ผู้จัดการรายวัน -- นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ออกเดินทางไปเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ (22 มิ.ย.) และ มีกำหนดเข้าพบหารือกับประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช เกี่ยวกับฐานะทางเศรษฐกิจของเวียดนาม
นักวิเคราะห์กล่าวว่า นายยวุ๋ง เดินทางไปพบหารือกับ ปธน.สหรัฐฯ ซึ่งคะแนนนิยมกำลังตกต่ำสุดขีดและมีเวลาเหลืออีกเพียง 6 เดือนก็จะครบวาระนั้น มีนัยสำคัญทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะที่เวียดนามกำลังเสี่ยงต่อการที่เงินลงทุนจากต่างประเทศจะไหลออกหลังจากเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูง
นายเออร์นี โบว์เออร์ (Erney Bower) อดีตประธานสมาคมสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน กล่าวว่านายกรัฐมนตรีเวียดนามอาจจะหยิบยกประเด็นราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นสูงทั่วโลกขณะนี้ขึ้นหารือ และเรียกร้องให้ ปธน.สหรัฐฯ ใช้อำนาจอิทธิพลที่มีอยู่ “ทำอะไรสักอย่าง” เพื่อหยุดยั้ง
ราคาน้ำมันในตลาดโลกส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจประเทศต่างๆ รวมทั้งเวียดนามด้วย และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อย่างสูงทั่วไป นายโบว์เออร์ กล่าว
ไม่เพียงนายกรัฐมนตรีเวียดนามเท่านั้น สัปดาห์นี้ประธานาธิบดีกลอเรีย มาคาร์ปากัล อาร์โรโย่ (Gloria Macarpagal Arroyo) แห่งฟิลิปปินส์ก็มีกำหนดพบหารือกับนายบุชด้วยเช่นเดียวกัน
“ผมคิดว่าพวกผู้นำคงจะไปถามประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกี่ยวกับนโยบายต่างๆ เหล่านี้ว่าเป็นอย่างไร และสหรัฐฯ สามารถทำอะไรได้บ้าง” นายโบว์เออร์ กล่าว
อัตราเงินเฟ้อปีต่อปีในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาสูงถึง 25.3% ราคาข้าวในเดือน เม.ย.สูงขึ้น 68% ขณะที่ตัวเลขขาดดุลการค้าเพิ่มสูงขึ้น 48% ในช่วง 5 เดือนแรก ทำให้ค่าเงินด่งอ่อนลงอย่างน่าใจหาย
ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้กำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเวียดนามซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาเศรษฐกิจที่โตเร็วที่สุดในเอเชีย เงินเฟ้อกำลังทำให้เกิดการนัดหยุดงานอย่างแพร่หลายตามโรงงานต่างๆ คนงานได้เรียกร้องให้นายจ้างเพิ่มค่าตอบแทนเพื่อให้สามารถรับมือกับข้าวของที่แพงขึ้นได้
ก่อนการเยือนของนายกรัฐมนตรีเวียดนามในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่เวียดนามได้เจรจาอย่างเข้มข้นกับฝ่ายสหรัฐฯ เกี่ยวกับความเป็นได้ที่จะมีการเจรจาเกี่ยวกับสัญญาการลงทุนของสองฝ่าย ซึ่งอาจจะมีการลงนามกันได้ระหว่างการเยือนของนายกยวุ๋งครั้งนี้
ในสัปดาห์นี้นักธุรกิจนักลงทุนเวียดนาม-สหรัฐฯ มีกำหนดจะเซ็นความตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจหลายฉบับ
อย่างไรก็ตามบริษัทและนักลงทุนสหรัฐฯ กำลังวิตกกังวลเกี่ยวกับความยุ่งยากทางเศรษฐกิจของเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินเฟ้อซึ่งจะทำให้ต้นทุนในการผลิตสูงขึ้น นายเมอร์เรย์ ฮีเบิร์ท (Murray Heibert) เจ้าหน้าที่ระดับสูงกิจการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หอการค้าอเมริกันกล่าว
ปัจจุบันเวียดนามกำลังปฏิบัติหน้าที่ประเทศสมาชิกประเภทหมุนเวียนในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
นายยวุ๋งเดินทางเยือนสหรัฐฯ อย่างไม่เป็นทางการเดือน ก.ย.ปีที่แล้วเพื่อร่วมประชุมใหญ่ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งครั้งนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เซ็นสัญญาซื้อเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 787 จากสหรัฐเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเวียดนามกำลังจะเผชิญหน้ากับการประท้วงของหลายกลุ่มเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนาและสิทธิมนุษยชนในประเทศนี้