรือหนุ่มที่ผ่าตัดแปลงเพศไปก่อนวันที่ 5 ส.ค.ปีนี้ ก็ยังตะต้องผ่านการตรวจคุณสมบัติต่างๆ อีกจำนวนหนึ่ง โดยผู้เชี่ยวชาญในคลินิกหรือโรงพยาบาลของรัฐ เมื่อผ่านการพิจารณาและได้รับความเห็นชอบแล้ว จึงจะสามารถนำหนังสือรับรองไปยื่นขอเปลี่ยนสรรพนามในเอกสารสำคัญต่างๆ ได้ ทั้งนี้เป็นรายงานบนเว็บไซต์ของรัฐบาล

กฎหมายเวียดนามปัจจุบันได้อนุญาตให้เฉพาะผู้ที่เกิดมามีเครื่องเพศทั้งสองเพศเท่านั้นสามารถผ่าตัดเลือกเพศใดเพศหนึ่งได้

บัญญัติใหม่นี้อนุญาตให้ทั้งเพศหญิงและเพศชายสามารถเข้าผ่าตัดแปลงเพศได้ แต่ภายใต้เงื่อนไหที่ว่า "มีอวัยวะเพศผิดปกติ " เท่านั้น

การผ่าตัดแปลงเพศดังกล่าวจะต้องกระทำด้วยความสมัครใจ มีความชัดเจนในความต้องการที่จะครองชีวิตในเพศตามที่ปรารถนา โดยผ่านการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์

แต่การผ่าตัดแปลงเพศไม่ว่าจะกระทำในประเทศหรือต่างประเทศ จะต้องผ่านการตรวจพิสูจน์และได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขหรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและนครต่างๆ เสียก่อน

กฤษฎีกาที่ลงนามโดยประธานาธิบดีเวียดนามยังระบุให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องต้องเก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับพลเมืองที่ผ่าตัดแปลงเพศเป็นความลับ จะสามารถเผยแพร่ได้ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ที่บทบัญญัติได้ระบุเอาไว้เท่านั้น

บทบัญญัติยังห้ามการล้อเลียน ดูถูกหรือหยามหมิ่นผู้ที่ผ่าตัดแปลงเพศอีกด้วย

นายเหวียนฮวีกวาง (Nguyen Huy Quang) รองอธิบดีกรมนิติกร กระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า กฤษฎีการฉบับนี้เป็นประโยชน์ต่อพลเมืองที่ปรารถนาจะเปลี่ยนแปลงเพศเพื่อช่วยให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นปกติและมีความสุข

แต่บทบัญญัติก็ระบุโทษหนักสำหรับผู้ที่เปลี่ยนแปลงเพศด้วยจุดประสงค์ที่เกี่ยวกับอาชญากรรม

ตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข มีชาวเวียดนามทั้งชายและหญิงต้องการผ่าตัดแปลงเพศแปลงเพศเพิ่มขึ้นทุกปีก ที่โรงพยาบาลเวียดนาม-เยอรมนีในกรุงฮานอยเพียงแห่งเดียวมีคนไข้ที่เครื่องเพศผิดปกติขอผ่าตัดแปลงเพศปีละประมาณ 100 ราย

การสำรวจได้พบว่าก่อนประกาศใช้กฤษฎีกาฉบับนี้มีผู้ที่ไปรับการผ่าตัดแปลงเพศ ประมาณ 7,000 คน ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงฮานอยกับนครโฮจิมินห์ และ ส่วนใหญ่รับการผ่าตัดในประเทศไทยกับในสิงคโปร์

เมื่อต้นปีนี้หนุ่มแปลงเพศเป็นหญิงรายหนึ่งได้เข้าพิธีวิวาห์กับคู่รักในนครโฮจิมินห์อย่างเปิดเผย แม้ว่าบัตรประจำตัวประชาชนจะยังคงนำหน้าชื่อด้วย "นาย" อยู่ก็ตาม

แต่หนุ่มรายนี้ได้พิสูจน์ตัวเองว่ามีความเป็นเพศหญิงมากกว่าเป็นเพศชาย และประสพความสำเร็จในอาชีพนักร้อง หลังไปผ่าตัดแปลงเพศจากโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในประเทศไทย.