xs
xsm
sm
md
lg

“ทักษิณ-ฮุนเซน” จับมือยึดบ่อน้ำมันเขมร!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#FF0000> พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ ผู้ใกล้ชิดถ่ายภาพร่วมกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา สมเด็จฯ ฮุนเซนที่อังกอร์กอล์ฟรีสอร์ต (Angkor Golf Resort) เมืองเสียมราฐ วันที่ 6 เม.ย.ปีนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีคมนาคมและเลขาธิการพรรคไทยรักไทยที่อ้างว่า ป่วย ทุกครั้งที่จะต้องไปให้ปากคำกรณีทุจริตเครื่องซีทีเอ็กซ์อื้อฉาวก็ปรากฎตัวร่วมอยู่ในก๊วนด้วย สวมเสื้อสีแดงสวมหมวกแก๊ปคือ พล.อ.เตียบัญ รัฐมนตรีกลาโหม (ภาพ: AFP) </FONT> </CENTER>

ผู้จัดการรายสัปดาห์ - การเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 27 ก.ค.นี้ ไม่ใช่แค่เปิดให้ประชาชนไปใช้สิทธิหย่อนบัตรเลือกตั้งในคูหาธรรมดาๆ แต่ความหมายสำคัญของมันก็คือ ในเวลาเพียง 4 วินาทีที่ทุกคนตัดสินใจนั้น พวกเขากำลังเลือกองค์คณะที่จะเป็นเจ้าของครอบครองขุมพลังงานมหึมาในอ่าวไทยตลอด 5 ปีข้างหน้าหรือกว่านั้น

การเลือกตั้งกัมพูชาในปีนี้จึงเป็นความพยายามอย่างยิ่งยวดของกลุ่มปกครองคณะเดิมที่อยู่ในอำนาจมานานกว่า 20 ปี เพื่อให้ได้ครอบครองทรัพยากรอันล้ำค่าของประเทศ ท่ามกลางเสียงเล่าลือเกี่ยวกับเงินดัดฉีดมหาศาลที่อยู่เบื้องหลัง

และภาพการเดินทางเข้าเมืองเสียมราฐของอดีตนายกรัฐมนตรีไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เดินทางไปตีกอล์ฟกับสมเด็จฯ ฮุนเซน และผู้นำอีกหลายคน ได้ถูกนำมาปะติดปะต่อกันอีกครั้ง เพื่อฉายภาพการเมืองในประเทศนี้กับผลประโยชน์ข้ามพรมแดน

การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นนี้กำลังจะเป็นการเลือกตั้งครั้งแรก นับตั้งแต่กลุ่มเชฟรอนคอร์ป (Chevron Corp) ของสหรัฐฯ ได้ประกาศการค้นพบน้ำมันดิบในบ่อเจาะทดสอบนอกชายฝั่งเมืองสีหนุวิลล์ในเดือน ก.พ.2548

นั่นก็คือเกือบ 2 ปี หลังการเลือกตั้งครั้งก่อนหน้านี้ ซึ่งพรรคประชาชนกัมพูชา หรือ CPP (Cambodian People' Party) ของกลุ่มสมเด็จเจียซิม-ฮุนเซน-เฮงสัมริน ได้รับเสียงข้างมากไม่เด็ดขาด และต้องจัดตั้งรัฐบาลผสมกับพรรคฟุนซินเปค ซึ่งเป็นพรรคแนวราชนิยม ของกรมพระนโรดมรณฤทธิ์ เชษฐาต่างพระมารดากับสมเด็จนโรดมสีหมุนี กษัตริย์แห่งกัมพูชา

แต่จากวันนั้นถึงวันนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปหน้ามือเป็นหลังมือ สมเด็จฯ ฮุนเซนที่ผู้สื่อข่าวตะวันตกบางคนยกย่องให้เป็น “อัจฉริยะทางการเมือง” ได้ใช้ทุกวิธีการในการกำจัดคู่ต่อสู้สำคัญที่สุดรายนี้ให้ตกเวทีการเมืองไป ปัจจุบันกรมพระรณฤทธิ์ยังทรงพำนักในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อ “ลี้ภัย” การเมือง
<CENTER><FONT color=#FF0000> หลังถูกโค่นลงจากอำนาจวันที่ 19 ก.ย.2549 สมเด็จฯ ฮุนเซนเคยกล่าวว่า ยังติดต่อถามทุกข์สุขอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยอยู่เสมอๆ ในฐานะเพื่อนเก่า อำนาจการเมืองในกัมพูชากับพลังการเงินจากอีกฟากหนึ่งของพรมแดนผสมผสานกันอย่างลงตัว? (ภาพ: Reuters)  </FONT></CENTER>
แม้ว่าผู้ที่ยังจงรักภักดีในกัมพูชาจะได้พยายามฟื้นฟูพรรคฟุนซินเปกขึ้นมาให้ได้รับความนิยมอีกครั้ง ในช่วงปีที่ผ่านมาแต่ก็ดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก

ทั้งนักวิเคราะห์ทั้งประชาชนคนเดินถนนทั่วไปต่างก็เชื่อว่า พรรคประชาชนกัมพูชา (Cambodian People’s Party) พรรครัฐบาลจะได้ครองเสียงข้างมากในรัฐสภาอย่างแน่นอน

ผู้สนับสนุนพรรคการเมืองต่างๆ จำนวนนับหมื่นๆ คนได้ลงสู่ท้องถนนกรุงพนมเปญปลายสัปดาห์ที่แล้วเมื่อเสียงนกหวีดเป่าเริ่มฤดูกาลหาเสียงดังขึ้นอย่างเป็นทางการ ผู้สนับสนุนพรรคการเมืองต่างๆ ลงสู่ถนน โบกธงทิว บ้างก็จัดบวนรถจักรยานยนต์ รถยนต์ตบแต่งด้วยสีสันประดับธงทิวและแผ่นป้ายโฆษณา เคลื่อนที่ไปตามท้องถนนกรุงพนมเปญ

การเลือกตั้งครั้งนี้มีพรรคการเมืองเข้าร่วม 11 พรรค เพื่อชิง 123 ที่นั่งในสภา มีผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง 8.1 ล้านคน มีการจัดคูหาเลือกตั้ง 15,000 แห่งทั่วประเทศ ภายใต้การงเกตการณ์ขององค์กรต่างๆ ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศรวมกว่า 1,000 องค์กร

ดูเหมือนว่าจะเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่น วันพุธ (25 มิ.ย.) สมเด็จฯ ฮุนเซน ได้เรียกร้องให้พรรคการเมืองต่างๆ ให้แข่งขันกันอย่างสุจริต ยุติธรรมและต้องยอมรับผลคะแนนที่ออกโดยดุษณี

พรรค CPP ได้ใช้นโยบายประชานิยมครองใจประชาชนในชนบทมาตลอด 2-3 ปีให้หลังมีการแจกวัวควายสำหรับไถนา แจกเครื่องสูบน้ำให้แก่นิคมการเกษตรที่อยู่จังหวัดห่างไกล และสื่อในกัมพูชารายงานในช่วงต้นเดือน มิ.ย.ว่าพรรครัฐบาลได้นำผ้าถุงออกแจกจ่ายให้แก่แม่บ้านในหมู่บ้านยากจนแห่งต่างๆ หลายหมื่นหรือนับแสนๆ ผืน
<CENTER><FONT color=##FF0000> หลังการออกรอบครั้งนี้เพียงข้ามเดือนต่อมา พล.อ.เตียบัญ ได้เป็นผู้เปิดเผยแผนการลงทุนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นการเช่าเกาะกงเป็นเวลา 99 ปี เพื่อพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางบันเทิง การท่องเที่ยวและการเงิน หรือ แผนลงทุนสำรวจก๊าซและน้ำมันดิบในกัมพูชา (ภาพ: Reuters) </FONT></CENTER>
แต่รัฐบาลสมเด็จฯ ฮุนเซน บริหารประเทศในยุคใหม่แบบเต็มๆ มือติดต่อกันมาเป็นเวลาเกือบ 10 ปี และมีจุดบกพร่องอยู่เพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น

ที่อยู่ในระดับคอขาดบาดตายมากที่สุดเห็นจะเป็นการทำสัญญาแก้ไขเขตแดนพิพาทกับเวียดนามในปี 2549 ซึ่งพรรคฝ่ายค้านกล่าวว่า ทำให้กัมพูชาเสียเขตแดนทางตะวันออกของไปแถบหนึ่ง

แต่เรื่องเช่นนี้ชาวกัมพูชาโดยทั่วไปมักจะไม่มีเวลาพูดกัน ในขณะที่ทุกคนต้องต่อสู้เพื่อปากท้องและความอยู่รอด ขณะที่รัฐบาลฮุนเซนได้ชื่อว่าอ่อนด้อยในการบริหารจัดการเศรษฐกิจที่สุด ปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างตกอยู่ในมือของทุนสัมปทานผูกขาด

ประเทศนี้ผลิตข้าวได้มากจนเหลือพอส่งออกปีละ 1-2 ล้านตันติดต่อกันมา 2 ปีแล้ว แต่ผู้ร่ำรวยก็ยังเป็นผู้ส่งออกจากซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ชาวกัมพูชาหลายล้านก็ยังดำรงชีวิตอยู่ในความสภาพหิวโหย

เศรษฐกิจขยายตัวเฉลี่ยปีละ 11% ในช่วง 2-3 ปีมานี้ แต่เกือบครึ่งหนึ่งของประชากร 14 ล้านคนก็ยังมีรายได้วันละไม่ถึง 1 ดอลลาร์ ขณะที่ค่าครองชีพพุ่งขึ้นสูง นักวิชาการเชื่อว่าเงินเฟ้อในเดือน มิ.ย.นี้ พุ่งทะลุ 30%

ประการที่สามก็คือ รัฐบาลได้เพิกเฉยปล่อยให้นายทุนกับเจ้าหน้าที่ของรัฐจำนวนไม่น้อยเข้าขับไล่ราษฎรออกจากที่อยู่อาศัยหรือทำกินมาเป็นเวลาหลายสิบปี เพื่อยึดที่ดินไปขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าของ ในยุคที่ผืนดินราคาแพง เป็นที่ต้องการของทุนจากต่างชาติ
<CENTER><FONT color=#FF0000>พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พบหารือกับสมเด็จฯ ฮุนเซนอีกรอบหนึ่งในเวลาเย็นวันที่ 6 เม.ย. โดยได้รับการต้อนรับเยื่องผู้นำของไทย (ภาพ: Reuters) </FONT></CENTER>
กัมพูชายังไม่มีกฎหมายที่ดินคุ้มครองราษฎรที่ถือครองที่ดินโดยปรปักษ์มาหลายชั่วอายุคน จึงตกเป็นเหยื่อของอำนาจและทุนยุคใหม่อย่างง่ายดาย โดยมีการใช้คนของรัฐเป็นเครื่องมือ

นายสม รังสี (Sam Rainsy) หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านทราบปัญหาต่างๆ เหล่านี้ดี จึงได้ชูนโยบายแก้ปัญหาเงินเฟ้อเป็นหลัก ตามด้วยโยบายคืนที่ดินที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐและพ่อค้าอิทธิพลยึดเอาไปในช่วงปีใกล้ๆ นี้ให้แก่ประชาชนหลายพันคนทั่วประเทศ

“ที่ดินที่เคยถูกยึดจะถูกแจกจ่ายกลับคืนสู่ประชาชน...ลงคะแนนเสียงให้พรรคสมรังรีเพื่อเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการขึ้นเงินเดือนให้แก่ราชการด้วย” ผู้นำฝ่ายค้านกล่าวปราศรัย ขณะขบวนรถเคลื่อนไปตามถนนสายหลักรอบๆ เมืองหลวง

แม้ฝ่ายพรรคฝ่ายค้านนี้จะได้รับการสนับสนุนจากผู้คนเป็นจำนวนมากขึ้น แต่บรรดานักวิเคราะห์ต่างกล่าวว่า มีโอกาสน้อยมากที่นายสมกับพรรคของเขาจะมีคะแนนเสียงชนะพรรครัฐบาลของสมเด็จฯ ฮุนเซน ซึ่งอยู่ในอำนาจมาเป็นนาน 23 ปี

นักวิเคราะห์กล่าวว่าพรรคสม รังสี จะได้รับชัยชนะเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในบริเวณรอบนอกกรุงพนมเปญ กับในอีกบางจังหวัดที่ห่างไกล นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะถูกพรรคแนวพิทักษ์สิทธิมนุษยชนของนายแกม สุขา (Kem Sokha) แย่งคะแนนอีกด้วย

ในปัจจุบันพรรคประชาชนกัมพูชา ซึ่งกลายพันธุ์ไปจากพรรคประชาชนชนปฏิวัติกัมพูชา (Kampuchean People's Revolutionary Party) พรรคคอมมิวนิสต์สายโซเวียต ที่เวียดนามจัดตั้งขึ้นในช่วงปลายทศวรรษที่ 1970 นั้น ยังคงระบบเดิมๆ เอาไว้ครบถ้วน

ผู้นำในส่วนกลางยังควบคุมการจัดตั้งในทุกระดับจากหมู่บ้านถึงระดับตำบล อำเภอ นิคมและตัวเมือง คณะผู้นำก็ยังเป็นชุดเดิมซึ่งยังคงคุมฝูงชนที่จงรักภักดี ด้วยอำนาจอิทธิพลและนโยบายประชานิยม ที่เริ่มเข้าไปมีบทบาทสำคัญในช่วงปีใกล้ๆ นี้
<CENTER><FONT color=#FF0000> 14 พ.ค.2551 เดือนเศษหลังการรวมกลุ่มก๊วนกอล์ฟที่เสียมราฐ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกฯ น้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับ นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไปร่วมกับสมเด็จฯ ฮุนเซน ทำพิธีเปิดใช้ทางหลวงเลข 48 สายเกาะกง-สีหนุวิลล์-พนมเปญ ที่สร้างด้วยความช่วยเหลือจากไทยเป็นวงเงินกว่า 1,000 ล้านบาท งบประมาณได้รับอนุมัติสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ภาพนี้เป็นหนึ่งในหลายๆ ภาพประกอบเอกสารขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารของรัฐบาลกัมพูชา</FONT> </CENTER>
ผลการศึกษาขององค์การสิทธิมนุษยชนได้พบว่า พรรค CPP ได้แผ่กิ่งก้านสาขาเข้าครอบงำธุรกิจและบริการต่างๆ ของประเทศ ผ่านทางบริษัทตัวแทนและกลุ่มบุคคลผู้ใกล้ชิด

คนในรัฐบาลมีผลประโยชน์ในธุรกิจน้ำมันผ่านทางบริษัท โสคิเมกซ์ (Sokimex) ผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของประเทศ และผ่านกลุ่มโรงแรมสุขา (Sokha Hotel Group) ในธุรกิจการท่องเที่ยว

บริษัทหลังนี้เป็นผู้ได้รับสัมปทานดูแลผลประโยชน์การท่องเที่ยวเขตปราสาทนครวัด ซึ่งว่ากันว่าในแต่ละปีมีรายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชมกว่า 100 ล้านดอลลาร์ แต่ในช่วงปีใกล้ๆ นี้มีการส่งเข้ารัฐปีละประมาณ 30 ล้านดอลลาร์เท่านั้น

ไกลออกไปในอ่าวไทย จนถึงบัดนี้ชาวกัมพูชาโดยทั่วไปแม้กระทั่งนักการเมืองฝ่ายค้านเองมีข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับการพบก๊าซและน้ำมันของกลุ่มเชฟรอน

หลังจากออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับการค้นพบในต้นปี 2548 ตลอด 3 ปีต่อมาเชฟรอนยังไม่เคยเปิดเผยตัวเลขข้อมูลอะไรอีก ขณะที่เจ้าหน้าที่ขององค์การปิโตรเลียมแห่งชาติกัมพูชากล่าวว่า ปัจจุบันมีบริษัทต่างชาติราว 13 แห่งกำลังสำรวจหาก๊าซและน้ำมันในประเทศ

รัฐบาลกัมพูชาไม่ได้นำโครงการสัมปทานเหล่านี้เข้าขออนุมัติจากรัฐสภา และยังไม่เคยมีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับสัญญาหรือข้อตกลงที่ทำกับบริษัทต่างชาติ

ตามรายงานของสื่อในประเทศนี้ บริษัทน้ำมันรายล่าสุดที่จะเซ็นความตกลงกับกัมพูชาในเร็วๆ นี้ เพื่อเข้าสำรวจหาก๊าซและน้ำมันดิบในแหล่งบนบกรอบๆ ทะเลสาบใหญ่ (Tonle Sap) เป็นกลุ่มโทเทิ่ลออยล์ (TOTAL Oil) ฝรั่งเศสกับ CNOOC ยักษ์ใหญ่น้ำมันของรัฐบาลจีน
<CENTER><FONT color=#FF0000> เหมือนถูกสาป.. สถิตย์อยู่บนหน้าผาสูงมานานกว่า 900 ปี อยู่ในเขตแดนของประเทศไทยในยุคใหม่ตามสภาพภูมิศาสตร์ที่เป็นจริงและกฎหมายระหว่างประเทศรองรับ แต่ถูกตัดสินให้ตกไปเป็นของกัมพูชา ดินแดนอาณาบริเวณโดยรอบกลายเป็นดินแดนพิพาทไทย-กัมพูชาตลอด 46 ปีที่ผ่านมา (ภาพ: รัฐบาลกัมพูชา)</FONT></CENTER>
แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ทั้งหมด

หลายฝ่ายได้พุ่งความสนใจไปที่ อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยที่ประกาศจะเข้าไปลงทุนพัฒนาเกาะกงที่อยู่ติดกับเขตน่านน้ำและแดนดิน จ.ตราดของไทย ให้เป็นแหล่งบันเทิงและศูนย์กลางการเงินชั้นระดับภูมิภาค

ปัจจุบันรัฐบาลกัมพูชาให้บริษัทต่างชาติเช่าเกาะหลายแห่งในอ่าวไทยได้ยาวนานถึง 99 ปีในรูปแบบการสัมปทาน

สมเด็จฯ ฮุนเซนได้เคยกล่าวถึงความเป็นเพื่อนเก่าแก่ และการติดต่อไถ่ถามทุกข์สุขกันทางโทรศัพท์อยู่เป็นระยะๆ หลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกรัฐประหารโค่นลงจากอำนาจในเดือน ก.ย.2549

ก่อนจะมีการเลือกตั้งในประเทศไทยเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว เคยมีข่าวเล่าลือถึงขนาดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ แอบเข้าไปตีกอล์ฟกับสมเด็จฯ ฮุนเซนในกรุงพนมเปญมาแล้ว

ในที่สุดเดือน เม.ย.ปีนี้ ความสัมพันธ์เก่าๆ ก็เริ่มปะติดปะต่อเป็นภาพที่ชัดเจนแสดงให้เห็นความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างบุคคลที่เคยเป็นผู้นำของประเทศเพื่อนบ้าน กับอีกคนหนึ่งที่มีอำนาจมากที่สุดในกัมพูชาปัจจุบัน

ภาพยังแสดงให้เห็นจุดเชื่อมต่อระหว่างทุนกับอำนาจท่ามกลางความระแวงสงสัยของชาวไทยจำนวนไม่น้อย หลังจากรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ได้ร่วมลงนามในแถลงการณ์ร่วมสนับสนุนให้กัมพูชาจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก

พล.อ.เตีย บัญ (Tea Banh) รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชาได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษในประเทศไทยฉบับหนึ่งในช่วงเดียวกันยอมรับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความสนใจที่จะเข้าลงทุนพัฒนาแหล่งพลังงานในอ่าวไทยด้วย
<CENTER><FONT color=#FF0000> ในวันเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับการต้อนรับจาก สมเด็จฯ เจีย ซิม ประธานพรรคประชาชนกัมพูชา ซึ่งเป็นประธานวุฒิสภาอันเป็นตำแหน่งรองประมุขแห่งรัฐ ถัดจากกษัตรินย์นโรดมสีหมุนีเท่านั้น (ภาพ: Reuters) </FONT> </CENTER>
ก่อนหน้านั้น 1 เดือน หลังพิธีเปิดใช้ทางหลวงเลข 48 ของกัมพูชา พล.อ.เตีย บัญ ได้เป็นผู้ที่ออกยืนยันข่าวที่ว่า อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยมีความสนใจจะเข้าลงทุนพัฒนาเกาะกง

ถนนสายดังกล่าวความยาวกว่า 100 กม.เชื่อม จ.ตราด ของไทยเข้ากับ จ.เกาะกง-สีหนุวิลล์และกรุงพนมเปญ สร้างขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทยเป็นเงินให้เปล่าและเงินกู้กว่า 1,000 ล้านบาท งบประมาณอนุมัติในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ

ไม่ว่านายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยจะพูดอย่างไรก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถลบล้างการกล่าวหาที่ว่า “รีบร้อน” และ “ลุกลี้ลุกลน” จนเกินเหตุลงได้ ในความพยายามช่วยให้กัมพูชาจดทะเบียนปราสาทเก่าแก่ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

นายนพดลนั้นเป็นปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาตลอด ก็ยิ่งทำให้สาธารณชนเกิดความสงสัยว่าอาจจะมีข้อแลกเปลี่ยนอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ในกรณีปราสาทพระวิหารกับขุมพลังงานในเขมร

ในช่วงเดียวกันนี้สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้แสดงผลการศึกษาชี้ให้เห็นความพยายามเปลี่ยนแปลงเส้นเขตแดนน่านน้ำอ่าวไทย เพื่อให้พื้นที่ส่วนหนึ่งตกเข้าไปอยู่ในเขตของกัมพูชา

ดินแดนส่วนนั้นเชื่อว่าจะมีก๊าซและน้ำมันดิบมากที่สุดในอ่าว

แต่นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่า อาจจะไม่มีความจำเป็นต้องทำเช่นนั้นอีกแล้ว เพียงแต่ช่วยสนับสนุนให้พรรค CPP ชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้นและกุมเสียงข้างมากอย่างเด็ดเท่านั้นก็มากจนเกินพอสำหรับการเข้าควบคุมขุมบ่อก๊าซและน้ำมันดิบจากอีกฟากหนึ่ง

ภาพจากสนามอังกอร์กอล์ฟ รีสอร์ต (Angkor Golf Resort) แห่งเสียมราฐ ได้ฉายให้เห็นความมุ่งมาดปรารถนาร่วมกันในอนาคตกับชัยชนะของรัฐบาลฮุนเซนในการเลือกตั้งเดือนนี้.
(ตีพิมพ์ครั้งแรกใน “ผู้จัดการรายสัปดาห์” ฉบับวันที่ 7-13 ก.ค.2551)

กำลังโหลดความคิดเห็น