ผู้จัดการรายวัน-- ทางการกัมพูชาจะเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ รวมทั้งการสร้างระบบรถกระเช้าขึ้นสู่ปราสาทพระวิหารที่ตั้งอยู่บนยอดผา ขณะที่จะร่วมกับฝ่ายไทยสำรวจและปักปันเขตแดนให้แล้วเสร็จ ซึ่งจะมีการสร้างกำแพงกั้นบางอาณาบริเวณที่ตกเป็นกรณีพิพาทระหว่างกันอีกด้วย
นายเขียว กัญฤทธิ์ รัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าวกัมพูชาในฐานะโฆษกรัฐบาลเปิดเผยเรื่องนี้ระหว่างแถลงข่าววันอาทิตย์ (24 ส.ค.) ที่ผ่านมา
ตามรายงานของสำนักข่าวซินหัว รัฐบาลกัมพูชาจะอนุญาตให้บริษัทเอกชนเข้าลงทุนสร้างรถกระเช้าดังกล่าวซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 2 ล้านดอลลาร์ สำหรับนำนักท่องเที่ยวขึ้นไปชมปราสาทอายุ 900 ปี ที่องค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา
นายเขียวยังกล่าวอีกว่าทางขึ้นไปชมปราสาททางฝั่งไทยจะเปิดให้บริการอีกครั้งหนึ่งเมื่อสถานการณ์ต่างๆ กลับคืนสู่ภาวะปกติ แต่นักท่องเที่ยวทั้งหลายก็สามารถไปเที่ยวชมโดยขึ้นจากฝั่งกัมพูชาได้เช่นเดียวกัน
ทางการกัมพูชากำลังพยายามสร้างถนนสายใหม่และพัฒนาถนนที่มีอยู่แล้วไปยังปราสาทพระวิหารนายเขียวกล่าว
เมื่อต้นเดือนนี้สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ราดยางถนนช่วงจากเมืองอันลองแวง (Anlong Veng) จ.อุดรมีชัย (Addar Meanchey) ไปยังเขต อ.จอมกะสาน (Chom Ksan) จ.พระวิหาร ความยาว 80 กม.ให้แล้วเสร็จโดยเร็วตลอดสาย
กัมพูชาและไทยมีเขตแดนทางบกร่วมกันรวมความยาวกว่า 800 กม. มีหลักปักปันเขตแดนรวม 73 หลัก แต่ส่วนใหญ่ได้ถูกรื้อถอน เคลื่อนย้ายหรือหายไปในช่วงสงครามที่ดำเนินมาหลายสิบปีก่อนหน้านี้
ชายแดนบางช่วงรวมทั้งด้านเขาพระวิหารไม่ได้ถูกกำหนดขึ้นโดยใช้สันปันน้ำเป็นเส้นเขตแดนธรรมชาติตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ แต่ถูกแบ่งเอาไว้โดยแผนที่ที่ฝรั่งเศสจัดทำขึ้นเมื่อกว่า 10 ปีก่อน ทำให้เกิดกรณีพิพาทกับไทยในระยะที่ผ่านมา
รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาฮอร์นัมฮอง (Hor Nam Hong) กับรัฐมนตรีต่างประเทศไทยนายเตช บุนนาค ได้พบเจรจากันระหว่างวันที่ 18-19 ส.ค.ที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และเห็นพ้องที่จะพบเจรจากันอีกครั้งหนึ่งในปลายเดือนนี้ที่เมืองเสียมราฐ เพื่อนำไปสู่การถอนทหารอย่างถาวรของสองฝ่ายออกจากเขตวัดแห่งหนึ่งใกล้กับปราสาทพระวิหาร
รัฐมนตรีต่างประเทศทั้งสองยังตกลงที่จะเสนอต่อรัฐบาลให้เปิดการประชุมคณะกรรมการร่วมชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นในเดือน ต.ค.ปีนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดสำรวจและปักปันเขตแดน ภายใต้แผนที่ตกลงที่มีอยู่แล้ว
ในวันที่ 15 ก.ค.ทหารไทยจำนวนหนึ่งได้ติดตามชาวไทยจำนวน 3 คน ที่ถูกฝ่ายกัมพูชาจับกุมไปไว้ที่บริเวณวัดแก้วสิขาคีรีใกล้กับปราสาทพระวิหารและประจำอยู่ที่นั่นตลอด 1 เดือนต่อมา ขณะที่สองฝ่ายต่างเสริมกำลังเข้าไปรวมกว่า 1,000 คน
ความตึงเครียดแผ่ไปถึงชายแดนด้านปราสาทตาเมือนชายแดนด้าน จ.สุรินทร์ที่กรมศิลปากรของไทยได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานมากว่า 20 ปีแล้ว และไทยไม่ยอมให้ทหารกัมพูชาเข้าไปในบริเวณปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของกลุ่มปราสาทชื่อเดียวกัน ซึ่งไทยกล่าวว่าตั้งอยู่ในเขตแดนของไทย
ที่นั่นอยู่ห่างจากปราสาทพระวิหารออกไปกว่า 100 กม.