ผู้จัดการออนไลน์—รัฐบาลกำลังพิจารณากฎหมายฉบับหนึ่ง เพื่ออนุญาตให้หญิงสาวกัมพูชาแต่งงานกับชายชาวต่างชาติได้อีกครั้งหนึ่ง หลังจากสั่งห้ามเรื่องนี้มาตั้งแต่เดือน เม.ย. เพื่อพิทักษ์ปกป้องหญิงสาวชาวเขมรมิให้ตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์
นักสิทธิมนุษยชนกับกลุ่มเอ็นจีโอกล่าวว่า มาตรการของรัฐบาลเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
การสั่งห้ามในเดือน เม.ย. เพื่อป้องกันมิให้เกิดสิ่งที่ทางการเรียกว่า “การล่วงละเมิดสตรีกัมพูชา” ซึ่งรวมทั้ง "การใช้กำลังประทุษร้ายและนำไปขายตามซ่องโสเภณี" ซึ่งมักจะเกิดกับหญิงสาวที่แต่งงานกับชายต่างชาติ โดยหวังว่าจะมีอนาคตที่ดีกว่าอยู่ในดินแดนบ้านเกิด
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์แม่โขงไทมส์ รัฐบาลได้ออกพระราชกฤษฎีการห้ามหญิงสาวแต่งงานกับชายที่มิใช่ชาวกัมพูชา หลังจากมีการใช้ความรุนแรงบ่อยๆ กับหญิงสาวชาวเขมรโดยสามีชาวเกาหลี ไต้หวัน และชาวมาเลเซีย
ระหว่างการใช้พระราชกฤษฎีการฉบับดังกล่าว บรรดาบริษัทจัดหาคู่ หรือจัดจ้างเพื่อให้หญิงสาวได้แต่งงานกับชาวต่างชาติ ถูกสั่งปิดทั้งหมด
นายสัก เศรษฐา (Sak Setha) อธิบดีกรมบริหารกิจการพลเรือน กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่าพระราชกฤษฎีการเพื่อยกเลิกการห้ามดังกล่าวน่าจะออกมาในเร็วๆ นี้
คณะทำงานจากบรรดากระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมกันเรื่องนี้เมื่อวันพฤหัสบดี (3 ก.ค.) เห็นชอบในหลักการที่จะยกเลิกคำสั่งห้ามและจะประชุมกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้าเพื่อหารือในรายละเอียด แม่โขงไทมส์กล่าว
นับตั้งแต่ช่วงกลางคริสต์ทศวรรษที่ 1990 เป็นต้นมามีหญิงสาวชาวเขมรราว 5,000 คน ได้แต่งงานกับชายชาวไต้หวันเพียงแห่งเดียว และส่วนใหญ่เป็นการ "แต่งตามใบสั่งทางไปรษณีย์" ซึ่งได้ทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันกล่าว
เมื่อต้นปีนี้หญิงสาวชาวเขมรถูกสามีชาวไต้หวันสังหารอย่างโหดเหี้ยมทารุณ รัฐบาของสมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือได้โดยอ้างว่าไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับทางการที่บริหารดินแดนเกาะแห่งนี้ ซึ่งถือเป็นจังหวัดหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่.