xs
xsm
sm
md
lg

“สวนสวรรค์” เพื่อคนตายธุรกิจเฟื่องฟูในเวียดนาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#660099> ญาติๆ พากันจุดธูปและเซ่นไหว้ดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตในสงคราม ที่สุสานของทางการกรุงฮานอย ในปัจจุบันในนครใหญ่ต่างๆ ไม่มีพื้นที่สุสานเหลืออีกแล้วทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สำหรับคนตายเฟื่องฟู ทำกำไรได้ดีไม่แพ้การพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรหรืออาคารชุด (ภาพ: AFP) </FONT></CENTER>

ผู้จัดการรายวัน -- ขณะที่อสังหาริมทรัพย์โดยทั่วไปกำลังประสบปัญหาในเวียดนาม แต่ที่สำหรับผู้ล่วงลับไปแล้วกลับขายดีและราคาพุ่งไม่หยุด แม้ประเทศนี้กำลังพบกับปัญหายุ่งยากทางเศรษฐกิจก็ตาม

สุสานสำเร็จรูปกำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุน ที่ดินแปลงหนึ่งพื้นที่เพียง 26 ตารางเมตร ภายในเขต “สวนสวรรค์” เสาะเดนการ์เด้น (Go Den Garden Cemetery) ใน จ.บิ่งซเวือง (Binh Duong) ใกล้กับนครโฮจิมินห์มีราคาถึง 9,025 ดอลลาร์ (กว่า 300,000 บาท)

แต่ที่ดินปลูกสร้างสำหรับผู้ที่เสียชีวิตแล้วนับวันหายากขึ้น ซึ่งทำให้ธุรกิจนี้เฟื่องฟูขึ้นทุกที พร้อมกับการกว้านซื้อของบรรดาบริษัทค้าที่ดินและอสังหาริมทรัพย์เพื่อเก็งกำไร

ที่สุสานบิ่งซเวือง (Binh Duong Park Cemetery) มีการจัดทำหลุมฝังไว้เรียบร้อยเป็นบล็อกๆ โดยมีเนื้อที่มากหรือน้อยต่างกันไปในสนนราคา 421 ดอลลาร์ (14,000 บาทเศษ) ต่อ 1 ตร.ม.

แต่นั่นเป็นราคาเมื่อตอนต้นปี บริษัทนายหน้ากล่าวว่า ในเดือนนี้ราคาได้ขยับขึ้นเป็น 842 ดอลลาร์ต่อ ตร.ม.แพงขึ้นอีก 1 เท่าตัว เนื่องจากมีการกว้านซื้อเพื่อเก็งกำไร

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ (Tuoi Tre) หลุมฝังศพในเขตเมืองพร้อมที่ 13 ตร.ม.อาจจะมีราคาสูงถึง 200 ล้านด่ง หรือ 12,000 ดอลลาร์ แต่หากรวมราคาหินสลัก โลงศพ และสิ่งของตกแต่งเข้าไปราคาก็อาจจะสูงขึ้นเป็น 30,000 ดอลลาร์

ในนครโฮจิมินห์ที่ฝังศพในสุสานของทางราชการไม่มีเหลืออีกแล้ว สุสานเก่าหลายแห่งกำลังจะถูกรื้อเพื่อย้ายออกนอกเมืองเพื่อใช้ประโยชน์จากผืนดินที่มีราคาแพงมาก

แต่สำหรับชาวเวียดนามซึ่งยึดมั่นถือมั่นใจขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิม จะต้องหาทำเลดีที่สุดสำหรับบุพการี หรือสมาชิกครอบครัวที่ล่วงลับไป ไม่ว่าราคาจะสูงสักเพียงใดก็ตาม

บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งที่ประสบความสำเร็จจากโครงการบ้านจัดสรรมาแล้ว เริ่มหันไปเอาดีทำโครงการสุสาน ขณะที่ธุรกิจบ้านหรูกับอาคารชุดลำบากมาตั้งแต่ต้นปีเนื่องจากเงินเฟ้อในอัตราสูงและดอกเบี้ยที่สูงถึง 12% สูงที่สุดในเอเชียขณะนี้

บ้านสำหรับคนมีชีวิตไม่ร้อนแรงอีกต่อไปซึ่งต่างไปจากเมื่อปีที่แล้ว แต่ความต้องการที่อยู่สำหรับผู้เสียชีวิตแล้วยังสูงคงเส้นคงวา

บริษัทต่างชาติหลายต่อหลายแห่งก็กำลังบ่ายหน้าไปหาที่ผืนงามสร้าง “สวนสวรรค์” ในย่านนอกเมืองหรือหาทำเลดีๆ ในต่างจังหวัด ซึ่งแม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็ยังไม่เคยมีครั้งไหนที่อสังหาริมทรัพย์กับคนตายจะเป็นธุรกิจยอดฮิตเช่นในขณะนี้

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์แท็งเนียน ในปี 2549 บริษัท ออพทิเวสท์ อินเวสเม้นท์ พีทีอี จำกัด (Optivest Investment Pte. Ltd) จากสิงคโปร์ ได้รับใบอนุญาตจากทางการ จ.บี่งดิง (Binh Dinh) ในภาคกลางให้ลงทุนสร้างฮวงซุ้ยเก็บศพ สร้างทั้งเตาเผาศพ โรงเก็บอัฐิ และ สวนอันร่มรื่นแบบครบวงจรสำหรับคนตาย ด้วยเงินลงทุนราว 5 ล้านดอลลาร์

“สวนสวรรค์” ของนักลงทุนสิงคโปร์มีพื้นที่ทั้งหมด 12 เฮกตาร์ หรือ 75 ไร่ ในเขตชายทะเลเมืองกวีเญิน (Quy Nhon) เมืองเอกของจังหวัด ที่นั่นจะมีทั้งที่เก็บศพสำหรับญาติมิตรที่ยังไม่ต้องการทำฌาปนกิจ มีเตาเผาที่ทันสมัย โรงเก็บอัฐิกับเถ้าของผู้ตาย กับพื้นที่สีเขียวที่ร่มรื่น

สวนสวรรค์แห่งบิ่งดิงขายหมดเกลี้ยงมาตั้งแต่ปีที่แล้ว

เวียดนามที่มีประชากรเกือบ 85 ล้านคน เริ่มประสบปัญหาไม่มีฮวงซุ้ยเพียงพอในเขตเมืองและนครใหญ่ นอกจากนั้นเตาเผาศพในเมืองก็ยังไม่ทันสมัย ก่อปัญหามลภาวะ

สุสานแห่งต่างๆ ในเขตนครโฮจิมินห์ มีพื้นที่รวมกันประมาณ 1,200 เฮกตาร์ (7,500 ไร่) แต่ได้เต็มหมดแล้ว ทุกๆ ปีนครใหญ่แห่งนี้ต้องการพื้นที่ฝังศพเพิ่มปีละ 30 เฮกตาร์ (เกือบ 200 ไร่) สำหรับคนตายที่คาดว่าจะมีถึง 40,000 คนภายในปี 2563

ทางการนครโฮจิมินห์กำลังจะย้ายหลุมฝังศพประมาณ 60,000 หลุม ออกจากสุสานแห่งหนึ่งในเขต อ.บี่งเติ่น (Binh Tan) ไปตั้งใหม่ในย่านนอกเมือง เพื่อนำที่ดิน 60 เฮกตาร์ (กว่า 100 ไร่) ไปใช้เพื่อสาธารณประโยชน์

ปัจจุบันทางการนครใหญ่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในภาคใต้แห่งนี้มีเทศบัญญัติกำหนดพื้นที่เฉพาะในการทำเป็นสุสาน และเจ้าของโครงการจะต้องได้รับอนุญาตก่อน ไม่ใช่ว่าใครนึกจะสร้างขึ้นที่ใดก็ได้ ก็ยิ่งทำให้ราคาแพงขึ้นไปอีก

การลงทุนสร้างที่ทางสำหรับคนตายจึงอยู่ห่างจากนครใหญ่ไปเรื่อยๆ ในแค็ทตาล็อกของบริษัทนายหน้าค้าที่ดินสุสานในปัจจุบัน จึงเต็มไปด้วยสถานที่ดังกล่าวใน จ.บิ่งซเวือง จ.ด่งนาย (Dong Nai) ไตนิง (Tay Ninh) ที่อยู่รายรอบ รวมทั้ง จ.ลองอาน (Long An) ที่อยู่ทางทิศใต้

ในจังหวัดที่กล่าวมานี้ก็จะมีกฎระเบียบ หรือเทศบัญญัติเกี่ยวกับสร้างสุสานแตกต่างกันออกไป แต่ยังไม่มีที่ไหนห้ามครอบครัวต่างๆ ใช้ที่ดินของตัวเองทำสุสานให้แก่บรรพบุรุษ ซึ่งได้เปิดโอกาสให้ครอบครัวต่างจังหวัดที่มีที่ดินจำนวนมากได้เข้าสู่ธุรกิจนี้ด้วย

หลายครอบครัวมีโอกาสได้ขายที่ดินที่อยู่ติดกับสุสานเป็นครั้งแรก ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีใครสนใจที่ทำเลดังกล่าว

ผู้ค้าอสังหาริมทรัพย์รายหนึ่งในเขต อ.บิ่งแท็ง หรือ “บึ่นเทิน” (Binh Thanh) ในนครโฮจิมินห์กล่าวว่า ปัจจุบันเป็นเจ้าของที่ดินสุสาน เพียงพอสำหรับกว่า 1,000 ครอบครัวใน จ.บิ่งเฟื๊อก (Phuoc) ที่อยู่เหนือขึ้นไป

ธุรกิจที่อยู่สำหรับคนตายในต่างจังหวัดให้ผลกำไร 25-50% ซึ่งนับว่าดีไม่แพ้ธุรกิจบ้านจัดสรรหรืออาคารชุดสำหรับคนเป็นในเขตเมืองที่ขายออกได้ยากกว่า บริษัทนายหน้าแห่งเดียวกันกล่าว

ตามรายงานของสื่อทางการการก่อสร้างเขต “สวนสวรรค์” ใน จ.บิ่งซเวือง กำลังขยายตัวออกไปอีกหลังจากเฟสแรกแล้วเสร็จและจำหน่ายไปเกือบหมด ส่วนใน จ.ลองอาน กำลังจะเปิดขายสุสานขนาดใหญ่ซึ่งจะมีที่ทางมากพอสำหรับผู้ล่วงลับ 25,000 คน
กำลังโหลดความคิดเห็น