เตือนแม่ญิงพะเยาถูกหลอกขายตัว แฝงมากับการแต่งงานกับต่างชาติ

พะเยา - บ้านพักเด็กและครอบครัว เร่งให้ความรู้เครือข่ายป้องกันขบวนการค้ามนุษย์หลอกหญิงสาวในพื้นที่ปง แต่งงานไปประเทศญี่ปุ่นเพื่อค้าประเวณี หลังพบสถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้น

ที่หอประชุมอำเภอปง นายสมศักดิ์ สุวรณสุจริต รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้เปิดโครงการเวทีชุมชนคนรักเด็กสตรีและครอบครัว จังหวัดพะเยา ซึ่งจัดโดยบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.พะเยา โดยมีเครือข่ายประกอบด้วย กลุ่มสตรีแม่บ้าน บุคลากรทางการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษาพะเยาเขต 2 ผู้บริหารท้องถิ่นประมาณ 500 คน เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

โดยปัจจุบันมีกฎหมาย ข้อระเบียบ และพระราชบัญญัติเกิดขึ้นใหม่ หลายฉบับ เช่น พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 โดยบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพะเยาเป็นหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.ดังกล่าวในฐานะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่และเป็นสถานรองรับบุคคลผู้ซึ่งได้รับความเสียหาย

การจัดเวทีชุมชนคนรักเด็กสตรีและครอบครัว เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจใน พ.ร.บ.ทั้ง 3 ฉบับ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมรับผิดชอบตนเองของชุมชน ด้วยการเป็นหูเป็นตา แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น รวมทั้งจัดทำแผนเฝ้าระวังป้องกันปัญหาในชุมชนทั้งนี้สืบเนื่องจากสถานการณ์การล่อลวงหญิงในพื้นที่ อ.ปง ไปแต่งงานกับคนญี่ปุ่นแล้ว ประสบชะตากรรมถูกบังคับค้าประเวณี หรือในลักษณะเมียทาส มีแนวโน้มสูงขึ้น สืบเนื่องจากผลทบทางเศรษฐกิจและการใช้ช่องว่างของกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ของขบวนการค้ามนุษย์

นางสาวราณี วงศ์ประจวบลาภ นักพัฒนาสังคม 8 สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพะเยา ผู้ประสานประสานงานของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า ในพื้นที่ อ.ปง มีข้อมูลการหลอกหรือว่าชักชวนผู้หญิงไปแต่งงานโดยเฉพาะที่ประเทศญี่ปุ่นโดยนายหน้าจะได้ประโยชน์ในเรื่องของการจัดหาในเรื่องของการนำพาไป หลายรายที่ไปแล้วปรากฏว่ามันไม่เป็นอย่างที่พูดคุยหรือชักชวนกันไว้ อาจจะถูกหลอกไปและบังคับค้าประเวณี หรือไปเจอผู้ชายขู่บังคับในลักษณะเมียทาส


โดยในเรื่องของการแต่งงานกับหญิงต่างชาติ ที่ประเทศญี่ปุ่นไม่มีกฎหมายห้ามจึงเป็นช่องว่างของผู้แสวงหาประโยชน์ คนที่ไปบางคนบางคิดว่าถ้าไปแล้วอาจจะได้ดีมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่จริงๆอาจจะไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาจะต้องมีกระบวนการความร่วมมือระดับท้องถิ่นขึ้นมา ผู้บริหาร อบต.ผู้นำชุมชน เครือข่ายในพื้นที่ อำเภอ จังหวัดต้องไปสอดส่องเฝ้าระวังในปัญหาในพื้นที่ถ้าพบเห็นพฤติการณ์ของคนที่เข้ามาในลักษณะอย่างนี้จะต้องแจ้งข้อมูลข่าวสารให้แก่เครือข่าย และทางราชการทราบเพื่อหาแนวทางแก้ไข

ด้านเครือข่ายแม่หญิงพะเยา เปิดเผยตัวเลขในการช่วยเหลือหญิงที่ส่งกลับคืนถิ่นในขณะนี้ว่ามีประมาณ 200 คน ซึ่งได้ดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาด้านสภาพจิตใจ และการอยู่ร่วมในสังคมที่อบอุ่น