xs
xsm
sm
md
lg

“เมียบุช” เยือนค่ายผู้ลี้ภัยก่นผู้นำพม่าถึงชายแดน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#660099> สตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐฯ กำลังสนทนากับผู้ลี้ภัยคนหนึ่งในค่ายแม่ลาที่ชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อวันพฤหัสบดี (7 ส.ค.) พร้อมเรียกร้องให้คณะผู้นำทหารพม่าเปิดการหารือกับฝ่ายค้านอย่างจริงจังเพื่อแก้ปัญหาการเมืองใปนระเทศ (ภาพ: AFP) </STRONG></FONT></CENTER>

ผู้จัดการรายวัน -- นางลอรา บุช สตรีหมายเลข 1 ภริยาประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางเยือนค่ายผู้ลี้ภัยชาวพม่าที่ชายแดน จ.ตาก ของไทย เมื่อวันพฤหัสบดีนี้ พร้อมทั้งเรียกร้องให้คณะผู้นำทางทหารในพม่าเปิดการสนทนากับฝ่ายค้านอย่างจริงจัง เพื่อหาทางยุติความขัดแย้งและให้ผู้ลี้ภัยหลายหมื่นคนสามารถกลับสู่บ้านเกิดได้

การเยือนของ นางลอรา บุช มีขึ้นเพียง 1 วันก่อนจะครบรอบปีที่ 20 การเกิดเหตุการณ์ “888” หรือการปราบปรามประชาชนที่เดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่าครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 8 ส.ค.1988 และมีขึ้นในวันเดียวกันกับที่ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช พบปะกับผู้นำชาวพม่าพลัดถิ่นในประเทศไทย

นางบุช ซึ่งเป็นผู้ที่ออกวิจารณ์คณะปกครองทหารในพม่ามาอย่างสม่ำเสมอ ฐานละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างสูง เดินทางถึงค่ายผู้ลี้ภัย พร้อม บาบารา บุช บุตรสาวคนเล็ก ที่นั่นมีชาวพม่าที่หนีภัยเข้าสู่ประเทศไทยอาศัยอยู่กว่า 120,000 คน

ภริยา ปธน.สหรัฐฯ ได้ขอบคุณรัฐบาลไทยที่อนุญาตให้มีการตั้งค่ายผู้ลี้ภัยจำนวนทั้งหมด 9 แห่งตามแนวชายแดนกับพม่า

“ถ้าหากสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลพม่าได้.. ประชาชนก็จะสามารถเดินทางกลับบ้านได้โดยสวัสดิภาพ ซึ่งจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด” นางบุช กล่าว

“ทางออกที่ดีที่สุดน่าจะเป็นว่า พลเอกตานฉ่วย เปิดการสนทนาอย่างแท้จริง (กับพรรคฝ่ายค้าน)” สตรีหมายเลข 1 กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังพิธีต้อนรับ ที่มีการจัดฟ้อนรำในชุดประจำชาติและชุดประจำชนเผ่าต่างๆ ด้วย
<CENTER><FONT color=#660099>นางลอรา บุช กับ บาบาราบุตรสาวคนเล็ก กำลังสนทนากับผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงครอบครัวหนึ่ง ที่ค่ายแม่ลา (ภาพ: AFP) </STRONG></FONT></CENTER>
ตามรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี ที่ค่ายผู้ลี้ภัยแม่ลามีชาวพม่าอาศัยอยู่ราว 35,000 คน ที่นั่นตั้งอยู่เชิงเขาที่กั้นพรมแดนระหว่างสองประเทศ แต่การเดินทางข้ามพรมแดนเป็นการเสี่ยงต่อชีวิต คนเหล่านี้หลบหนีการปราบปรามโดยทหารรัฐบาล

ค่ายแม่ลาเป็นตั้งขึ้นที่บริเวณเดียวกันกับค่ายผู้อพยพสำหรับชาวกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นค่าผู้ลี้ภัยแห่งแรกตั้งแต่ปี 2537 หลังจากฝ่ายรัฐบาลได้บุกเข้ากวาดล้างฝ่ายต่อต้านในรัฐกะเหรี่ยง ทำให้คนนับหมื่นๆ ทะลักข้ามแดนสู่ประเทศไทย

ผู้ลี้ภัยจากพม่าส่วนมากเป็นชนชาติส่วนน้อย รวมทั้งชาวกะเหรี่ยงที่นับถือคริสต์ศาสนา และสหรัฐฯ รับปากที่จะรับผู้ลี้ภัยเหล่านี้จำนวน 26,811 คนไปตั้งถิ่นฐานในสหรัฐฯ

แต่ นางบุช กล่าวว่า “ผู้คนส่วนใหญ่ไม่อยากจะย้ายไปอยู่ประเทศที่สาม พวกเขาอยากจะกลับบ้านด้วยความปลอดภัยและมีความมั่นคงในชีวิต”

วันเดียวกันภริยา ปธน.สหรัฐฯ ยังได้ไปเยี่ยมเยือนคลินิกแห่งหนึ่ง ที่ตั้งขึ้นเพื่อให้บริการดูแลสุขภาพแก่แรงงานพม่าพลัดถิ่นโดยไม่เก็บค่ารักษา

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมครอบครัวเดินทางถึงกรุงเทพฯ ตอนเย็นวันพุธที่ผ่านมา โดยผู้นำสหรัฐฯ ได้ยกย่องความพยายามของฝ่ายต่างๆ ทีได้พยายามแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยคณะทหารในพม่าที่ปกครองประเทศมาตั้งแต่ปี 2505

“ได้มีแชมเปียนจำนวนมากในภารกิจอันมีเกียรติเหล่านี้ และข้าพเจ้าเองก็ได้แต่งงานกับบุคคลหนึ่งในนั้น” ผู้นำสหรัฐฯ ระบุในร่างคำปราศรัย วันเดียวกับที่เดินทางถึงกรุงเทพฯ
<CENTER><FONT color=#660099>สตรีหมายเลข 1 ได้รับผ้าห่มผืนเล็กเป็นของฝากระหว่างการไปเยือนค่ายผู้ลี้ภัยที่ชายแดนไทย-พม่าในครั้งนี้ (ภาพ: AFP) </FONT></CENTER>
ปธน.สหรัฐฯ กล่าวในคำแถลงฉบับหนึ่งที่ออกเมื่อวันพุธ ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะต้องหยุดยั้ง “ทรราช” ในพม่า ซึ่งสะท้อนถ้อยคำของ นางคอนโดลีซซา ไรซ์ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ที่เคยเรียกพม่าเป็น “ที่ตั้งมั่นของระบอบทรราช”

ในกรุงเทพฯ ปธน.สหรัฐฯ ยังได้พบกับชาวพม่าพลัดถิ่นจำนวนหนึ่ง รวมทั้งนักการเมืองที่ลี้ภัยเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วย

ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวกับชาวพม่าพลัดถิ่นเหล่านั้นว่า “ชาวอเมริกันพากันสวดให้มีวันที่ประชาชน (ชาวพม่า) จะมีอิสระ”

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียง 1 วัน ที่จะมีพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในกรุงปักกิ่ง ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ ได้ใช้ประเทศไทยเป็นเวทีโจมตีกล่าวหาเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในจีนเช่นเดียวกัน

นอกจากนั้น การเยือนค่ายผู้ลี้ภัยของ นางบุช และการพบชาวพม่าพลัดถิ่นของผู้นำสหรัฐฯ ยังมีขึ้นเพียง 1 วัน ก่อนวันครบรอบปีที่ 20 การปราบปรามผู้เดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3,000 คนในพม่า และนำมาสู่การกักขังนางอองซานซูจีให้อยู่ในบ้านพักมาจนถึงปัจจุบันคิดเป็นเวลารวมกันราว 17 ปี

นางซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาติแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ NLD (National League for Democracy) มีชัยอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งปี 3533 แต่คณะปกครองทหารไม่ยอมลงจากอำนาจ

ในวันศุกร์นี้ นักศึกษาและชาวพม่าพลัดถิ่นหลายหมื่นคนทั่วโลกมีกำหนดที่จะจัดกิจกรรมหลายอย่างเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์นี้

เมื่อปีที่แล้วชาวพม่านับแสนคนลงสู่ท้องถนนในกรุงย่างกุ้ง เมืองมัณฑะเลย์ กับอีกหลายเมืองในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เพียงประมาณ 2 เดือน หลังจากรัฐบาลขึ้นราคาน้ำมันเชื้อรวดเดียว 600% โดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ซึ่งได้ทำให้ประชาชนทั่วไปมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างลำบาก

การประท้วงแผ่ลามออกไปเป็นประเด็นขับไล่รัฐบาลทหาร และนำมาสู่การปราบปรามอย่างรุนแรงในเดือน ก.ย.ซึ่งองค์การสหประชาชาติกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิต 31 คน

ทางการพม่าจับกุมพระสงฆ์ที่เป็นหัวหอกการประท้วงเมื่อปีที่แล้วไปหลายรูป รวมทั้งอดีตผู้นำนักศึกษาที่เคยนำการประท้วงเมื่อ 20 ปีก่อนอีกหลายคน
<CENTER><FONT color=#660099>ภริยา ปธน.สหรัฐฯ กำลังดูมารดากับทารกคู่หนึ่งระหว่างไปไปเยือนศูนย์พยาบาลแห่งหนึ่งที่ชายแดนไทย-พม่า  ที่ตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือแรงงานพลัดถิ่นพม่าโดยเฉพาะ (ภาพ: AFP)</STRONG></FONT></CENTER>
อีกเหตุการณ์หนึ่งเมื่อวันอังคาร นายโทมัส โอเจีย ควินตานา (Thomas Ojia Quintana) ทูตพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติ ได้ไปเยี่ยมชมกิจการของเรือนจำอิงเส่ง (Insein) ที่ขึ้นชื่อในกรุงย่างกุ้ง และได้พบกับนักโทษการเมืองพม่าหลายคน รวมทั้ง นายวินทิน (Win Tin) นักหนังสือพิมพ์วัย 78 ปีที่ต้องโทษยาวนานที่สุด คือ ตั้งแต่ปี 2532 เป็นต้นมา

หลายปีมานี้สหรัฐฯ ได้เป็นผู้นำในการคว่ำบาตรคณะปกครองทหารในพม่า อีกหลายประเทศรวมทั้งแคนาดา ออสเตรเลียและสหภาพยุโรปก็ได้เข้าร่วมด้วย หลังจากเวลาผ่านไปหลายปีและรัฐบาลทหารยังไม่ได้แสดงความตั้งใจจริงที่จะพัฒนาประชาธิปไตยในประเทศและไม่ยอมแก้ไขปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชน

สัปดาห์ที่แล้ว ปธน.สหรัฐฯ ได้ลงนามในร่างรัฐบัญญัติฉบับหนึ่งเพื่อให้มีผลเป็นกฎหมายที่คว่ำบาตรการนำเข้าเพชรพลอย และเครื่องประดับอัญมณีต่างๆ ซึ่งมีต้นทางจากพม่า โดยนำเข้าผ่านประเทศที่สาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ไทย อินเดีย และจีน

ในกรุงเทพฯ วันเดียวกัน นางบุช ได้เข้าร่วมสามีเรียกร้องไปยังรัฐบาลจีน ให้ “ทำในสิ่งที่ประเทศอื่นๆ ได้กระทำ โดนทำการคว่ำบาตรด้านการเงินแก่คณะปกครองทหาร (พม่า)” ก่อนจะออกเดินทางไปร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกกรุงปักกิ่ง ที่จะมีขึ้นในวันศุกร์
กำลังโหลดความคิดเห็น